จากกระทู้ของผมในคร่าวก่อนมีหลายๆท่านให้ความสนใจ และ เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆท่าน
วันนี้ผมอยากแชร์ ประสบการณ์ เรื่อง ภาษี สำหรับเถ้าแก่น้อย ที่ไม่มีความรู้เรื่องภาษี และก่อนที่จะปรึกษาสำนักงานบัญชี
เพื่อให้ท่านๆได้รู้ทัน เล่ห์เหลี่ยม และข้อบัญญัติบางอย่างที่ท่านสามารถทำด้วยตนเอง ก่อนจะโดนภาษีย้อนหลังครับ
(ขอชี้แจงข้อมูลก่อนนะครับ ผมศึกษาด้วยตัวเอง รวมกับการปรึกษาผู้ใหญ่จากสรรพากร เลยนำมาเขียนเพื่อเป็นแนวทางครับ หากบางจุดมีข้อผิดพลาดก็พร้อมที่จะรับฟังเป็นความรู้เพิ่มนะครับ) - สำหรับผู้ประกอบกิจการส่วนตัวที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านนะครับ
ภาษีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.ภาษีบุคคล
ภาษีในส่วนนี้เราจะต้องยื่น 2 ครั้งต่อ 1 ปี
โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
ภงด. 94 (ก.ค. - ก.ย.) - มีค่าปรับกรณียื่นล่าช้า 200 บาท
ภงด. 90 (ม.ค. - มิ.ย.)
2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีในส่วนนี้ ทางสรรพากร กำหนดให้มียอดได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
กรณีเกิน 1.8 ล้านให้เราไปทำการจดทะเบียนขอ VAT 7%
(โดย VAT 7% เราสามารถขอได้จากร้านค้าที่เราไปซื้อของ ค่าน้ำมัน ทางด่วน และการหัก ณ ที่จ่าย 3 %)
แต่ผมได้ประสบเหตุการณ์ที่เกือบจะทำให้ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก
ผมจะขอแชร์เพื่อเป็นความรู้และแนวทางเพื่อ ให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจและไม่มีความรู้ ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้น เพื่อประหยัดทรัพย์ในกระเป๋าท่านๆนะครับ
[ความรู้เถ้าแก่น้อย] เมื่อภาษีมูลค่าเพิ่มเกิน 1.8 ล้าน รับมือ และแก้ไข อย่างไร ?
วันนี้ผมอยากแชร์ ประสบการณ์ เรื่อง ภาษี สำหรับเถ้าแก่น้อย ที่ไม่มีความรู้เรื่องภาษี และก่อนที่จะปรึกษาสำนักงานบัญชี
เพื่อให้ท่านๆได้รู้ทัน เล่ห์เหลี่ยม และข้อบัญญัติบางอย่างที่ท่านสามารถทำด้วยตนเอง ก่อนจะโดนภาษีย้อนหลังครับ
(ขอชี้แจงข้อมูลก่อนนะครับ ผมศึกษาด้วยตัวเอง รวมกับการปรึกษาผู้ใหญ่จากสรรพากร เลยนำมาเขียนเพื่อเป็นแนวทางครับ หากบางจุดมีข้อผิดพลาดก็พร้อมที่จะรับฟังเป็นความรู้เพิ่มนะครับ) - สำหรับผู้ประกอบกิจการส่วนตัวที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านนะครับ
ภาษีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.ภาษีบุคคล
ภาษีในส่วนนี้เราจะต้องยื่น 2 ครั้งต่อ 1 ปี
โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
ภงด. 94 (ก.ค. - ก.ย.) - มีค่าปรับกรณียื่นล่าช้า 200 บาท
ภงด. 90 (ม.ค. - มิ.ย.)
2.ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีในส่วนนี้ ทางสรรพากร กำหนดให้มียอดได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี
กรณีเกิน 1.8 ล้านให้เราไปทำการจดทะเบียนขอ VAT 7%
(โดย VAT 7% เราสามารถขอได้จากร้านค้าที่เราไปซื้อของ ค่าน้ำมัน ทางด่วน และการหัก ณ ที่จ่าย 3 %)
แต่ผมได้ประสบเหตุการณ์ที่เกือบจะทำให้ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก
ผมจะขอแชร์เพื่อเป็นความรู้และแนวทางเพื่อ ให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจและไม่มีความรู้ ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้น เพื่อประหยัดทรัพย์ในกระเป๋าท่านๆนะครับ