1. จากที่เคยบอกไว้แต่ก่อนแล้วว่า http://ppantip.com/topic/31290415 ตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เหล่าฝูงตะขาบเขียวได้ เดินทัพออกมาจากภูเขา ทะเล และป่า เรียบร้อยแล้ว โดยอ้างว่าจะมาเพื่อ "เดินพาเหรด" ดันไม่อ้างว่าจะเอาของเล่นมา "โชว์เด็ก" เพราะอ้างไม่ขึ้น
แต่ความเป็นจริง การเดินพาเหรดนั้นทุกครั้งแต่ละหน่วยตะขาบจะต้องมีการ "ซ้อมเดิน" อย่างหนัก เพื่อให้เตะเท้าที่มีจำนวนมากให้พร้อมกัน แกว่งมือหาเสี้ยนให้พร้อมกัน  เดินอยู่ในระนาบเดียวกันไม่เ๋อ๋อเฟะฟะ ทำผิดทำถูกจะโดนบ้องหูเอา
ยิ่งถ้ามียานอวกาศตะขาบมาร่วมด้วยยิ่งต้องซ้อมมากยิ่งขึ้นเพราะไม่ใช่งานมอเตอร์โชว์ที่จะอยู่ดีๆหาที่จอดกันง่ายๆและมีโคโยตี้มาเต้นยั่วน้ำลายกันสนุกๆ แถมใช้น้ำมันมากมาย ถ้าไม่จัดการบริหารดีๆ อาจจะได้เห็นยานอวกาศชนกันให้เสียหน้าเป็นแน่แท้
อีกทั้งหน่วยงานที่รองรับยานอวกาศก็เล็กเกินไปที่จะมาจัดโชว์กัน จะอ้างว่ามาให้เกียรติกับผู้นำตะขาบเขียวที่อุตส่าห์แดรก...เอ้ย ไ่ม่ใช่สิต้องเรียกว่าประหยัดงบเจียดมาซื้อกันไม่กี่พันล้าน ก็สุดท้ายเพื่อมาปราบพวก "ไอ้มดแดง" หรือ "กลุ่มรากฝอย" ให้สิ้นซากนั่นเอง  
คอยดูกันว่าถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆอดใช้ปราบไอ้มดแดงคราวนี้ ยานอวกาศเหล่านี้ก็จะถูกแก้เก้อด้วยการจัด "เดินพาเหรด" และ "โชว์เบเบี้" 2 งานซ้อน กันไม่ให้พวก "เงาะป่าสะตอกับพวกดีซ่าน" ที่ทั้งโง่และแกล้งโง่ ได้เสียหน้าไปด้วย

2. เรื่องราวจะเป็นไปอย่างที่เคยบอกไว้คือ http://ppantip.com/topic/31454242  ตอนนี้ฝ่ายปิงปองได้เคลื่อนพลมาเต็มที่ เพราะรู้แล้วว่าคราวที่ผ่านๆมาตะขาบเขียวได้แผงตัวเข้าไปรวมกับมวลหมาประชาเงาะป่าสะตอ+ดีซ่าน เนื่องจากการแฝงตัวนั้นทำโดยหน่วยตะขาบไฟ ที่ได้รับการฝึกฝนมาแบบ "พิเศษ" เป็นหน่วยงานส่วนตัวของ "ฤาษีกินเขา" ที่พร้อมจะสละชีวาและทำตามคำสั่งของนาย  ชาวบ้านเมืองนี้ไม่ได้รู้อะไรเลยว่า หน่วยพิเศษบนดินที่รบแบบใต้ดินนี้มีจริง ไม่ใช่แค่ในหนัง และพวกนี้บางหน่วยจะไม่บรรจุอย่างเป็นทางการ แต่หากมีการผิดพลาดก็จะ "จำหน่ายออก" แบบไร้ร่องรอย เสมือนว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ณ "สงครามสนามดินสีแดง" ในชั้นความลับ เหล่าปิงปองได้เจอกับตะขาบไฟ เพียงไม่เท่าไร สามารถสู้กับคนธรรมดาได้หลายๆคน ใช้เขี้ยวพิษที่ซ่อนอยี่ในร่างกายแบบกระชับมือ ปล่อยพิษได้ทีละหลายๆชุด แถมยังมีความสามารถส่วนตัวได้การเหาะเหิรมุดน้ำน้ำมุดดินได้อย่างไร้ร่องรอย แบบมาเร็วสลายตัวเร็ว เหล่าปิงปองถึงได้แตกไม่เป็นขบวนในครั้งที่ผ่านๆมา  ถึงแม้ปิงปองจะติดไม้จิ้มฟันมาก็อย่าคิดว่าจะรอดไปได้ เพราะฝึกมาผิดกัน

3. ตะขาบเขียวได้ช่วยเหลือกองทัพเงาะป่ามาแต่ต้น จะเห็นได้ชัดจาก ถุงปุ๋ยที่นำมาทับรั้วตะบองเพชร เพื่อใช้ปีนป่ายขึ้นไป หรือการนำถุงปุ๋ยมา "ตั้งฮวงซุ้ย" เต็มถนน ใช่ว่าพวกเงาะป่าที่มีปัญญาเท่าหางอึ่งจะคิดกันเองได้ แต่มีนักรบตะขาบที่แฝงตัวอยู่ในนั้นคอยบัญชาการให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่อง การนำกระสอบหรือน้ำมาดับแก็สหัวเราะ การจัดตั้งการ์ด การเข้าเวรยาม การจัดเสบียง การจัดกำลังเสริม ยุทธวิธีการต่อสู้ในรูปแบบกวนเบื้องล่างต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็น "ยุทธการ" ทั้งสิ้น  บางแผนดูเหมือนตลกทำไม่ได้ แต่หารู้ไม่ว่า อาจเกิดผลสำเร็จขึ้นได้เสมอ หากทัพได้มดแดงมองไม่ขาด เพราะด้วยบารมีของแกนนำตะขาบเขียวอย่าง "อาแปะอ้วน ไอ้ยักษ์ 2 ตัว ไอ้หัวเถิก ไอ้เด็กดาวน์ซินโดม" แถมยังมีการสนับสนุนอย่างลับๆของ "เนรคุณ" แค่นี้ก็เพียงพอที่จะต่อกรกับไอ้มดแดงได้สบายๆ ด้วยความจริงที่ประชาชีไม่เคยได้รู้เลยว่า ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พ่อค้าที่เป็นเจ้าของตาชั่งเป็ดไก่ สามารถสั่งโกงตาชั่งได้เสมอๆ โดยมี ladyboy สั่งกดสวิทซ์ได้ตามใจชอบ ผู้คนอาจจะไม่เชื่อ ถ้าแบบนั้นลองดูได้จากอดีตที่ผ่านมาว่า "เมื่อเกิดเหตุล้มกระดานหมากรุก" ทุกครั้งที่ทำสำเร็จ แม้บางกลุ่มจะแพ้ตอนหลังแต่ทำไม ไม่เคยมีใครเอาผิดกลุ่มผู้ที่ล้มกระดานเหล่านั้นได้เลย แถมประชาชีทั่วไปยังต้องมาใช้ "ตำรา" ที่ผู้ล้มกระดานเขียนขึ้นมาบังคับใช้ "อย่างถูกต้อง" ตลอดมา  หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง หุๆๆๆ อ้อ..ลืมไปมีสิพวกดีซ่านกับเงาะป่าทั้งหลายสมองน้อยไม่เชื่อเสมอ

4. อย่าไปเชื่อการกำหนดวันว่าตะขาบเขียวจะออกมาวันไหน เพราะฝ่ายยุทธการเขากำหนดกันอย่างลับๆ เพราะใช้หน่วยงานพี่น้องที่ได้เสียกันเท่านั้น ตะขาบแดงอย่าหวังว่าจะได้ข่าว เพราะทุกวันนี้เขาแต่งตั้งโยกย้าย นำพวกของตัวเองเข้าไปแทรกในหน่วยงานต้างๆทั้งหมด โดยอาตะขาบแปะอ้วน เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ใช้กลยุทธิพิชิตใจ โดยแจกอาหารทางใจเป็นใบๆ เป็นปึกๆ ใครดูท่าทางเลี้ยงได้ เป็นตะขาบชั้นดิน ก็จะนำมาชุบเลี้ยงให้เติบโตเป็นตะขาบชั้นดาว เหมือนลุกเหมือนน้อง เป็นเสมือนครอบครัว แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกตะขาบชั้นดาวลูกนายเก่าๆให้ได้เติบใหญ่พอแก่ความสมควร เพื่อให้ได้ใจตะขาบเขียวทุกหมู่เหล่ายินยอมสยบใต้อุ้งเท้าอย่างเต็มใจ นี่เป็นที่มาของคำว่า "ทิศบูรพาไม่มีแพ้" และเป็นจุดจบของทุกสิ่งที่เหล่าไอ้มดแดง และรากฝอยจินตนาการกันเพ้อฝันกันว่า จะมีตะขาบแดงแหกคอกมาช่วย ไอ้มดแดง ยามจนแต้ม ปิดประตูแพ้ได้เลย

5. จินตนาการอันลึกล้ำอีกอย่างของไอ้มดแดงคือ กลุ่มไอ้มดแดงพันธุ์ใหม่ ที่จะมีอาวุธสามารถทำลายล้างรับมือกีบ ยานอวกาศของตะขาบเขียวได้ แถมยังมีไอ้มดแดงที่แปลงร่างแล้วเพราะได้รับการฝึกฝนมาจากอัศวินเจได ขอบอกตรงนี้เลยว่า คำว่า "หนอนบ่อนไส้" ใช้ได้เสมอยามสงคราม เพราะตะขาบเขียวได้จัดกลุ่มตะขาบไฟที่สามารถแปลงร่างเป็นไอ้มดแดงพันธุ์ใหม่ ไปรวมกับกลุ่มนั้นเรียบร้อยแล้ว ลองย้อนไปดูคราวที่แล้ว ทำไม ไอ้มดแดงตัวห้าวถึงได้โดนส่องหัว ทั้งที่ชำนาญศึก ไม่เคยเอาตัวไปเสี่ยงกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ก็เพราะไอ้มดแดงที่รายรอบตัวนั้นเป็ฯ "หนอนบ่อนไส้" นั่นเอง ทุกวันนี้เหล่าไอ้มดแดงยังไม่เข้าใจและยังไม่รู้เลยว่าพวกตัวเองนั้น ใครคือ ตะขาบเขียวแปลงร่างมา หรือเป็นไอ้มดแดงโดยกำเนิด ดังนั้นเห็นภาพล่วงหน้าชัดเจนว่า เมื่อเกิดสถานการณ์ร้ายแรงขึ้น เหล่าไอ้มดแดงที่มีฤทธิ์ จะโดนสอยจากพวกเดียวกันอย่างงายดาย เพราะความเชื่อใจ และไม่รู้เขารู้เรา....

6. อย่าไปคิดว่าหน่วยอัศวิน แห่ง the power จะมาช่วยได้เสมอ เพราะถึงแม้หน่วยนี้จะได้รับการฝึกฝนมาพิเศาแต่ก็มีจำนวนกำลังพลที่น้อย และคงต้องใช้ปกป้อง the power มากกว่าที่จะโดนย่อยให้ลดน้อยลงจากตะขาบเขียว เพราะนาทีนี้แม้แต่ the power เองก็อาจตกเป็นเป้าของพวกเลื่อยขาเก้าอี้ได้เสมอ นาทีนี้ไม่มีใครยอมใครอีกแล้ว

หุๆๆๆ ที่นั่งเทียนเขียนนิยายเพ้อเจ้อมาเล่นๆหนุกๆ ไม่มีสาระอะไร อ่านเอาฮาๆกันไป อย่ามาเชื่อ "แม้แต่นิดเดียว" หุๆๆๆ ขอหัวเราะแบบเสธอแดงอีกที แต่ไม่ขอตายแบบเขา ดังนั้น ไอ้นายสิบหน่วยข่าวลือที่สะเอะมามอนิเตอร์ตู เอ็งไปกินเหล้าดีกว่าอย่าทำปากไม่ดีไปฟ้องนายน่ะ ข้าน้อยเป็นแค่เด็กแวนซ์ จบป.4 วัดลิงขบ อย่ามาเอาสาระอะไรเลย หุๆๆๆ...หวังว่าปาฏิหารจะมีจริงก้ามใหญ่จะรอดไปได้แค่ไหน ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า วันที่ 10 รอดูหนังสงครามซีรีย์ยาว