ภาวะผู้นำ นายยกปู กับมาร์ค !!!!!!



ผู้ที่มีภาพจำที่ว่าเข้มแข็งอย่างคุณอภิสิทธิ์ ต้องพ่ายต่อภาพจำในความอ่อนโยนอย่างคุณยิ่งลักษณ์
จากกรณีที่มีชายผู้หนึ่งที่ได้ไปร่วมงานที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่กลางห้องประชุม พร้อมเป่านกหวีด 1 ครั้ง และ ชูแผ่นกระดาษหันไปทางนายอภิสิทธิ์ มีข้อความว่า "RESPECT MY VOTE" พร้อมตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า “ถ้าคุณยังปฏิรูปตัวเองไม่ได้แล้วจะมาปฏิรูปประเทศได้อย่างไร” ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า “ขอบคุณครับ ๆ”

ต่อมา ชายคนดังกล่าวยังคงตะโกนต่อเนื่องว่า “ตอนคุณเป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำ หยุดวาทะกรรมการโกงได้แล้ว คุณข่มขู่คุกคามคนอื่นได้ แต่คนอื่นข่มขู่คุกคามคุณไม่ได้หรืออย่างไร” นายอภิสิทธิ์ จึงตอบกลับว่า “นี่คือตัวอย่างที่ต้องปฏิรูป นี่คือรูปแบบของคู่แข่งพรรคประชาธิปัตย์” ทำให้ชายคนนี้ตะโกนกลับว่า "ผมไม่ใช่คู่แข่ง ผมคือประชาชน” จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาพาตัวชายคนดังกล่าวออกจากห้องประชุมไป โดยนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวตามหลังไปว่า “จะเห็นได้ว่าการทำกิจกรรมของเราสามารถแสดงความเห็นได้ แต่การทำกิจกรรมของเราถูกรบกวนมาโดยตลอด มาสร้างปัญหาให้กับเวทีของเรา นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงบอกว่าการเลือกตั้งเป็นธรรมไม่ได้ เพราะมีขบวนการแบบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือไม่ใช่การจัดฉาก”( http://prachatai.com/journal/2014/01/50982)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ถ้าเราเทียบกับกรณีของคุณยิ่งลักษณ์ที่ได้มีผู้หญิงได้เข้ามาเป่านกหวีดใส่นายกรัฐมนตรีชนิดประชิดตัว แต่คุณยิ่งลักษณ์ได้เดินเข้าไปหาผู้หญิงคนดังกล่าว และเมื่อเผชิญหน้ากันผู้หญิงคนดังกล่าวก็กล่าวท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "จะจับมั้ยๆ" คุณยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ไม่ค่ะ ไม่มีการจับ เชิญตามสบาย ขอบคุณนะคะ ไม่เป็นไร อยากเป่าก็เป่าเลยค่ะ ขอจับมือหน่อยนะคะ" แต่ผู้หญิงท่านี้ไม่ยอมให้จับมือ

    จากนั้น ผู้หญิงท่านนี้กล่าวว่า “ขอคุยหน่อยได้หรือไม่” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า “ยินดี” โดยผู้หญิงท่านนี้ พยายามสอบถามมาทำอะไร มาเที่ยวหรือ? แล้วจะกลับกรุงเทพฯวันไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “มาทำงาน ตรวจติดตามงานตามนโยบาย ซึ่งมาได้ 2 วันแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับ” ผู้หญิงคนดังกล่าวพยายามถามย้ำอีกว่า จะกลับกรุงเทพฯวันไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงย้อนถามกลับว่า “ถามทำไมหรือ” จากนั้น ได้ถามกลับว่า “เป็นคนที่เพชรบูรณ์หรือคนกรุงเทพฯ” ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นคนกรุงเทพฯ แต่มาทำงานที่เขาค้อ และก่อนจากลากัน ก็ได้มีการหันมาเป่านกหวีดใส่อีกครั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า “ไม่ตกใจอะไร ถือเป็นการแสดงตามสิทธิ จากนั้น ได้เดินทักทายชาวบ้านต่อ โดยชาวบ้านได้ออกมาให้กำลังใจและให้ต่อสู้ โดยระบุว่า “การเป่านกหวีดดังกล่าวเป็นเพียงคนคนเดียว”

  ดิฉันจะไม่ขอกล่าวถึงการแสดงออกของประชาชนว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เพราะ เป็นสิทธิของบุคคลที่จะแสดงออกและจะวิพากษ์วิจารณ์ประชาชนด้วยกันเอง แต่ในฐานะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 2 ท่าน ในส่วนตรงนี้ดิฉันขอกล่าวถึงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ คุณอภิสิทธิ์ยังคงมองฝั่งตรงข้ามว่าคือ “คู่แข่ง” การมองเช่นนี้ มันสะท้อนภาพว่าคุณต้องการเอาชนะเขา เพราะ การแข่งขัน ย่อมมีแพ้มีชนะ การปฏิรูประเทศเราต้องพูดถึงความสามัคคีของชาติมากกว่าการแข่งขัน เขากล่าวว่ากิจกรรมของเขาแสดงความเป็นต่างได้ แต่เป็นความเห็นต่างที่ต้องถูกใจคุณอภิสิทธิ์ เพราะ คุณได้กล่าวว่าเป็นการรบกวนและสร้างปัญหาให้เวทีของเราสะดุด การกล่าวว่ารับความเห็นต่างได้จึงไม่น่าเชื่อถือเสียเลย และ คุณจะปฏิรูปประเทศบนพื้นฐานความคิดเช่นนี้ ก็คงปฏิรูปแค่ให้ตัวเองอยู่รอดไม่ใช่ประเทศชาติ ปฏิรูปกับพวกเดียวกันที่คิดเหมือนกัน คนอื่นคิดต่างต้องกำจัดเสียเพราะทำให้เกิดการรบกวนและสะดุด

การกล่าวว่าการเลือกตั้งจะไม่เป็นธรรมจากการกระทำของผู้ชายท่านนี้ ไม่มีความสมเหตุสมผลเสียเลย การแสดงออกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่จะไม่เป็นธรรมเสียเลย เพราะ การเลือกตั้งกับการแสดงความเห็นเชิงสัญลักษณ์ดั่งที่ชายคนนี้กระทำ ถือเป็นคนละประเด็นกัน คุณอภิสิทธิ์ได้สร้างเงื่อนไขที่จะไม่ให้นำไปสู่การเลือกตั้งผ่านแค่ว่าคนคิดต่างการเลือกตั้งจะไม่เป็นธรรม การเลือกตั้งมันคือวิธีการที่ให้คนเห็นต่างอยู่ร่วมกันได้ผ่านการตัดสินใจร่วมกัน แต่การพยายามสร้างเงื่อนไขหลีกหนีการเลือกตั้งของกลุ่มกปปส. นี้คือ สิ่งที่น่าอายกว่าการกระทำของชายผู้นี้เสียอีก เพราะ คุณขัดเจตนารมณ์ของคนทั้งชาติ

แต่ผิดกับการแสดงออกของคุณยิ่งลักษณ์ที่มีทีท่าไม่มองว่าผู้หญิงท่านนั้น คือ คู่แข่งหรือคู่ตรงข้าม และไม่มีการสั่งให้จับกุมหรือแสดงทีท่ากีดกันความเห็นต่างและพร้อมที่จะพูดคุย ไม่เอาความเห็นต่างมาสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง พร้อมอยู่กับความเห็นต่าง เป็นภาพลักษณ์ผู้นำที่สังคมต้องการในสังคมที่จะต้องร่วมกันปฏิรูป ในสังคมชายเป็นใหญ่มักมองว่าผู้ชายเข้มแข็ง อดทน และมองว่าผู้หญิงอ่อนแอ ไม่อดทน แต่เหตุการณ์นี้ก็แสดงให้เป็นว่า “มายาคติเช่นนี้” ไม่เป็นความจริง

ความเข้มแข็งของคุณอภิสิทธิ์ถ้าใช้ไม่เหมาะสมก็จะมองเป็นความบ้าบิ่น ในส่วนของความอ่อนโยนของคุณยิ่งลักษณ์ถ้าใช้ไม่เหมาะสมก็จะมองว่าเธออ่อนแอ ผู้นำที่ดีต้องรู้ว่าเวลาใดคุณต้องเล่นบทใด การตีบทผู้นำที่ประชาชนพึงปรารถนาไม่แตก ก็อย่าหวังได้ไปนั่งอยู่ในใจประชาชน

ระบอบประชาธิปไตยคือระบอบโดยประชาชนเพื่อประชาชน ไม่ใช่โดยประชาธิปัตย์เพื่อประชาธิปัตย์ตามที่คุณอภิสิทธิ์ต้องการ

http://thaienews.blogspot.com/  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่