ตอนที่ 40: เกาะแห่งความตาย (1/2)
http://ppantip.com/topic/31446753
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ Psycho man: เลยปีใหม่มาได้ 4 วันละ แถวบ้านเริ่มร้อนแล้ว
คุณ น้องตะวันรัตติกาล: หวังว่าคงหายดีแล้วเนอะ
ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ: คุณ เขมปัณณ์, คุณ Psycho man, คุณ ลูนาติก, คุณ ตะวันรัตติกาล, และ คุณ Septer ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อารมันเสี่ยงมาตามบุษบรรณถึงเกาะแห่งความตาย โดยไม่รู้ว่ากำลังโดนฝ่ายตรงข้ามวางกับดักไว้ แต่พวกเขาอาศัยความสามารถ หนีรอดจากเหตุการณ์เฉพาะหน้ามาได้ และถลำเข้าไปในส่วนลึกลับของเกาะแห่งความตาย
40. เกาะแห่งความตาย (2/2)
มุตติไม่ตอบว่าอะไร เพียงแต่ค้อมศีรษะอย่างให้เกียรติพลางหันไปสั่งเหล่าทหารสิงหาละกะที่ยืนรับคำสั่งอยู่เบื้องหลัง ไม่นานนักพวกทหารน้ำก็แบกแคร่ไม้เข้ามา เหนือแคร่นั้นปรากฏร่างคนคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ แม้บนร่างจะสวมเครื่องแต่งกายเรียบร้อย ทว่าตามใบหน้าและแขนขาเปลือยที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมายังคงเห็นร่องรอยบาดแผลมากมาย โดยเฉพาะบริเวณข้อมือและข้อเท้า ใบหน้าของนักโทษรกครึ้มไปด้วยหนวดเคราและเส้นผมสีดำปรกใบหน้า จนไม่สามารถคาดเดาใบหน้าที่แท้จริงได้
ทันใดที่เห็นร่างนักโทษถูกหามเข้ามา บุษบรรณถึงกลับแทบกลั้นหายใจเพราะตระหนักว่าร่างที่อยู่บนแคร่หามอาจเป็นสหายเก่าของเธอก็ได้ ท่านมือปราบเผลอขยับตัวเพราะต้องการเห็นภาพเบื้องล่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงต้องปรามเบาๆ พร้อมกับจงใจออกแรงรั้งร่างของหญิงสาวพิงกับตัวเอาไว้ตามเดิม เธอขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ หันขวับเงยหน้ามองด้วยนัยน์ตาลุกวาว ทว่าอารมันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แม้ในใจนั้นคาดว่าหากรอดกลับไปคงถูก ‘คิดบัญชี’ จนน่วมแน่ทหารน้ำของมุตติวางแคร่หามลงกลางห้องแล้วจึงก้าวถอยออกไปยืนห่างๆ นักเดินสารขยับเข้ามาใกล้นักโทษ กางขายืนคร่อมร่างแล้วทรุดกายลง พยายามบังคับให้นักโทษผู้นั้นกลืนตัวยาบางอย่างที่เขานำมาลงคอ ผู้สังเกตการณ์ได้ยินเสียงร้องครางของชายผู้โชคร้าย แม้จะแผ่วเบา...ทว่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทุรนทุราย มือและขาของเขาสั่นกระตุกไปมา
อาคมพิษ...อารมันคิดในใจ
ต่อเมื่อร่างกายของชายนักโทษหยุดสั่นไหวแล้ว นักเดินสารจึงยืดกายขึ้น ก้าวข้ามตัวนักโทษแล้วกล่าวสั่ง “เมื่อข้าไปแล้ว ท่านต้องทำตามสัญญา จงทำลายเกาะแห่งความตายเสีย”
“ท่านกลัวศิษย์เอกจอมเทพจะโผล่มาทำลายแผนการของท่านได้งั้นหรือ” มุตติย้อน
ผู้เดินสารมองกลับไปที่ฝ่ายตรงข้าม “นั่นไม่ใช่เรื่องที่ท่านควรถาม”
มุตติหัวเราะในลำคอทวนคำ “ไม่ใช่เรื่องที่ควรถาม? งั้นข้าควรถามท่านเรื่องใด เรื่องบุริมคทาทิศ? หรือเรื่องความลับของวังสุริยัน? ส่วนศิลาลัยแค่อำนาจของตนเองก็แทบรักษาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว หากโลกาธิบดีรู้ว่าท่านฝืนโองการลอบนำเมล็ดรากเขาสุเมรุออกจากป่ารุกข์ ใครเล่าจะออกหน้าแทนท่าน”
ฝ่ายตรงข้ามคำรามใส่ พลันกล่าวเวทจู่โจม เมื่อตระหนักว่าเสียรู้ให้เจ้าหนุ่มแดนตะวันออก การแสดงความอ่อนแอแก่คนภายนอกเป็นเพียงเล่ห์กลเพื่อหลอกล่อให้ผู้อื่นวางใจว่าเขายังอยู่ในโอวาทเท่านั้นเอง ช่างเจ้าเล่ห์นัก!
มุตติเพียงแค่คลายมือออกจากกันและยื่นไปเบื้องหน้า ฝ่ายตรงข้ามถึงกับต้องหยุดกึกคล้ายคาดเดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดทำอะไร
“จะกลัวไปไย” อดีตเทพตะวันออกถาม “ในเมื่อท่านเองคิดจะใช้เวทนิมิตวิปลาสนี้กับผู้อื่นอยู่แล้ว เป็นตัวท่านเองต่างหากที่นำพาท่านมาพบจุดจบเช่นนี้”
มือข้างหนึ่งของมุตติยกขึ้นแล้ววางกลางหน้าผากของฝ่ายตรงข้าม และออกแรงจนนิ้วทั้งห้าแทบจมหายเข้าไปในกระโหลก ปากของผู้เดินสารอ้ากว้าง ทว่าไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา ดวงตาเหลือกถลนแทบออกมานอกเบ้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นิ้วมือหงิกงอ ร่างกายไร้การต่อต้านขัดขืน ไม่มีทางสู้ต่ออำนาจของเจ้าเกาะแห่งความตายแม้แต่น้อย
ในวาระนั้นแม้แต่ท่านมือปราบใจแข็งที่มองเห็นเหตุการณ์เบื้องล่างยังต้องหันหน้าหนี เมื่อมุตติถอนมือออกจากศีรษะ ร่างของอาคันตุกะก็ทรุดลงกองกับพื้นส่งเสียงดังตึง...มือขาวซีดข้างที่ใช้กำราบเทวะนั้นปรากฏรอยปื้นสีดำราวงูตัวเล็กๆ นับร้อยตัวกำลังเลื้อยเข้าสู่ร่างกาย...แต่แล้วในชั่วพริบตารอยประหลาดนั้นก็กลับเลือนหาย เจ้าเกาะแห่งความตายยืดกายขึ้นอย่างสง่างาม ปรายตามองร่างที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาดูแคลนก่อนที่แววตาจะแปรเปลี่ยนอีกครั้งเพราะจู่ๆ ร่างของทูตเดินสารพลันลุกจากพื้น ร่ายเวทฟาดใส่เจ้าเกาะแห่งความตายอย่างแรง ร่างของมุตติกระแทกใส่ผนังหินทั้งซ้ายขวาก่อนจะตกลงพื้นดังตึบจนพื้นสะเทือน ผู้จู่โจมเดินเข้ามาใกล้มุตติ ยกมือขึ้นเหนือร่าง อดีตเทพตะวันออกร่างกระตุกคล้ายกับมีเส้นเชือกที่มองไม่เห็นผูกรั้งตัวเขาเอาไว้กับมือนั้น
“พยายามได้ดี ข้าเกือบจะเชื่อและหลงกลแล้ว” อีกฝ่ายกล่าวชม “แต่คิดหรือว่าข้าจะมาหาเจ้าด้วย
ร่างจริง ของข้า นึกว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าคิดทำอะไรบ้างลับหลังข้า เด็กน้อยเอ๋ย”
จ้าวจตุรทิศ ภาค จัณฑวาตา ตอนที่ 40: เกาะแห่งความตาย (2/2)
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ Psycho man: เลยปีใหม่มาได้ 4 วันละ แถวบ้านเริ่มร้อนแล้ว
คุณ น้องตะวันรัตติกาล: หวังว่าคงหายดีแล้วเนอะ
ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ: คุณ เขมปัณณ์, คุณ Psycho man, คุณ ลูนาติก, คุณ ตะวันรัตติกาล, และ คุณ Septer ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
อารมันเสี่ยงมาตามบุษบรรณถึงเกาะแห่งความตาย โดยไม่รู้ว่ากำลังโดนฝ่ายตรงข้ามวางกับดักไว้ แต่พวกเขาอาศัยความสามารถ หนีรอดจากเหตุการณ์เฉพาะหน้ามาได้ และถลำเข้าไปในส่วนลึกลับของเกาะแห่งความตาย
40. เกาะแห่งความตาย (2/2)
มุตติไม่ตอบว่าอะไร เพียงแต่ค้อมศีรษะอย่างให้เกียรติพลางหันไปสั่งเหล่าทหารสิงหาละกะที่ยืนรับคำสั่งอยู่เบื้องหลัง ไม่นานนักพวกทหารน้ำก็แบกแคร่ไม้เข้ามา เหนือแคร่นั้นปรากฏร่างคนคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ แม้บนร่างจะสวมเครื่องแต่งกายเรียบร้อย ทว่าตามใบหน้าและแขนขาเปลือยที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมายังคงเห็นร่องรอยบาดแผลมากมาย โดยเฉพาะบริเวณข้อมือและข้อเท้า ใบหน้าของนักโทษรกครึ้มไปด้วยหนวดเคราและเส้นผมสีดำปรกใบหน้า จนไม่สามารถคาดเดาใบหน้าที่แท้จริงได้
ทันใดที่เห็นร่างนักโทษถูกหามเข้ามา บุษบรรณถึงกลับแทบกลั้นหายใจเพราะตระหนักว่าร่างที่อยู่บนแคร่หามอาจเป็นสหายเก่าของเธอก็ได้ ท่านมือปราบเผลอขยับตัวเพราะต้องการเห็นภาพเบื้องล่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงต้องปรามเบาๆ พร้อมกับจงใจออกแรงรั้งร่างของหญิงสาวพิงกับตัวเอาไว้ตามเดิม เธอขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ หันขวับเงยหน้ามองด้วยนัยน์ตาลุกวาว ทว่าอารมันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ แม้ในใจนั้นคาดว่าหากรอดกลับไปคงถูก ‘คิดบัญชี’ จนน่วมแน่ทหารน้ำของมุตติวางแคร่หามลงกลางห้องแล้วจึงก้าวถอยออกไปยืนห่างๆ นักเดินสารขยับเข้ามาใกล้นักโทษ กางขายืนคร่อมร่างแล้วทรุดกายลง พยายามบังคับให้นักโทษผู้นั้นกลืนตัวยาบางอย่างที่เขานำมาลงคอ ผู้สังเกตการณ์ได้ยินเสียงร้องครางของชายผู้โชคร้าย แม้จะแผ่วเบา...ทว่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทุรนทุราย มือและขาของเขาสั่นกระตุกไปมา
อาคมพิษ...อารมันคิดในใจ
ต่อเมื่อร่างกายของชายนักโทษหยุดสั่นไหวแล้ว นักเดินสารจึงยืดกายขึ้น ก้าวข้ามตัวนักโทษแล้วกล่าวสั่ง “เมื่อข้าไปแล้ว ท่านต้องทำตามสัญญา จงทำลายเกาะแห่งความตายเสีย”
“ท่านกลัวศิษย์เอกจอมเทพจะโผล่มาทำลายแผนการของท่านได้งั้นหรือ” มุตติย้อน
ผู้เดินสารมองกลับไปที่ฝ่ายตรงข้าม “นั่นไม่ใช่เรื่องที่ท่านควรถาม”
มุตติหัวเราะในลำคอทวนคำ “ไม่ใช่เรื่องที่ควรถาม? งั้นข้าควรถามท่านเรื่องใด เรื่องบุริมคทาทิศ? หรือเรื่องความลับของวังสุริยัน? ส่วนศิลาลัยแค่อำนาจของตนเองก็แทบรักษาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว หากโลกาธิบดีรู้ว่าท่านฝืนโองการลอบนำเมล็ดรากเขาสุเมรุออกจากป่ารุกข์ ใครเล่าจะออกหน้าแทนท่าน”
ฝ่ายตรงข้ามคำรามใส่ พลันกล่าวเวทจู่โจม เมื่อตระหนักว่าเสียรู้ให้เจ้าหนุ่มแดนตะวันออก การแสดงความอ่อนแอแก่คนภายนอกเป็นเพียงเล่ห์กลเพื่อหลอกล่อให้ผู้อื่นวางใจว่าเขายังอยู่ในโอวาทเท่านั้นเอง ช่างเจ้าเล่ห์นัก!
มุตติเพียงแค่คลายมือออกจากกันและยื่นไปเบื้องหน้า ฝ่ายตรงข้ามถึงกับต้องหยุดกึกคล้ายคาดเดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดทำอะไร
“จะกลัวไปไย” อดีตเทพตะวันออกถาม “ในเมื่อท่านเองคิดจะใช้เวทนิมิตวิปลาสนี้กับผู้อื่นอยู่แล้ว เป็นตัวท่านเองต่างหากที่นำพาท่านมาพบจุดจบเช่นนี้”
มือข้างหนึ่งของมุตติยกขึ้นแล้ววางกลางหน้าผากของฝ่ายตรงข้าม และออกแรงจนนิ้วทั้งห้าแทบจมหายเข้าไปในกระโหลก ปากของผู้เดินสารอ้ากว้าง ทว่าไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา ดวงตาเหลือกถลนแทบออกมานอกเบ้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นิ้วมือหงิกงอ ร่างกายไร้การต่อต้านขัดขืน ไม่มีทางสู้ต่ออำนาจของเจ้าเกาะแห่งความตายแม้แต่น้อย
ในวาระนั้นแม้แต่ท่านมือปราบใจแข็งที่มองเห็นเหตุการณ์เบื้องล่างยังต้องหันหน้าหนี เมื่อมุตติถอนมือออกจากศีรษะ ร่างของอาคันตุกะก็ทรุดลงกองกับพื้นส่งเสียงดังตึง...มือขาวซีดข้างที่ใช้กำราบเทวะนั้นปรากฏรอยปื้นสีดำราวงูตัวเล็กๆ นับร้อยตัวกำลังเลื้อยเข้าสู่ร่างกาย...แต่แล้วในชั่วพริบตารอยประหลาดนั้นก็กลับเลือนหาย เจ้าเกาะแห่งความตายยืดกายขึ้นอย่างสง่างาม ปรายตามองร่างที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาดูแคลนก่อนที่แววตาจะแปรเปลี่ยนอีกครั้งเพราะจู่ๆ ร่างของทูตเดินสารพลันลุกจากพื้น ร่ายเวทฟาดใส่เจ้าเกาะแห่งความตายอย่างแรง ร่างของมุตติกระแทกใส่ผนังหินทั้งซ้ายขวาก่อนจะตกลงพื้นดังตึบจนพื้นสะเทือน ผู้จู่โจมเดินเข้ามาใกล้มุตติ ยกมือขึ้นเหนือร่าง อดีตเทพตะวันออกร่างกระตุกคล้ายกับมีเส้นเชือกที่มองไม่เห็นผูกรั้งตัวเขาเอาไว้กับมือนั้น
“พยายามได้ดี ข้าเกือบจะเชื่อและหลงกลแล้ว” อีกฝ่ายกล่าวชม “แต่คิดหรือว่าข้าจะมาหาเจ้าด้วย ร่างจริง ของข้า นึกว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าคิดทำอะไรบ้างลับหลังข้า เด็กน้อยเอ๋ย”