สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ ครับ ฝากตัวด้วยครับ
ผมขอมาแชร์ประสบการณ์ในปฎิบัติการ ที่ผมตั้งชื่อว่า "พลิกฟ้าล่าจักรวาลอาซิมอฟ" ของผมครับ
ผมเป็นคนที่เริ่มคลั่ง อะไรที่เกี่ยวกับsci-fi มาก เมื่อไม่นานมานี้ครับทั้งหนัง ของเล่น งานอาร์ท และซีรีย์ด้วย แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ในวงการ เลยไม่เคยอ่านนิยายที่เป็นวิทยาศาสตร์ชั้นตำนานเลย
คือเพื่อนเห็นว่าผมชอบ สตาร์วอลล์ และสตาร์เทร็คมากๆ แถมสะสมของไว้เพียบ เลยแนะนำ ให้อ่านนิยายวิทยาศาสตร์ดูบ้าง
และก็หนีไม่พ้น "สถาบันสถาปนา"ของ ไอแซค อาซิมอฟ
ใครคือไอแซค อาสิมอฟ ? นี่คือคำถามแรกของผม ชื่อโบราณมากๆ ผมจินตนาการเชิงลบหลู่ ไว้ว่าคงเหมือนพวกนักวิทยาศาตร์สติเฟื่อง ใส่แว่นหนาๆ สูทหลวมๆที่ออกทีวีสีสมัยก่อนที่จอเป็นเส้นลายน้ำ
เพื่อนผมจึงได้เปิดโลก ผ่านประตูวิเศษที่เรารู้จักกันในนามgoogle ให้ผมรู้จักกับ ปรมาจารย์เลือดรัสเซีย ผสมยิว สัญชาติอเมริกา ผู้นั่งเหนือบัลลังก์นักเขียนนิยายไซไฟทุกคนในโลกผู้นี้ ทั้งผมยังศึกษาจากสารานุกรมแห่งปฐมภพที่หลายท่านเรียกขานว่า Wikipediaจนรู้เรื่องราวจักรวาลที่รังสรรค์โลกอนาคตอย่างเหนือกาลเวลาและยุคสมัย ของคนที่ทั่วโลกตั้งสมญาว่า "เครื่องจักรนักเขียน"
ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงครับ อ่านประวัติและรีวิวแนะนำนักเขียนคนนี้ หลังจากอ่านจบ เลือดsci-fiในตัวผมน่ะเหรอครับ มันเดือดปุดๆๆๆ เร่าร้อนสุมอกจะระเบิด บอกกับตัวเองว่า ไม่ว่ายังไงผมต้องหามาครอบครองไว้ให้ได้
ซึ่งหนังสือ ฉบับแปลไทย ในยุคสมัยนี้ อยู่ในขั้น"แรร์ไอเทม" กันเลยทีเดียว อย่าว่าแต่ตามร้านขายหนังสือเลยครับที่ไม่มีขายแล้ว
ห้องสมุดมหาลัยที่ีคิดว่าจะยืมมาอ่านยังmissingเกือบหมด แม้กระทั้งสำนักพิมพ์ที่จัดจำหน่ายก็มีไม่ครบตั้งแต่เล่มแรกๆ ในเวปร้านหนังสือเก่าก็soldกันทุกเล่มในหมวดนิยายวิทยาศาสตร์
นักอ่านมือใหม่อย่างเราทำยังไงละครับ ก็ หากันสิครับ หาๆ สืบๆ เสิร์ชๆ กัน ชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ทุกร้านในห้าง ข้างบ้าน ปากซอย แผงเล็กแผงใหญ่ หามาหมดเกือบ2อาทิตย์ ถึงขนาดโทรไปสำนักพิมพ์แต่ก็ขาดหลายเล่มโดยเฉพาะแรร์ ออฟ แรร์ เล่มที่2 ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานว่า ขาดมานานมากแล้วตั้งแต่วางแผงใหม่ๆ
ผมแทบหมดหวังครับ เกือบจะสั่งซื้อสำนักพิมพ์ เอาเท่าที่ได้วะ ไม่ครบก็จะหามาจนได้ ดาบหน้าเอางานหนังสือฟระ
จนกระทั่งได้ยินเสียงล่ำลือ จากกระทู้เล็กๆในพันทิปนี้ เป็นลายแทงของนักแสวงหา ให้ไปสวนจตุจักร ตามที่เคยเห็นจากกระทู้หนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นร้านเดียวที่รวบรวมไว้ได้ครับถ้วน รูปเล่มสมบูรณ์ที่สุด และมีขายทั้งชุดตั้งแต่1-7สนพ.โปรวิชั่น (เล่มที่อาสิมอฟแต่งเอง) ร(ร้านที่ลงบันไดไปเจอเลย ที่มีคนขายเป็นพี่ผู้หญิงทอมมี่ น่ารักๆ น่ะแหละครับ)
มีคนบอกว่า อาจจะ นะ อาจะเป็นชุดที่ครบถ้วนและสุขภาพดีที่สุดในประเทศ (นอกจากงานหนังสือ ซึ่งอาจมีหรือไม่มี )ที่วางขาย เท่านั้นแหละครับ ผมสอยมาครอบครองเลย 7เล่ม ราคา1600บ(ราคานี้ อ้อนวอนยังไงก็ลดไม่ได้55+) พร้อมด้วย จุดดับแห่งนิรันดร์ และ โลหะนคร รวม9เล่ม เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง
(ผมอ่านในคืนเดียวจนจบเล่ม1 ผมจะอธิบายความรู้สึกในลำดับต่อไป)
ยังไม่หมดแค่นั้นครับ อีกครั้งที่ไป กะว่าจะไปเล่นๆชิวๆพาแม่ไปซื้อของที่jj ก็อดแว้บเข้าไปที่แผงหนังสือเก่าไม่ได้ ผมถามเปรยๆกับพี่เจ้าของร้านว่า มีงานของอาสิมอฟไหม พี่แกบอกว่าไม่มี หลุดมาเลย
โชคดีครับ ที่มีพี่ลูกค้าคนนึงได้ยินเข้า จึงบอกว่าเขาเห็นร้านนึง(ร้านที่มีนิยายลิขสิทธ์ยุคเก่านิยาย2สลีงค์ ที่เรียงไว้บนโต๊ะเป็นตั้งๆ แนวลึกค่อนข้างหายาก) มีอยู่1เล่ม พี่ชายคนนี้ใจดีมากครับ เดินนำไป ........0o จนกระทั่ง
โอ้ แม่เจ้า.....อาทิตย์เปลือย the Naked sun หนึ่งในแรร์ไอเทมเป็นภาคต่อโลหะนคร ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์สำนักพิมพ์ยุคเก่า(ที่ในห้องสมุดมหาลัยยังหาย) วางหลาอยู่ ผมฮุบทันทีเลยครับ หนังสือสุขภาพดีมาก งานศิลป์บนปกสียังสด กระดาษเหลืองพองาม
ก่อนกลับผมค้นๆในตั้งลึกๆที่หาแหวกเข้าไปลำบากมาก ก็เจอแจ๊คพอตอีกสองเล่มครับ คือ Fantastic Voyage(ท่องทะเลเลือด) และRobot of downเล่ม2(หุ่นยนตร์และจักรวรรดิ์)พิมพ์ครั้งโบราณมากเช่นกัน ผมจัดเช็คบิลอีกทันที
แต่ทว่าผมเอะใจที่Robot of downมันเป็นเล่ม2 เล่ม2 ? what why??? แล้วเล่มหนึ่งล่ะ ผมถามน้าเจ้าของร้าน
"เอ่อ.....น้าครับ ในกองนี้มีของไอแซดอาซิมอฟ อีกไหม ที่หน้าปกแบบนี้" ผมยื่นหนังสือเล่ม2ให้ดู
"ไม่รู้สิ มี รึ ไม่มี ไม่แน่ใจ มีเวลาก็ลองหาๆดู" น้าเจ้าของร้านแกตอบ
"อ่าว...เห้ย" กองพเนินเทินทึกกีวันจะเจอครัฟฟฟ แต่ขณะที่ผมปลงจะหันหลังกลับ ลางสังหรณ์บางอย่างบอกผมว่า
หาต่อไปทาเคชิอย่ายอม แพ้ โอ้สสสสส!!!!
ผมก็กัดฟัน คุ้ยๆ มุดๆหัวเข้า ลื้อหนังสือออกเป็นตั้งๆ หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง (คุณแม่ไปนวดเท้ารอ)และฝุ่นที่ทำให้ผมแสบตาแสบจมูก และแล้ว ในมุมมืดที่นิยายรักพิสวาสกองทับถม ในซอกที่ลึกแทบจะติดโต๊ะ ผมก็เจอครับ Robot of downเล่ม1 โดย กุลติ นอนนิ่งสงบรอคอยให้ผมเจอมัน งดงามครับ ราคาก็งาม
หลังจากผมจ่ายตังค์และแนะนำให้น้าเจ้าของร้านรีโนเวทแผงหนังสือแบบหาง่ายและสะอาดกว่าเดิมหน่อย ผมก็กลับด้วยจิตใจเบิกบาน
ผมใช้ช่วงวันหยุดปีใหม่โหมอ่านถึงเล่ม7 ละครับ ปรมาจารข์ไอแซคพาผมเข้าถึงปรัชญาแห่งสังคมโลก และการบิดพริ้วของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ที่ทำให้คุณสะท้อน ย้อนแย้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราและรอบโลกได้อย่างชาญฉลาดลึกล้ำ ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหนือจินตนาการ
ประดับด้วยเกรียติยศ เทียบชั้นกับลอร์ด ออฟเดอะ ริง หรือ งานของเชคสเปียร์ได้เลย หากศึกษาเพิ่มเติมจากปีคศ.ที่เขียน เราจะรู้ได้เลยว่า จักรวาลแห่งอาซิมอฟ คือบรรพบุรุษของ "ทุกสิ่งอย่างที่ชูธงคำว่าsci-fi" ทุกยุคทุกสมัย และเป็นแรงบันดาลใจทั้งด้านแนวคิดและนวัตกรรม
มีเพื่อนนักอ่านของผม บอกว่าอ่านเรื่องนี้ไม่กี่หน้าก็หลับ เพราะมันดูโบรำ่โบราณมาก ผมแนะนำครับแนะนำ ให้จิตนาการว่าตัวคุณอยู่ในพ.ศ.เดียวกับนักเขียน
ในยุคที่เพิ่งเสร็จสิ้นสงครามโลก อย่าว่าจะสร้างยานอวกาศเลย การได้เห็นอาหารกระป๋องก็ดูเลิศหรูไซไฟที่สุดแล้ว ในยุคที่คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกินเนื้อที่ทั้งห้องโถงใหญ่ และในยุคที่ทฤษฎีสัมพันธภาพเพิ่งเป็นที่แพร่หลาย และน้อยคนจะเข้าใจว่ามันมีประโยชน์มากกว่าสบู่หนึ่งก้อน และเป็นปัจจัยที่สำคัญในการให้กำเนิดจิตนการที่เลิศล้ำของบุคคลผู้หนึ่ง
ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้เพราะอยากให้เด็กไทยเริ่มอ่านนิยายวิทยาศาสตร์กันเยอะๆครับ เพราะมันคือ เมล็ดพันธ์ุของการเจริญทางด้านปัญญา และเป็นแรงบันดาลใจในการ คิด ศึกษา ริเริ่ม สร้างสรร สิ่งใหม่ๆให้แก่มวลมนุษยชาติในภายภาคหน้า
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งทีผมเขียนนี้อาจเป็นประโยชน์ให้แก่การเริ่มต้นอ่านให้แก่ใครหลายๆคน และนักอ่านหนังสือที่ไม่มีวางแผงแล้ว จะได้ท่องยุทธภพค้นหาหนังสือแรร์ไอเทมที่ตนใฝ่ฝัน คุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่ได้มาครอบครองมันทรงคุณค่าเพียงใด
ถึงตอนนี้ ผมยังมีหนังสือของอาสิมอฟยังไม่ครบครับเหลืออีกหลายชุดหลายเรื่อง ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ผมยังเปิดรับทุกเบาะแสที่จะตามหาหนังสือเรื่องอื่นๆอยู่ตลอดครับ ใครมีเบาะแสการวางแผงของอาซิมอฟเล่มใด คอมเมนท์กันด้วยก็จะขอขอบพระคุณมากครับ ผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ร้านใด ผมจะตามไปเสาะเเสวงหามาให้ได้ครับ
สุดท้ายขอฝาก คำคมไว้ว่า
"หากการอ่านพงศาวดารประวัติศาสตร์เพื่อให้รู้ความเป็นไปในอดีตฉันใด การอ่านนิยาวิทยาศาสตร์ก็เพื่อให้รู้ความเป็นไปในอนาคตฉันนั้น"
ปล. หากผมได้หนังสือมาเพิ่มเติม ผมจะมาอัพเดท ปฏิบัติการพลิกฟ้าล่าจักรวาลหาอาซิมอฟ ในตอนต่อไป ครับ
ขอบคุณผู้รักนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนจบ
ปฎิบัติการ"พลิกฟ้าล่าจักรวาลอาซิมอฟ" ตอนที่1
ผมขอมาแชร์ประสบการณ์ในปฎิบัติการ ที่ผมตั้งชื่อว่า "พลิกฟ้าล่าจักรวาลอาซิมอฟ" ของผมครับ
ผมเป็นคนที่เริ่มคลั่ง อะไรที่เกี่ยวกับsci-fi มาก เมื่อไม่นานมานี้ครับทั้งหนัง ของเล่น งานอาร์ท และซีรีย์ด้วย แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ในวงการ เลยไม่เคยอ่านนิยายที่เป็นวิทยาศาสตร์ชั้นตำนานเลย
คือเพื่อนเห็นว่าผมชอบ สตาร์วอลล์ และสตาร์เทร็คมากๆ แถมสะสมของไว้เพียบ เลยแนะนำ ให้อ่านนิยายวิทยาศาสตร์ดูบ้าง
และก็หนีไม่พ้น "สถาบันสถาปนา"ของ ไอแซค อาซิมอฟ
ใครคือไอแซค อาสิมอฟ ? นี่คือคำถามแรกของผม ชื่อโบราณมากๆ ผมจินตนาการเชิงลบหลู่ ไว้ว่าคงเหมือนพวกนักวิทยาศาตร์สติเฟื่อง ใส่แว่นหนาๆ สูทหลวมๆที่ออกทีวีสีสมัยก่อนที่จอเป็นเส้นลายน้ำ
เพื่อนผมจึงได้เปิดโลก ผ่านประตูวิเศษที่เรารู้จักกันในนามgoogle ให้ผมรู้จักกับ ปรมาจารย์เลือดรัสเซีย ผสมยิว สัญชาติอเมริกา ผู้นั่งเหนือบัลลังก์นักเขียนนิยายไซไฟทุกคนในโลกผู้นี้ ทั้งผมยังศึกษาจากสารานุกรมแห่งปฐมภพที่หลายท่านเรียกขานว่า Wikipediaจนรู้เรื่องราวจักรวาลที่รังสรรค์โลกอนาคตอย่างเหนือกาลเวลาและยุคสมัย ของคนที่ทั่วโลกตั้งสมญาว่า "เครื่องจักรนักเขียน"
ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงครับ อ่านประวัติและรีวิวแนะนำนักเขียนคนนี้ หลังจากอ่านจบ เลือดsci-fiในตัวผมน่ะเหรอครับ มันเดือดปุดๆๆๆ เร่าร้อนสุมอกจะระเบิด บอกกับตัวเองว่า ไม่ว่ายังไงผมต้องหามาครอบครองไว้ให้ได้
ซึ่งหนังสือ ฉบับแปลไทย ในยุคสมัยนี้ อยู่ในขั้น"แรร์ไอเทม" กันเลยทีเดียว อย่าว่าแต่ตามร้านขายหนังสือเลยครับที่ไม่มีขายแล้ว
ห้องสมุดมหาลัยที่ีคิดว่าจะยืมมาอ่านยังmissingเกือบหมด แม้กระทั้งสำนักพิมพ์ที่จัดจำหน่ายก็มีไม่ครบตั้งแต่เล่มแรกๆ ในเวปร้านหนังสือเก่าก็soldกันทุกเล่มในหมวดนิยายวิทยาศาสตร์
นักอ่านมือใหม่อย่างเราทำยังไงละครับ ก็ หากันสิครับ หาๆ สืบๆ เสิร์ชๆ กัน ชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ทุกร้านในห้าง ข้างบ้าน ปากซอย แผงเล็กแผงใหญ่ หามาหมดเกือบ2อาทิตย์ ถึงขนาดโทรไปสำนักพิมพ์แต่ก็ขาดหลายเล่มโดยเฉพาะแรร์ ออฟ แรร์ เล่มที่2 ซึ่งเป็นตำนานเล่าขานว่า ขาดมานานมากแล้วตั้งแต่วางแผงใหม่ๆ
ผมแทบหมดหวังครับ เกือบจะสั่งซื้อสำนักพิมพ์ เอาเท่าที่ได้วะ ไม่ครบก็จะหามาจนได้ ดาบหน้าเอางานหนังสือฟระ
จนกระทั่งได้ยินเสียงล่ำลือ จากกระทู้เล็กๆในพันทิปนี้ เป็นลายแทงของนักแสวงหา ให้ไปสวนจตุจักร ตามที่เคยเห็นจากกระทู้หนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นร้านเดียวที่รวบรวมไว้ได้ครับถ้วน รูปเล่มสมบูรณ์ที่สุด และมีขายทั้งชุดตั้งแต่1-7สนพ.โปรวิชั่น (เล่มที่อาสิมอฟแต่งเอง) ร(ร้านที่ลงบันไดไปเจอเลย ที่มีคนขายเป็นพี่ผู้หญิงทอมมี่ น่ารักๆ น่ะแหละครับ)
มีคนบอกว่า อาจจะ นะ อาจะเป็นชุดที่ครบถ้วนและสุขภาพดีที่สุดในประเทศ (นอกจากงานหนังสือ ซึ่งอาจมีหรือไม่มี )ที่วางขาย เท่านั้นแหละครับ ผมสอยมาครอบครองเลย 7เล่ม ราคา1600บ(ราคานี้ อ้อนวอนยังไงก็ลดไม่ได้55+) พร้อมด้วย จุดดับแห่งนิรันดร์ และ โลหะนคร รวม9เล่ม เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง
(ผมอ่านในคืนเดียวจนจบเล่ม1 ผมจะอธิบายความรู้สึกในลำดับต่อไป)
ยังไม่หมดแค่นั้นครับ อีกครั้งที่ไป กะว่าจะไปเล่นๆชิวๆพาแม่ไปซื้อของที่jj ก็อดแว้บเข้าไปที่แผงหนังสือเก่าไม่ได้ ผมถามเปรยๆกับพี่เจ้าของร้านว่า มีงานของอาสิมอฟไหม พี่แกบอกว่าไม่มี หลุดมาเลย
โชคดีครับ ที่มีพี่ลูกค้าคนนึงได้ยินเข้า จึงบอกว่าเขาเห็นร้านนึง(ร้านที่มีนิยายลิขสิทธ์ยุคเก่านิยาย2สลีงค์ ที่เรียงไว้บนโต๊ะเป็นตั้งๆ แนวลึกค่อนข้างหายาก) มีอยู่1เล่ม พี่ชายคนนี้ใจดีมากครับ เดินนำไป ........0o จนกระทั่ง
โอ้ แม่เจ้า.....อาทิตย์เปลือย the Naked sun หนึ่งในแรร์ไอเทมเป็นภาคต่อโลหะนคร ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์สำนักพิมพ์ยุคเก่า(ที่ในห้องสมุดมหาลัยยังหาย) วางหลาอยู่ ผมฮุบทันทีเลยครับ หนังสือสุขภาพดีมาก งานศิลป์บนปกสียังสด กระดาษเหลืองพองาม
ก่อนกลับผมค้นๆในตั้งลึกๆที่หาแหวกเข้าไปลำบากมาก ก็เจอแจ๊คพอตอีกสองเล่มครับ คือ Fantastic Voyage(ท่องทะเลเลือด) และRobot of downเล่ม2(หุ่นยนตร์และจักรวรรดิ์)พิมพ์ครั้งโบราณมากเช่นกัน ผมจัดเช็คบิลอีกทันที
แต่ทว่าผมเอะใจที่Robot of downมันเป็นเล่ม2 เล่ม2 ? what why??? แล้วเล่มหนึ่งล่ะ ผมถามน้าเจ้าของร้าน
"เอ่อ.....น้าครับ ในกองนี้มีของไอแซดอาซิมอฟ อีกไหม ที่หน้าปกแบบนี้" ผมยื่นหนังสือเล่ม2ให้ดู
"ไม่รู้สิ มี รึ ไม่มี ไม่แน่ใจ มีเวลาก็ลองหาๆดู" น้าเจ้าของร้านแกตอบ
"อ่าว...เห้ย" กองพเนินเทินทึกกีวันจะเจอครัฟฟฟ แต่ขณะที่ผมปลงจะหันหลังกลับ ลางสังหรณ์บางอย่างบอกผมว่า
หาต่อไปทาเคชิอย่ายอม แพ้ โอ้สสสสส!!!!
ผมก็กัดฟัน คุ้ยๆ มุดๆหัวเข้า ลื้อหนังสือออกเป็นตั้งๆ หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง (คุณแม่ไปนวดเท้ารอ)และฝุ่นที่ทำให้ผมแสบตาแสบจมูก และแล้ว ในมุมมืดที่นิยายรักพิสวาสกองทับถม ในซอกที่ลึกแทบจะติดโต๊ะ ผมก็เจอครับ Robot of downเล่ม1 โดย กุลติ นอนนิ่งสงบรอคอยให้ผมเจอมัน งดงามครับ ราคาก็งาม
หลังจากผมจ่ายตังค์และแนะนำให้น้าเจ้าของร้านรีโนเวทแผงหนังสือแบบหาง่ายและสะอาดกว่าเดิมหน่อย ผมก็กลับด้วยจิตใจเบิกบาน
ผมใช้ช่วงวันหยุดปีใหม่โหมอ่านถึงเล่ม7 ละครับ ปรมาจารข์ไอแซคพาผมเข้าถึงปรัชญาแห่งสังคมโลก และการบิดพริ้วของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ที่ทำให้คุณสะท้อน ย้อนแย้งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราและรอบโลกได้อย่างชาญฉลาดลึกล้ำ ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต เหนือจินตนาการ
ประดับด้วยเกรียติยศ เทียบชั้นกับลอร์ด ออฟเดอะ ริง หรือ งานของเชคสเปียร์ได้เลย หากศึกษาเพิ่มเติมจากปีคศ.ที่เขียน เราจะรู้ได้เลยว่า จักรวาลแห่งอาซิมอฟ คือบรรพบุรุษของ "ทุกสิ่งอย่างที่ชูธงคำว่าsci-fi" ทุกยุคทุกสมัย และเป็นแรงบันดาลใจทั้งด้านแนวคิดและนวัตกรรม
มีเพื่อนนักอ่านของผม บอกว่าอ่านเรื่องนี้ไม่กี่หน้าก็หลับ เพราะมันดูโบรำ่โบราณมาก ผมแนะนำครับแนะนำ ให้จิตนาการว่าตัวคุณอยู่ในพ.ศ.เดียวกับนักเขียน
ในยุคที่เพิ่งเสร็จสิ้นสงครามโลก อย่าว่าจะสร้างยานอวกาศเลย การได้เห็นอาหารกระป๋องก็ดูเลิศหรูไซไฟที่สุดแล้ว ในยุคที่คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกินเนื้อที่ทั้งห้องโถงใหญ่ และในยุคที่ทฤษฎีสัมพันธภาพเพิ่งเป็นที่แพร่หลาย และน้อยคนจะเข้าใจว่ามันมีประโยชน์มากกว่าสบู่หนึ่งก้อน และเป็นปัจจัยที่สำคัญในการให้กำเนิดจิตนการที่เลิศล้ำของบุคคลผู้หนึ่ง
ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้เพราะอยากให้เด็กไทยเริ่มอ่านนิยายวิทยาศาสตร์กันเยอะๆครับ เพราะมันคือ เมล็ดพันธ์ุของการเจริญทางด้านปัญญา และเป็นแรงบันดาลใจในการ คิด ศึกษา ริเริ่ม สร้างสรร สิ่งใหม่ๆให้แก่มวลมนุษยชาติในภายภาคหน้า
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งทีผมเขียนนี้อาจเป็นประโยชน์ให้แก่การเริ่มต้นอ่านให้แก่ใครหลายๆคน และนักอ่านหนังสือที่ไม่มีวางแผงแล้ว จะได้ท่องยุทธภพค้นหาหนังสือแรร์ไอเทมที่ตนใฝ่ฝัน คุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่ได้มาครอบครองมันทรงคุณค่าเพียงใด
ถึงตอนนี้ ผมยังมีหนังสือของอาสิมอฟยังไม่ครบครับเหลืออีกหลายชุดหลายเรื่อง ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ผมยังเปิดรับทุกเบาะแสที่จะตามหาหนังสือเรื่องอื่นๆอยู่ตลอดครับ ใครมีเบาะแสการวางแผงของอาซิมอฟเล่มใด คอมเมนท์กันด้วยก็จะขอขอบพระคุณมากครับ ผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ร้านใด ผมจะตามไปเสาะเเสวงหามาให้ได้ครับ
สุดท้ายขอฝาก คำคมไว้ว่า
"หากการอ่านพงศาวดารประวัติศาสตร์เพื่อให้รู้ความเป็นไปในอดีตฉันใด การอ่านนิยาวิทยาศาสตร์ก็เพื่อให้รู้ความเป็นไปในอนาคตฉันนั้น"
ปล. หากผมได้หนังสือมาเพิ่มเติม ผมจะมาอัพเดท ปฏิบัติการพลิกฟ้าล่าจักรวาลหาอาซิมอฟ ในตอนต่อไป ครับ
ขอบคุณผู้รักนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนจบ