ชัยชนะที่ว่านี่หมายถึง การชู 2 นิ้ว แสดงท่า Victory (ชัยชนะ) และ อีกมือชูกำปั้น
ซึ่งว่ากันจริงๆแล้ว มันมองเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากว่า "มันคือการอวดสกอร์ชนะ" ของธีโอ วัลคอตต์ไปยังแฟนๆบนอัฒจันทร์ ไม่ว่าบนนั้นจะมีแฟนอาเซนอล หรือ แฟนท็อธแนมอยู่ก็ตาม ...
ถามว่าธีโอ ทำตัวกวนเบื้องล่างมั้ย ...
ก็อาจจะ อ่ะนะ ...
นอกจากจะเป็นเกมดาร์บี้
นอกจากเสียงโห่จะดังระงม
นอกจากจะถูกเหรียญปาใส่หัว
และ นอกจากอีกฝั่งจะมีอเดบายอร์
มองเผินๆแล้ว มันก็ไม่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
สำหรับการเยาะเย้ยด้วยสกอร์ "2 เม้ดดดดดดด~" ของธีโอ ..
ชายหนุ่มที่ชื่อ "อเดบายอร์"
ย้อนไปเมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว
ต้นฤดูกาล 2009-10
ตอนนั้นอเดบายอร์ นักเตะที่อยู่กับอาเซนอลมา 3 ฤดูกาลย้ายออกจากทีมไปยังแมนฯซิตี้
และนัดที่ซิตี้กลับมาพบกับอาเซนอล เมื่ออเดบายอร์ยิงประตูได้ สิ่งที่เขาทำคือ ...
ไถลตัวไปดีใจต่อหน้ากองเชียร์ฝั่งอาร์เซนอล ..
...
.............
โถ่ ไอ้เส็งเคร็ง!!!?
.....
...........
รึเปล่านะ?
"เห้ย ผมไม่เข้าใจเลยนะ ว่ากูนเนอร์สจะมาโกรธอะไรผมนักเรื่องย้ายทีม
เวนเกอร์เป็นคนจัดการดีลนี้แ้ท้ๆ
แล้วเรื่องดีใจนั่น .. ตอนที่คุณยิงประตูได้
คุณไม่มีเวลาคิดหรอกว่าจะยินดียังไง ท่าไหน ตรงไหน ..
แฟนๆก็ถล่มผมเรื่องนี้เสียเละเทะเลย
นี่มันรังแกกันชัด ...
ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่เพื่อนร่วมทีมเก่าบางคนของผม
ไม่ยอมจับมือผมอีกนะ เขาน่ะแย่สุดๆ
กับแฟนๆผมไม่อะไรหรอก เพราะแฟนๆไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด
แต่เพื่อนร่วมทีมรู้สถานการณ์ของผมดีก่อนผมออกไป
ทำแบบนี้มันแย่จริงๆ ..
แล้วก็ขอโทษโรบิ้นด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจชนเขาแรงจนบาดเจ็บขนาดนั้น
ใครมันจะไปบ้าบิ่นขนาดจงใจทำร้ายเพื่อนร่วมทีมเก่าวะครับ .."
หลังเกม พี่ยอร์แกก็ให้สัมภาษณ์จัดหนัก ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเลยทีเดียว
อ๊ะ อ๊ะ อย่านะจ๊ะ กูนเนอร์ส ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด
จะมาโกรธกัน มันไม่ได้น้ะ ...
แต่ไม่ว่าจะแถแถดๆ หรือ ใ้ห้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแค่ไหน พี่ยอร์ก็ขึ้นแบล็กลิสต์ ติดบัญชีโพธิ์ดำของเหล่ากูนเนอร์สไปเรียบร้อย
"จะตามแช่ง(เมิง)ทุกทีมไป"
เด็กหนุ่มที่ชื่อ "ธีโอ วัลคอตต์"
ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่เดือน
ท้ายฤดูกาล 2008-09
ตอนนั้น ธีโอ วัลคอต เด็กหนุ่มอังกฤษหน้าใส วัยขบเผาะว์ น่าเต๊าะเป็นที่สุด ด้วยวัยเพียง 18 ปีก็ถูกพาขึ้นมาเล่นทีมใหญ่ของอาเซนอลแล้ว เขาถูกเลือกให้สวมเสื้อเบอร์ 14 เบอร์เดิมของ "คิงอองรี" และเวลานั้นเอง เพื่อนร่วมทีมคนที่เขาเฝ้ามองและนับถือฝีมือที่สุดก็หนีไม่พ้น "เอ็มมานูเอล อเดบายอร์"
ละมั้ง ...
ก่อนที่พี่ยอร์จะย้ายไปแมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 25 ล้านในช่วงซัมเมอร์ของปีเดียวกัน
เพียง 4 เดือนก่อนหน้า น้องคอตพึ่งจะให้สัมภาษณ์อวยพี่ยอร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตูด้วยน้ำเสียงรักใคร่ สเน่หาห์และเทิดทูนยิ่ง ..
"พี่ยอร์ จะเป็นแรงและกำลังสำคัญของอาร์เซนอลในการพาทีมผงาดในเวทียุโรป
ลูกที่พี่เขาลังกาหลังยิงบียารีล
ผมสาบานว่า เป็นลูกที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยในเกมแชมเปียนลีกส์
ประตูสุดพิเศษ จากนักเตะสุดพิเศษ ..."
4 เดือนต่อมา พี่ยอร์ก็ได้มาไถลโชว์ต่อตาต่อตาน้องคอต
น้องคอต ถ้าไม่ช็อค ก็ต้องติดสตั๊นท์ อ่ะงานนี้ ...
และจากการได้เห็นพี่ยอร์เปลี่ยนไปสวมเสื้อสีฟ้า ต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ตัวเองพึ่งจะเิทิดทูนบูชาพี่ยอร์ ประหนึ่งหวังให้เป็นไอด้อลทางอาชีพไปไม่นาน นั่นก็อาจเป็นสัญญาณที่ทำให้ ธีโอ วัลคอตต์ ผู้มองโลกฟุตบอลด้วยความสดใสสวยงาม ต้องบอกกับตัวเองว่า ...
"โตได้แล้วนะเว้ย ธีโอ.. โลกมันไม่ได้สวยงามแบบที่เมิงคิดนะ"
(กรูพึ่งขึ้นมา ก็จะให้กรูโตเลยเร้อะ ..)
อดีตเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ "แกเร็ธ เบล"
ย้อนไปเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว ...
ฤดูกาล 2012-13 เกมลีกนัดที่ 28
อาร์เซนอล แข่งมา 27 นัด มี 47 แต้ม ขณะที่ท็อธแนมมี 51 แต้ม เกมดาร์บี้ นอร์ธ ลอนดอน นอกจากจะเดือดกันด้วยปัจจัยดาร์บี้ ปัจจัยแต้มที่กำลังบี้กันมานัดต่อนัด ฝั่งตรงข้ามยังมี อเดบายอร์ ที่ย้ายมาอยู่กับท็อธแนมแล้ว จากเดิมที่เป็นแค่ผู้เล่นยืมตัวตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
และ พวกเขายังมี กาแร็ธ เบล ..
ตอนอายุ 11 หลังจากเล่นบอลโรงเรียนและสังกัดทีมท้องถิ่นจนเทพและไม่มีใครอยากเล่นด้วย เพราะบ้ายิงประตูเหลือเกิน วัลคอตก็ถูกพามาอยู่กับอคาเดมี่ฟุตบอลชื่อดังอย่าง เซาธ์แธมตัน หลายปีต่อมาเขาได้เล่นในยูธทีมและออกทัวร์กับทีม สร้างชื่อเสียงไปทั่ว...
แล้วตอนนั้น เบลก็มา
เบลมาที่ เซาธ์แธมตันตอนเขาอายุ 15 ดีกรีเด็กหนุ่มดาวรุ่งจากโรงเรียนมัธยมผู้เล่นกีฬาได้เกือบทุกประเภท ยิงประตูได้ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ... และ เขาคือรูมเมทของ ธีโอ วัลคอตต์
"เฮ้ ว่าไง นายมาจากคาร์ดิฟฟสินะ"
ตอนที่ เดบบี้ แม่ของเบลทราบว่า วัลคอตต์คือรูมเมทลูกของเธอ เธอก็ฝากฝังลูกชายตามประสาแม่ที่เป็นห่วงลูก เบลไม่เคยจากบ้านมาไกลขนาดนี้มาก่อน รวมทั้งไม่เคยอยู่หอพักด้วย เป็นเด็กท้องถิ่นขนานแท้ แบบที่พ่อแม่ไปรับไปส่งทุกวันเวลาไปโรงเรียน เดบบี้ เคยฝากฝังลูกของเธอกับวัลคอตต์ บอกให้เขาดูแลเบล
"ธีโอ เป็นเด็กดีมาก เขาดูแลเบลอย่างดี" เดบบี้เคยบอกไว้ในบทสัมภาษณ์เมื่อเธอถูกถามถึงเพื่อนของเบลตอนอยู่เซาธ์แธมตัน
หลังออกจากเซาธ์แธมตัน พวกเขาต่างแยกย้ายกันไปคนละทีม ธีโอไป อาร์เซนอล ขณะที่เบลไปท็อธแนม ...
ช่างเป็นการเลือกขั้วที่เหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับทั้งคู่
หลายปีต่อมาพวกเขาขับเคี่ยวกันบนสนามในฐานะ ทีมอริร่วมเมือง ธีโอเ็ป็นดาวรุ่งความหวังดวงใหม่ที่อาร์เซนอล ขณะที่เบลหลังจากบาดเจ็บอยู่นาน ก็พลิกกลับมากลายเป็นนักเตะที่น่าจับมองในอังกฤษด้วยการระเบิดฟอร์มโหด พา็ท็อธแนม โกงความตายมาหลายครั้งหลายหน
เกมที่ 28 ฤดูกาล 2012-13
ท็อธแนม ฮอตสเปอร์ส ที่มีทั้งอเดบายอร์ และ แกเร็ธ เบลจึงอาจมีความหมายมากกว่าการเป็นแค่เกมดาร์บี้แมต
วันนั้นอารอน เลนนอน ยิงประตูแรกได้ แพร์ เมเตอร์ซักเกอร์ ยิงตีเสมอให้อาเซนอล และ แกเร็ธ เบล ยิงปิดกล่องตอนท้าย ในช่วงท้ายเกมส์
เบลชูมือ 2 นิ้ว และ 1 นิ้ว
"2 - 1 นะ เคนะ?"
นัดนั้น ลูกยิง 3 แต้มของเบล ทำให้แต้มห่างระหว่าง อาเซนอลและท็อธแนมเพิ่มเป็น 7 แต้มเลยทีเดียว ...
จบฤดูกาลนั้น เบลคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนที่เขาจะย้ายไป รีล มาดริดในฤดูกาลถัดมา ..
ในการแข่ง FA CUP รอบที่ 3 ท็อธแนมโคจรมาเจออาร์เซนอลอีกครั้งใน เอมิเรตส์สเตเดี้ยม วันนี้ท็อธแนมไม่มีเบลแล้ว แต่สำหรับอาร์เซนอล นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก
พวกเขาเอาชนะท็อธแนมได้ที่สกอร์ 2 ประตูต่อ 0 ลูกแรกมาจาก กาซอล่า ลูก 2 มาจากโรซิคกี้
ธีโอถูกหามออกจากนาม ในนาที่ที่ 83 ขณะนั้นเขาชูมือ 2 นิ้ว อีกข้างกำหมัด ละขยิบตาให้แฟนๆบนแสตนด์
"2-0 นะ เคนะ?"
แค้นนี้มันมากกว่าเหรียญและเสียงโห่แน่นอน ...
[Arsenal] ชัยชนะและรอยยิ้มของ Theo Walcott
ซึ่งว่ากันจริงๆแล้ว มันมองเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากว่า "มันคือการอวดสกอร์ชนะ" ของธีโอ วัลคอตต์ไปยังแฟนๆบนอัฒจันทร์ ไม่ว่าบนนั้นจะมีแฟนอาเซนอล หรือ แฟนท็อธแนมอยู่ก็ตาม ...
ถามว่าธีโอ ทำตัวกวนเบื้องล่างมั้ย ...
ก็อาจจะ อ่ะนะ ...
นอกจากจะเป็นเกมดาร์บี้
นอกจากเสียงโห่จะดังระงม
นอกจากจะถูกเหรียญปาใส่หัว
และ นอกจากอีกฝั่งจะมีอเดบายอร์
มองเผินๆแล้ว มันก็ไม่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
สำหรับการเยาะเย้ยด้วยสกอร์ "2 เม้ดดดดดดด~" ของธีโอ ..
ชายหนุ่มที่ชื่อ "อเดบายอร์"
ย้อนไปเมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว
ต้นฤดูกาล 2009-10
ตอนนั้นอเดบายอร์ นักเตะที่อยู่กับอาเซนอลมา 3 ฤดูกาลย้ายออกจากทีมไปยังแมนฯซิตี้
และนัดที่ซิตี้กลับมาพบกับอาเซนอล เมื่ออเดบายอร์ยิงประตูได้ สิ่งที่เขาทำคือ ...
ไถลตัวไปดีใจต่อหน้ากองเชียร์ฝั่งอาร์เซนอล ..
...
.............
โถ่ ไอ้เส็งเคร็ง!!!?
.....
...........
รึเปล่านะ?
"เห้ย ผมไม่เข้าใจเลยนะ ว่ากูนเนอร์สจะมาโกรธอะไรผมนักเรื่องย้ายทีม
เวนเกอร์เป็นคนจัดการดีลนี้แ้ท้ๆ
แล้วเรื่องดีใจนั่น .. ตอนที่คุณยิงประตูได้
คุณไม่มีเวลาคิดหรอกว่าจะยินดียังไง ท่าไหน ตรงไหน ..
แฟนๆก็ถล่มผมเรื่องนี้เสียเละเทะเลย
นี่มันรังแกกันชัด ...
ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่เพื่อนร่วมทีมเก่าบางคนของผม
ไม่ยอมจับมือผมอีกนะ เขาน่ะแย่สุดๆ
กับแฟนๆผมไม่อะไรหรอก เพราะแฟนๆไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด
แต่เพื่อนร่วมทีมรู้สถานการณ์ของผมดีก่อนผมออกไป
ทำแบบนี้มันแย่จริงๆ ..
แล้วก็ขอโทษโรบิ้นด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจชนเขาแรงจนบาดเจ็บขนาดนั้น
ใครมันจะไปบ้าบิ่นขนาดจงใจทำร้ายเพื่อนร่วมทีมเก่าวะครับ .."
หลังเกม พี่ยอร์แกก็ให้สัมภาษณ์จัดหนัก ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเลยทีเดียว
อ๊ะ อ๊ะ อย่านะจ๊ะ กูนเนอร์ส ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด
จะมาโกรธกัน มันไม่ได้น้ะ ...
แต่ไม่ว่าจะแถแถดๆ หรือ ใ้ห้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแค่ไหน พี่ยอร์ก็ขึ้นแบล็กลิสต์ ติดบัญชีโพธิ์ดำของเหล่ากูนเนอร์สไปเรียบร้อย
"จะตามแช่ง(เมิง)ทุกทีมไป"
เด็กหนุ่มที่ชื่อ "ธีโอ วัลคอตต์"
ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่เดือน
ท้ายฤดูกาล 2008-09
ตอนนั้น ธีโอ วัลคอต เด็กหนุ่มอังกฤษหน้าใส วัยขบเผาะว์ น่าเต๊าะเป็นที่สุด ด้วยวัยเพียง 18 ปีก็ถูกพาขึ้นมาเล่นทีมใหญ่ของอาเซนอลแล้ว เขาถูกเลือกให้สวมเสื้อเบอร์ 14 เบอร์เดิมของ "คิงอองรี" และเวลานั้นเอง เพื่อนร่วมทีมคนที่เขาเฝ้ามองและนับถือฝีมือที่สุดก็หนีไม่พ้น "เอ็มมานูเอล อเดบายอร์"
ละมั้ง ...
ก่อนที่พี่ยอร์จะย้ายไปแมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 25 ล้านในช่วงซัมเมอร์ของปีเดียวกัน
เพียง 4 เดือนก่อนหน้า น้องคอตพึ่งจะให้สัมภาษณ์อวยพี่ยอร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตูด้วยน้ำเสียงรักใคร่ สเน่หาห์และเทิดทูนยิ่ง ..
"พี่ยอร์ จะเป็นแรงและกำลังสำคัญของอาร์เซนอลในการพาทีมผงาดในเวทียุโรป
ลูกที่พี่เขาลังกาหลังยิงบียารีล
ผมสาบานว่า เป็นลูกที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยในเกมแชมเปียนลีกส์
ประตูสุดพิเศษ จากนักเตะสุดพิเศษ ..."
4 เดือนต่อมา พี่ยอร์ก็ได้มาไถลโชว์ต่อตาต่อตาน้องคอต
น้องคอต ถ้าไม่ช็อค ก็ต้องติดสตั๊นท์ อ่ะงานนี้ ...
และจากการได้เห็นพี่ยอร์เปลี่ยนไปสวมเสื้อสีฟ้า ต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ตัวเองพึ่งจะเิทิดทูนบูชาพี่ยอร์ ประหนึ่งหวังให้เป็นไอด้อลทางอาชีพไปไม่นาน นั่นก็อาจเป็นสัญญาณที่ทำให้ ธีโอ วัลคอตต์ ผู้มองโลกฟุตบอลด้วยความสดใสสวยงาม ต้องบอกกับตัวเองว่า ...
"โตได้แล้วนะเว้ย ธีโอ.. โลกมันไม่ได้สวยงามแบบที่เมิงคิดนะ"
(กรูพึ่งขึ้นมา ก็จะให้กรูโตเลยเร้อะ ..)
อดีตเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ "แกเร็ธ เบล"
ย้อนไปเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว ...
ฤดูกาล 2012-13 เกมลีกนัดที่ 28
อาร์เซนอล แข่งมา 27 นัด มี 47 แต้ม ขณะที่ท็อธแนมมี 51 แต้ม เกมดาร์บี้ นอร์ธ ลอนดอน นอกจากจะเดือดกันด้วยปัจจัยดาร์บี้ ปัจจัยแต้มที่กำลังบี้กันมานัดต่อนัด ฝั่งตรงข้ามยังมี อเดบายอร์ ที่ย้ายมาอยู่กับท็อธแนมแล้ว จากเดิมที่เป็นแค่ผู้เล่นยืมตัวตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
และ พวกเขายังมี กาแร็ธ เบล ..
ตอนอายุ 11 หลังจากเล่นบอลโรงเรียนและสังกัดทีมท้องถิ่นจนเทพและไม่มีใครอยากเล่นด้วย เพราะบ้ายิงประตูเหลือเกิน วัลคอตก็ถูกพามาอยู่กับอคาเดมี่ฟุตบอลชื่อดังอย่าง เซาธ์แธมตัน หลายปีต่อมาเขาได้เล่นในยูธทีมและออกทัวร์กับทีม สร้างชื่อเสียงไปทั่ว...
แล้วตอนนั้น เบลก็มา
เบลมาที่ เซาธ์แธมตันตอนเขาอายุ 15 ดีกรีเด็กหนุ่มดาวรุ่งจากโรงเรียนมัธยมผู้เล่นกีฬาได้เกือบทุกประเภท ยิงประตูได้ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวา ... และ เขาคือรูมเมทของ ธีโอ วัลคอตต์
"เฮ้ ว่าไง นายมาจากคาร์ดิฟฟสินะ"
ตอนที่ เดบบี้ แม่ของเบลทราบว่า วัลคอตต์คือรูมเมทลูกของเธอ เธอก็ฝากฝังลูกชายตามประสาแม่ที่เป็นห่วงลูก เบลไม่เคยจากบ้านมาไกลขนาดนี้มาก่อน รวมทั้งไม่เคยอยู่หอพักด้วย เป็นเด็กท้องถิ่นขนานแท้ แบบที่พ่อแม่ไปรับไปส่งทุกวันเวลาไปโรงเรียน เดบบี้ เคยฝากฝังลูกของเธอกับวัลคอตต์ บอกให้เขาดูแลเบล
"ธีโอ เป็นเด็กดีมาก เขาดูแลเบลอย่างดี" เดบบี้เคยบอกไว้ในบทสัมภาษณ์เมื่อเธอถูกถามถึงเพื่อนของเบลตอนอยู่เซาธ์แธมตัน
หลังออกจากเซาธ์แธมตัน พวกเขาต่างแยกย้ายกันไปคนละทีม ธีโอไป อาร์เซนอล ขณะที่เบลไปท็อธแนม ...
ช่างเป็นการเลือกขั้วที่เหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับทั้งคู่
หลายปีต่อมาพวกเขาขับเคี่ยวกันบนสนามในฐานะ ทีมอริร่วมเมือง ธีโอเ็ป็นดาวรุ่งความหวังดวงใหม่ที่อาร์เซนอล ขณะที่เบลหลังจากบาดเจ็บอยู่นาน ก็พลิกกลับมากลายเป็นนักเตะที่น่าจับมองในอังกฤษด้วยการระเบิดฟอร์มโหด พา็ท็อธแนม โกงความตายมาหลายครั้งหลายหน
เกมที่ 28 ฤดูกาล 2012-13
ท็อธแนม ฮอตสเปอร์ส ที่มีทั้งอเดบายอร์ และ แกเร็ธ เบลจึงอาจมีความหมายมากกว่าการเป็นแค่เกมดาร์บี้แมต
วันนั้นอารอน เลนนอน ยิงประตูแรกได้ แพร์ เมเตอร์ซักเกอร์ ยิงตีเสมอให้อาเซนอล และ แกเร็ธ เบล ยิงปิดกล่องตอนท้าย ในช่วงท้ายเกมส์
เบลชูมือ 2 นิ้ว และ 1 นิ้ว
"2 - 1 นะ เคนะ?"
นัดนั้น ลูกยิง 3 แต้มของเบล ทำให้แต้มห่างระหว่าง อาเซนอลและท็อธแนมเพิ่มเป็น 7 แต้มเลยทีเดียว ...
จบฤดูกาลนั้น เบลคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนที่เขาจะย้ายไป รีล มาดริดในฤดูกาลถัดมา ..
ในการแข่ง FA CUP รอบที่ 3 ท็อธแนมโคจรมาเจออาร์เซนอลอีกครั้งใน เอมิเรตส์สเตเดี้ยม วันนี้ท็อธแนมไม่มีเบลแล้ว แต่สำหรับอาร์เซนอล นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก
พวกเขาเอาชนะท็อธแนมได้ที่สกอร์ 2 ประตูต่อ 0 ลูกแรกมาจาก กาซอล่า ลูก 2 มาจากโรซิคกี้
ธีโอถูกหามออกจากนาม ในนาที่ที่ 83 ขณะนั้นเขาชูมือ 2 นิ้ว อีกข้างกำหมัด ละขยิบตาให้แฟนๆบนแสตนด์
"2-0 นะ เคนะ?"
แค้นนี้มันมากกว่าเหรียญและเสียงโห่แน่นอน ...