ย้อนกลับไปเมื่อ4-5วันก่อน ผมไปซื้อกับข้าวตลาดหน้าปากซอย ผมสังเกตุเห็น น้า หรือป้า สักอย่างที่ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไร เป็นผู้หญิงดูมีอายุ เเต่งตัวชุดฟรอมสีชมพูบานเย็นเหมือนเเม่บ้าน เเต่งหน้าจัดๆทาเเก้มเเดงๆ เขี้ยนคิ้วโก่งมากกว่าคนปกติสองเท่า ซึ่งถ้ามองผิวเผินคุณคงนึกว่าป้าคนนี้ บ้า เเน่ๆ เพราะผมเห็นป้เเกเดินไปบ่นไปพร้อมกับก้มเก็บเศษกระดาษ หรือขยะบนถนนของผู้คนที่รอรถเมล์ทิ้งไว้อย่างเกลื่อนกลาด ในสิ่งที่ป้าทำนั้น กลับมีสายตาของเหล่าประชาชนมองดู บางคนยิ้มกรุ่มกิ่มกับการเเต่งหน้าของป้า พร้อมกับสะกิดเพื่อนให้ดู ใบหน้าของป้านั้นถ้าพูดตามตรงเเล้วเป็นสิ่งที่น่าขันสำหรับคนปกติทั่วไปมาก ซึ่งหลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอป้าเเกอีก
วันนี้ผมต้องพาเเม่ไปหาหมอที่ รพ.เเห่งหนึ่งเพื่อที่จะนัดหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวเข่าของเเม่ที่ยืดเยื้อมานานมาก หลังจากที่นั่งรอหมออยู่นานท้องก็เริ่มร้องเพราะว่ายังไม่มีสะสารสิ่งใดร่วงลงสู่ท้องผมเลย ผมจึงตัดสินใจเดินไปเพื่อหาร้านข้าวที่อยู่ด้สนหน้า รพ. ระหว่างทางเดินผมได้เดินตามหลังผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดฟรอมสีชมพูบานเย็น มือซ้ายกำลังถือถังน้ำพร้อมกับไม้ถู มือขวาถือที่ตักผงพร้อมกับไม้กวาด ผมเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรด้วยความหิวจึงพยายามเดินเเซงคนนั้นไปเเต่ด้วยความเอะใจจึงเหลียวกับมามองป้าคนที่มือสองข้างไม่ว่างเลยสักหน่อย
เห้ย!! นี่คือป้าคนที่เก็บขยะเเถวป้ายรถเมล์นี่หว่า ผมเห็นหน้าเเกเเล้วชะงักสักสามวิ ก่อนจะเดินไปซื้อข้าวกิน ระหว่างเดินกลับมาก็เห็นป้าเเกกำลังทำความสะอาดรพ.อย่างขมักเขม้น เเละไล่เก็บเศษขยะที่ถูกวางทิ้งไว้บนเก้าอี้ของผู้ที่มาใช้บริการในรพ. เหมือนเช่นเดิม การเเต่งหน้าของป้าเเกด็ยังเป็นจุดที่น่ามองเเละน่าขบขันของผู้คนที่มาใช้บริการใน รพ. ดังกล่าว
หลายคนคงจะคิดว่าป้าคนนี้เป็นคนบ้าหรือเป็นโรคประสาทที่เเต่งหน้าตลกๆอะไรสักอย่าง ผมเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เเต่หลายคนจะคิดหรือไม่ว่าถึงเเม้ว่าป้าเค้าจะเป็นคนประเภทไหนในสังคม เเต่จิตใต้สำนึงของป้าเค้าก็ยังถือว่าเป็นคนที่น่านับถือคนนึงที่ยังรู้ว่าสิ่งไหนมันควรที่จะอยู่ตรงไหนของมัน อย่างเช่นขยะที่เเกเจอบนทางเดินหน้าป้ายรถเมล์ เเกยังรู้จักเก็บทิ้งให้เป็นที่เป็นทางเเต่สิ่งที่เเกได้ทำไปนั้นกลับถูกมองข้ามโดยง่ายจากสายตาผู้ที่พบเห็นคือใบหน้าที่ถูกตกเเต่งจนเกินคนปกติ จนทำให้เเกดุเป็นเเค่คนบ้าในสายตาของคนทั่วไป มากกว่าจะเป็นคนที่สำนึกดีในสังคมเสียอีก.......จิตสำนึกมันเป็นพื้นฐานของจิตใจที่จะบังคับคนให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลวได้โดยมันไม่สนหรอกนะครับว่าคุณจะเป็น คนดี หรือ คนบ้า
by : ควายต้น Yarangsri
facebook : ควายต้น Yarangsri
จิตสำนึกคนบ้า
วันนี้ผมต้องพาเเม่ไปหาหมอที่ รพ.เเห่งหนึ่งเพื่อที่จะนัดหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดหัวเข่าของเเม่ที่ยืดเยื้อมานานมาก หลังจากที่นั่งรอหมออยู่นานท้องก็เริ่มร้องเพราะว่ายังไม่มีสะสารสิ่งใดร่วงลงสู่ท้องผมเลย ผมจึงตัดสินใจเดินไปเพื่อหาร้านข้าวที่อยู่ด้สนหน้า รพ. ระหว่างทางเดินผมได้เดินตามหลังผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดฟรอมสีชมพูบานเย็น มือซ้ายกำลังถือถังน้ำพร้อมกับไม้ถู มือขวาถือที่ตักผงพร้อมกับไม้กวาด ผมเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรด้วยความหิวจึงพยายามเดินเเซงคนนั้นไปเเต่ด้วยความเอะใจจึงเหลียวกับมามองป้าคนที่มือสองข้างไม่ว่างเลยสักหน่อย
เห้ย!! นี่คือป้าคนที่เก็บขยะเเถวป้ายรถเมล์นี่หว่า ผมเห็นหน้าเเกเเล้วชะงักสักสามวิ ก่อนจะเดินไปซื้อข้าวกิน ระหว่างเดินกลับมาก็เห็นป้าเเกกำลังทำความสะอาดรพ.อย่างขมักเขม้น เเละไล่เก็บเศษขยะที่ถูกวางทิ้งไว้บนเก้าอี้ของผู้ที่มาใช้บริการในรพ. เหมือนเช่นเดิม การเเต่งหน้าของป้าเเกด็ยังเป็นจุดที่น่ามองเเละน่าขบขันของผู้คนที่มาใช้บริการใน รพ. ดังกล่าว
หลายคนคงจะคิดว่าป้าคนนี้เป็นคนบ้าหรือเป็นโรคประสาทที่เเต่งหน้าตลกๆอะไรสักอย่าง ผมเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เเต่หลายคนจะคิดหรือไม่ว่าถึงเเม้ว่าป้าเค้าจะเป็นคนประเภทไหนในสังคม เเต่จิตใต้สำนึงของป้าเค้าก็ยังถือว่าเป็นคนที่น่านับถือคนนึงที่ยังรู้ว่าสิ่งไหนมันควรที่จะอยู่ตรงไหนของมัน อย่างเช่นขยะที่เเกเจอบนทางเดินหน้าป้ายรถเมล์ เเกยังรู้จักเก็บทิ้งให้เป็นที่เป็นทางเเต่สิ่งที่เเกได้ทำไปนั้นกลับถูกมองข้ามโดยง่ายจากสายตาผู้ที่พบเห็นคือใบหน้าที่ถูกตกเเต่งจนเกินคนปกติ จนทำให้เเกดุเป็นเเค่คนบ้าในสายตาของคนทั่วไป มากกว่าจะเป็นคนที่สำนึกดีในสังคมเสียอีก.......จิตสำนึกมันเป็นพื้นฐานของจิตใจที่จะบังคับคนให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลวได้โดยมันไม่สนหรอกนะครับว่าคุณจะเป็น คนดี หรือ คนบ้า
by : ควายต้น Yarangsri
facebook : ควายต้น Yarangsri