จากคำให้การของนายนริศร สส.พรรคเพื่อไทย กรณีเสียบบัตรแทนกัน
เสื้อแดงในห้องนี้คิดว่า พฤติกรรมคำพูดของ "สส. พรรคเพื่อไทย"คนนี้ แถ โกหก และ สะตอเบอรี่ หรือไม่ ??
.
.
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ศาล รธน." นั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้อง พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน แยก 2 ประเด็น กระบวนการตรา-เนื้อหา ขัด รธน.หรือไม่ เบิก 2 พยานสำคัญ ในเหตุการณ์เสียบบัตรแทนกัน “นริศร-รังสิมา” ให้ถ้อยคำ ขณะเด็กเพื่อไทย แถ ชอบเสียบบัตรแสดงตนหลายครั้ง...
...
..
.
.
ทั้งนี้ น.ส.รังสิมา ได้ร้องขอต่อศาล ให้เปิดคลิปบันทึกเหตุการณ์การเสียบบัตรแทนกัน ในการลงมติ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เน้นย้ำ ไต่สวนให้น.ส.รังสิมา พิสูจน์ว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอการเสียบบัตรแทนกัน คือ นายนริศ จริง และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการลงมติร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน และเป็นคนละคลิป กับการเสียบบัตรแทนกัน ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.
น.ส.รังสิมา ระบุว่า คลิปดังกล่าว เป็นการลงมติวาระที่ 2 ในมาตรา 20 ยืนยันว่า บุคคลในคลิปที่เสียบบัตรแทนกันคือ นายนริศร เพราะได้ติดตามพฤติกรรมมา 2 ปีกว่าแล้ว และรู้จักกับนายนริศร มาตั้งแต่ปี 2544 จึงไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน ยืนยันว่าคลิปที่นำมาเป็นพยานนี้ เป็นคนละคลิปกับการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. ซึ่งนายนริศรใส่เสื้อผ้าคนละชุดกัน และเมื่อเห็นก็ได้บอกประธานที่ทำหน้าที่ในการประชุม แต่ประธานไม่ได้สนใจตน แต่อย่างใด
ขณะที่
นายนริศร ยอมรับว่า ตนเป็นผู้ที่อยู่ในคลิปจริง แต่บัตรดังกล่าวเป็นบัตรของตน และมีบัตรสำรองหลายใบ ซึ่งที่ผ่านมาชอบทำบัตรหายอยู่เรื่อยๆ และชอบเสียบบัตรหลายครั้ง เพื่อแสดงตนอยู่เป็นประจำมานับ 10 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ผู้ร้องได้ยื่นร้องมา
ด้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ถามจี้นายนริศร ถึงเหตุผลการมีบัตรหลายใบ และพฤติกรรมการเสียบบัตรแสดงตนหลายครั้งว่า สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเช่นนี้หรือไม่ และมีพยานที่นั่งข้างๆ หรือไม่ที่จะยืนยันว่า ตนเองได้เสียบบัตรส่วนตัวหลายครั้ง และขอให้แสดงบัตรสำรองทุกใบ ที่มีอยู่ให้ศาลดู แต่นายนริศรปฏิเสธว่า บัตรไม่มีแล้ว เพราะยุบสภาไปแล้ว
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอร้องต่อศาล เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติม ว่า พฤติกรรมการกดบัตรแทนกัน เพื่อแสดงตนการลงมติทำกันกว้างขวาง ในส่วนที่นายนริศร กล่าวว่า มีบัตรของตัวเองหลายใบ ซึ่งตามข้อเท็จจริง
สมาชิกแต่ละท่าน มีบัตรเพียง 1 ใบเท่านั้น หากทำหายต้องทำบัตรจริงใบใหม่ ส่วนใบเก่ารหัสจะถูกยกเลิกไป แต่ถ้าสมาชิกรัฐสภาลืมบัตร เจ้าหน้าที่จะทำบัตรสำรองให้ ซึ่งเป็นบัตรสีชมพู เพียง 1 ใบ แต่ในคลิปนั้น เป็นบัตรจริง 3-4 ใบ และถ้าเป็นบัตรเจ้าของเดียวกัน จะต้องใช้รหัสเดียวกัน ระบบจะรองรับแค่ครั้งเดียว และศาลรัฐธรรมนูญสามารถขอเอกสารในการทำบัตรใหม่ของผู้ถูกร้องจากรัฐสภาเพื่อพิสูจน์ได้
ทั้งนี้ หลังจากที่ใช้เวลาไต่สวนเกือบ 1 ชั่วโมงนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ยุติการไต่สวนในประเด็นการเสียบบัตรแทนกัน โดยนายเฉลิมพล ระบุว่า ศาลได้พยานและถ้อยคำพอสมควรแล้ว และไม่มีเหตุสงสัย ที่จะพิจารณาอีก ดังนั้น ในช่วงบ่ายศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาต่อในประเด็นเนื้อหาต่อไป จากตัวแทน รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ ในเวลา 13.30 น.
.
เรียนเชิญ อ่านข่าวเต็มๆได้ ที่
http://www.thairath.co.th/content/pol/394571 
เสื้อแดงในห้องนี้คิดว่า พฤติกรรมคำพูดของ "สส. พรรคเพื่อไทย"คนนี้ แถ โกหก และ สะตอเบอรี่ หรือไม่ ??
เสื้อแดงในห้องนี้คิดว่า พฤติกรรมคำพูดของ "สส. พรรคเพื่อไทย"คนนี้ แถ โกหก และ สะตอเบอรี่ หรือไม่ ??
.
.
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ศาล รธน." นั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้อง พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน แยก 2 ประเด็น กระบวนการตรา-เนื้อหา ขัด รธน.หรือไม่ เบิก 2 พยานสำคัญ ในเหตุการณ์เสียบบัตรแทนกัน “นริศร-รังสิมา” ให้ถ้อยคำ ขณะเด็กเพื่อไทย แถ ชอบเสียบบัตรแสดงตนหลายครั้ง...
...
..
.
.
ทั้งนี้ น.ส.รังสิมา ได้ร้องขอต่อศาล ให้เปิดคลิปบันทึกเหตุการณ์การเสียบบัตรแทนกัน ในการลงมติ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เน้นย้ำ ไต่สวนให้น.ส.รังสิมา พิสูจน์ว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอการเสียบบัตรแทนกัน คือ นายนริศ จริง และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการลงมติร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน และเป็นคนละคลิป กับการเสียบบัตรแทนกัน ในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.
น.ส.รังสิมา ระบุว่า คลิปดังกล่าว เป็นการลงมติวาระที่ 2 ในมาตรา 20 ยืนยันว่า บุคคลในคลิปที่เสียบบัตรแทนกันคือ นายนริศร เพราะได้ติดตามพฤติกรรมมา 2 ปีกว่าแล้ว และรู้จักกับนายนริศร มาตั้งแต่ปี 2544 จึงไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน ยืนยันว่าคลิปที่นำมาเป็นพยานนี้ เป็นคนละคลิปกับการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. ซึ่งนายนริศรใส่เสื้อผ้าคนละชุดกัน และเมื่อเห็นก็ได้บอกประธานที่ทำหน้าที่ในการประชุม แต่ประธานไม่ได้สนใจตน แต่อย่างใด
ขณะที่ นายนริศร ยอมรับว่า ตนเป็นผู้ที่อยู่ในคลิปจริง แต่บัตรดังกล่าวเป็นบัตรของตน และมีบัตรสำรองหลายใบ ซึ่งที่ผ่านมาชอบทำบัตรหายอยู่เรื่อยๆ และชอบเสียบบัตรหลายครั้ง เพื่อแสดงตนอยู่เป็นประจำมานับ 10 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ผู้ร้องได้ยื่นร้องมา
ด้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ถามจี้นายนริศร ถึงเหตุผลการมีบัตรหลายใบ และพฤติกรรมการเสียบบัตรแสดงตนหลายครั้งว่า สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเช่นนี้หรือไม่ และมีพยานที่นั่งข้างๆ หรือไม่ที่จะยืนยันว่า ตนเองได้เสียบบัตรส่วนตัวหลายครั้ง และขอให้แสดงบัตรสำรองทุกใบ ที่มีอยู่ให้ศาลดู แต่นายนริศรปฏิเสธว่า บัตรไม่มีแล้ว เพราะยุบสภาไปแล้ว
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอร้องต่อศาล เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติม ว่า พฤติกรรมการกดบัตรแทนกัน เพื่อแสดงตนการลงมติทำกันกว้างขวาง ในส่วนที่นายนริศร กล่าวว่า มีบัตรของตัวเองหลายใบ ซึ่งตามข้อเท็จจริง สมาชิกแต่ละท่าน มีบัตรเพียง 1 ใบเท่านั้น หากทำหายต้องทำบัตรจริงใบใหม่ ส่วนใบเก่ารหัสจะถูกยกเลิกไป แต่ถ้าสมาชิกรัฐสภาลืมบัตร เจ้าหน้าที่จะทำบัตรสำรองให้ ซึ่งเป็นบัตรสีชมพู เพียง 1 ใบ แต่ในคลิปนั้น เป็นบัตรจริง 3-4 ใบ และถ้าเป็นบัตรเจ้าของเดียวกัน จะต้องใช้รหัสเดียวกัน ระบบจะรองรับแค่ครั้งเดียว และศาลรัฐธรรมนูญสามารถขอเอกสารในการทำบัตรใหม่ของผู้ถูกร้องจากรัฐสภาเพื่อพิสูจน์ได้
ทั้งนี้ หลังจากที่ใช้เวลาไต่สวนเกือบ 1 ชั่วโมงนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ยุติการไต่สวนในประเด็นการเสียบบัตรแทนกัน โดยนายเฉลิมพล ระบุว่า ศาลได้พยานและถ้อยคำพอสมควรแล้ว และไม่มีเหตุสงสัย ที่จะพิจารณาอีก ดังนั้น ในช่วงบ่ายศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาต่อในประเด็นเนื้อหาต่อไป จากตัวแทน รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ ในเวลา 13.30 น.
.
เรียนเชิญ อ่านข่าวเต็มๆได้ ที่ http://www.thairath.co.th/content/pol/394571