สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เอ่อ สงสัยอย่าง คือการได้รับคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาตินี่ เขาใช้วิธีการเรียกตัว หรือดูตัว กันหรอครับ ไม่ใช่ว่าดูจากผลการแข่งหรือฝีมือหรอครับ เช่นสมมุติว่า ปีนี้เราจะมีการคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไปแข่ง SEA Games หรือ ASian Games เราต้องการนักกีฬาผู้ชาย 3 คน ใครอยากเป็นทีมชาติก็มาแข่งขันกันเลย ตามเวลาที่สมาคมกำหนด ใครเก่งสุด 3 คนแรก ก็ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติไป ถ้าใช้วิธีนี้ มันน่าจะโปร่งใส และยุติธรรม มากกว่าหรือเปล่าครับ ดีกว่าที่จะให้ใครบางคน เช่น โค้ช หรือ คนจากสมาคม มานั่งเลือกนักกีฬาที่ตัวเองถูกใจ
อย่างผมเป็นนักกีฬายิงธนู ทีมชาติ เวลาที่เขาจะคัดตัว นักกีฬายิงธนูทีมชาติ สมาคมยิงธนูก็จะประกาศว่า ใครอยากเป็นนักยิงธนูทีมชาติ ก็ให้มาแข่งขันที่รายการนี้ รายการนั้น คนที่ทำอันดับได้ 4 อันดับแรก ก็จะได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ
ผมไม่ได้อยู่ในวงการกีฬาขี่จักรยาน แต่ถ้ามองถึงเรื่องวิธีการคัดนักกีฬาทีมชาติ เขาก็น่าจะใช้วิธีการแข่งคัดเลือกเป็นตัวตัดสินนะครับ เช่น ใครอยากเป็นนักขี่จักรยานทีมชาติ ปีนี้ ให้มาแข่งตามวันเวลาที่สมาคมกำหนด แล้วดูจากผลการแข่งเลยครับ การแข่งจักรยานมันมีเวลาตัดสินที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้วิธีดูตัว เรียกตัวหรอครับ แบบว่า คนที่ได้ที่ 1 แต่ถ้า โค้ช สมาคม เห็นว่าไม่เหมาะสม เช่น อายุมากไป หรือความประพฤติไม่ถูกใจ ก็จะมองข้ามไป ไปเรียกตัว คนที่ได้อันดับรองลงมา แบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าไม่น่าแฟร์นะครับ
ส่วนเรื่อง รายได้ของนักกีฬาทีมชาติ อันนี้ก็ขอตอบจากการที่เป็นนักกีฬายิงธนูทีมชาตินะครับ คิดว่ากีฬาอื่นๆ ก็คงจะคล้ายๆกัน รายได้หลักๆที่แน่นอนของนักกีฬาทีมชาติเลย ก็คือเบี้ยงเลี้ยงฝึกซ้อมวันละ 300 บาทครับ นอกจากนี้ จริงๆแล้วจะมีค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์กีฬที่ต้องใช้ ต้องซ่อมแซม กีฬาที่ใช้อุปกรณ์ราคาแพง เช่น ธนู กับ จักรยาน น่าจะมีตรงนี้ แต่เงินส่วนนี้แล้ว ส่วนใหญ่ สมาคมจะดูแลเอง มาไม่ถึงมือนักกีฬาครับ บางสมาคมก็มีที่มอบเงินตรงนี้ให้นักกีฬาโดยตรงเลย ถ้านักกีฬาได้เงินตรงนี้เต็มๆ ก็บอกว่ารายได้การเป็นนักกีฬาทีมชาติก็ดีอยู่ แต่ถ้าไม่ได้ตรงนี้ ก็จะได้แค่เบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อม วันละ 300 บาทครับ
นอกจากนี้ก็จะเป็นพวกเงินอัดฉีด จากการแข่งขันครับ ซึ่งมันก็ไม่แน่นอน
ส่วนที่ว่า แข่งรายการไหนดี รายการไหน สำคัญ รายการไหนใหญ่ ถ้าจะแข่งขันเพื่อเน้นการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็ต้องเน้นแข่งรายการที่สมาคมนั้นจัดครับ เพราะสมาคมเป็นผู้มีอำนาจในการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติครับ เขาก็จะใช้การแข่งที่เขาจัดเองนั่นแหละ ในการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติ
ต่อไป ถ้าคุณได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ คุณได้ไปแข่ง ซีเกมส์แน่นอนอยู่แล้ว (เว้นแต่ ซีเกมส์ จะไม่จัดกีฬานั้น) ส่วนการไปแข่ง เอเซียนเกมส์นั้น จะขึ้นอยู่กับว่าคุณทำผลงานในซีเกมส์ได้ดีแค่ไหน หรือการแข่งระดัยนานาชาติต่างๆได้ดีแค่ไหน ถ้าแข่งซีเกมส์ไม่ได้เหรียญอะไรเลย หรือไม่ได้เหรียญทอง โอกาสการที่ กกท จะส่งกีฬานั้นๆไปแข่ง เอเซี่ยนเกมส์ ก็จะมีน้อยมาก แต่ถ้าคุณแข่ง ซีเกมส์ได้เหรียญทอง หรือแข่งระดับนานาชาติอื่นๆ ได้อันดับต้นๆ กกท ก็อยากที่จะส่งคุณไปแข่งเอเซี่ยนเกมส์ครับ
ส่วนการไปแข่ง โอลิมปิค นี้จะไม่ใช่อยู่แค่ที่ กกท แล้ว คือซีเกมส์ กับ เอเซี่ยนเกมส์ ขอแค่ กกท สนับสนุนส่งคุณไป คุณก็ได้ไปแล้ว แต่การจะได้ไปแข่งโอลิมปิคนั้น คุณจะต้องไปแข่งคัดเลือกก่อน ทั้งจากการแข่งระดับโลก และระดับทวีป เพื่อให้ได้โควต้ามา ซึ่งการไปแข่งคัดเลือกเหล่านี้ ต้องใช้เงินของสมาคมในการส่งไปแข่งคัดเลือก ก็อยู่ที่ว่าสมาคมของคุณ จะสนับสนุนให้คุณและเพื่อนร่วมทีมไปแข่งคัดเลือกมั้ย และก็อยู่ที่ฝีมือคุณด้วย ว่าไปแข่งคัดเลือกแล้วจะได้โควต้ามั้ย ถ้าคุณได้โควต้ามา คุณก็จะได้ไปแข่ง โอลิมปิค ครับ ยังไง กกท ก็จะส่งคุณไปแข่งแน่นอน
ทั้งหมดนี้ ผมตอบจากพื้นฐาน ประสพการณ์ การเป็นนักกีฬายิงธนูทีมชาตินะครับ นักกีฬาประเภทอื่นๆ อาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่เชื่อว่าระบบน่าจะใกล้เคียงกันครับ
อย่างผมเป็นนักกีฬายิงธนู ทีมชาติ เวลาที่เขาจะคัดตัว นักกีฬายิงธนูทีมชาติ สมาคมยิงธนูก็จะประกาศว่า ใครอยากเป็นนักยิงธนูทีมชาติ ก็ให้มาแข่งขันที่รายการนี้ รายการนั้น คนที่ทำอันดับได้ 4 อันดับแรก ก็จะได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ
ผมไม่ได้อยู่ในวงการกีฬาขี่จักรยาน แต่ถ้ามองถึงเรื่องวิธีการคัดนักกีฬาทีมชาติ เขาก็น่าจะใช้วิธีการแข่งคัดเลือกเป็นตัวตัดสินนะครับ เช่น ใครอยากเป็นนักขี่จักรยานทีมชาติ ปีนี้ ให้มาแข่งตามวันเวลาที่สมาคมกำหนด แล้วดูจากผลการแข่งเลยครับ การแข่งจักรยานมันมีเวลาตัดสินที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างนี้หรือเปล่าครับ หรือว่าใช้วิธีดูตัว เรียกตัวหรอครับ แบบว่า คนที่ได้ที่ 1 แต่ถ้า โค้ช สมาคม เห็นว่าไม่เหมาะสม เช่น อายุมากไป หรือความประพฤติไม่ถูกใจ ก็จะมองข้ามไป ไปเรียกตัว คนที่ได้อันดับรองลงมา แบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าไม่น่าแฟร์นะครับ
ส่วนเรื่อง รายได้ของนักกีฬาทีมชาติ อันนี้ก็ขอตอบจากการที่เป็นนักกีฬายิงธนูทีมชาตินะครับ คิดว่ากีฬาอื่นๆ ก็คงจะคล้ายๆกัน รายได้หลักๆที่แน่นอนของนักกีฬาทีมชาติเลย ก็คือเบี้ยงเลี้ยงฝึกซ้อมวันละ 300 บาทครับ นอกจากนี้ จริงๆแล้วจะมีค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์กีฬที่ต้องใช้ ต้องซ่อมแซม กีฬาที่ใช้อุปกรณ์ราคาแพง เช่น ธนู กับ จักรยาน น่าจะมีตรงนี้ แต่เงินส่วนนี้แล้ว ส่วนใหญ่ สมาคมจะดูแลเอง มาไม่ถึงมือนักกีฬาครับ บางสมาคมก็มีที่มอบเงินตรงนี้ให้นักกีฬาโดยตรงเลย ถ้านักกีฬาได้เงินตรงนี้เต็มๆ ก็บอกว่ารายได้การเป็นนักกีฬาทีมชาติก็ดีอยู่ แต่ถ้าไม่ได้ตรงนี้ ก็จะได้แค่เบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อม วันละ 300 บาทครับ
นอกจากนี้ก็จะเป็นพวกเงินอัดฉีด จากการแข่งขันครับ ซึ่งมันก็ไม่แน่นอน
ส่วนที่ว่า แข่งรายการไหนดี รายการไหน สำคัญ รายการไหนใหญ่ ถ้าจะแข่งขันเพื่อเน้นการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ก็ต้องเน้นแข่งรายการที่สมาคมนั้นจัดครับ เพราะสมาคมเป็นผู้มีอำนาจในการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติครับ เขาก็จะใช้การแข่งที่เขาจัดเองนั่นแหละ ในการคัดเลือกนักกีฬาทีมชาติ
ต่อไป ถ้าคุณได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ คุณได้ไปแข่ง ซีเกมส์แน่นอนอยู่แล้ว (เว้นแต่ ซีเกมส์ จะไม่จัดกีฬานั้น) ส่วนการไปแข่ง เอเซียนเกมส์นั้น จะขึ้นอยู่กับว่าคุณทำผลงานในซีเกมส์ได้ดีแค่ไหน หรือการแข่งระดัยนานาชาติต่างๆได้ดีแค่ไหน ถ้าแข่งซีเกมส์ไม่ได้เหรียญอะไรเลย หรือไม่ได้เหรียญทอง โอกาสการที่ กกท จะส่งกีฬานั้นๆไปแข่ง เอเซี่ยนเกมส์ ก็จะมีน้อยมาก แต่ถ้าคุณแข่ง ซีเกมส์ได้เหรียญทอง หรือแข่งระดับนานาชาติอื่นๆ ได้อันดับต้นๆ กกท ก็อยากที่จะส่งคุณไปแข่งเอเซี่ยนเกมส์ครับ
ส่วนการไปแข่ง โอลิมปิค นี้จะไม่ใช่อยู่แค่ที่ กกท แล้ว คือซีเกมส์ กับ เอเซี่ยนเกมส์ ขอแค่ กกท สนับสนุนส่งคุณไป คุณก็ได้ไปแล้ว แต่การจะได้ไปแข่งโอลิมปิคนั้น คุณจะต้องไปแข่งคัดเลือกก่อน ทั้งจากการแข่งระดับโลก และระดับทวีป เพื่อให้ได้โควต้ามา ซึ่งการไปแข่งคัดเลือกเหล่านี้ ต้องใช้เงินของสมาคมในการส่งไปแข่งคัดเลือก ก็อยู่ที่ว่าสมาคมของคุณ จะสนับสนุนให้คุณและเพื่อนร่วมทีมไปแข่งคัดเลือกมั้ย และก็อยู่ที่ฝีมือคุณด้วย ว่าไปแข่งคัดเลือกแล้วจะได้โควต้ามั้ย ถ้าคุณได้โควต้ามา คุณก็จะได้ไปแข่ง โอลิมปิค ครับ ยังไง กกท ก็จะส่งคุณไปแข่งแน่นอน
ทั้งหมดนี้ ผมตอบจากพื้นฐาน ประสพการณ์ การเป็นนักกีฬายิงธนูทีมชาตินะครับ นักกีฬาประเภทอื่นๆ อาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่เชื่อว่าระบบน่าจะใกล้เคียงกันครับ
แสดงความคิดเห็น
สงสัยมานานแล้ว!! ปั่นจักรยานอย่างไรให้ติดทีมชาติไทยหรือติดทีมสโมสร ขอทราบลำดับขั้นตอนครับ
ถ้าอย่างคอฟุตบอล ก็จะทราบได้ดีว่าลำดับขั้นตอนการติดทีมชาติเป็นอย่างไร
อธิบายง่ายๆสั้นๆกับบอลไทยคือ เตะบอลให้กับสโมสรในฟุตบอลลีก ที่มี 3 ระดับ TPL D1 D2
ใครโชว์ฟอร์มดีก็จะถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยไปเอง
ส่วนในระดับเยาวชน ก็จะมีเยาวชนของสโมสร ใครเก่งแต่เด็กก็จะติดทีมชาติไทย ตั้งแต่ในชุด 17 ปี 19 ปี โอลิมปิก ซีเกมส์ ทีมชาติชุดใหญ่
แล้วกับวงการจักรยานไทยและจักรยานระดับสากล มันยังไงกันครับ ??
1. ลำดับขั้นตอนการปั่นจักรยานให้ติดทีมชาติไทย ไปแข่งระดับชาติ ระดับซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิก ต้องทำยังไงบ้างครับ
2. มีสโมสรจักรยานดังๆหรือทีมจักรยานดังๆระดับประเทศไหมครับ ถ้าเทียบกับบอลไทยก็คือ บุรีรัมย์ เมืองทอง ชลบุรี
แล้วทีมนึงมักจะมีกี่คน นักปั่นซ้อมกันที่ไหนบ้างครับ
3. รายการแข่งขันในประเทศไทยมีกี่ระดับครับ ช่วงนี้กระแสจักรยานมีเยอะ รายการแข่งขันจักรยานก็มีเยอะตามไปด้วย เรียกว่ามีทุกสัปดาห์
แล้วจะรู้ได้ไงว่ารายการไหนรายการใหญ่ กลางๆ หรือเล็กๆขำๆ รายการไหนระดับอินเตอร์ มีทีมชาติมาแข่งด้วย
แล้วถ้าไปลงแข่งบ่อยๆแล้วไดอันดับดีๆ จะมีโอกาสติดทีมชาติไหมครับ
4. เงินเดือนนักปั่นจักรยานจากการติดทีมสโมสรหรือทีมชาติ รายได้ระดับไหน ?
เทียบกับบอลไทย เงินเดือนนักเตะทีมชาติที่เล่นให้สโมสรขั้นต่ำเรท 150,000 บาทครับ
5. รายการแข่งจักรยานโดยทั่วไปมีกี่ประเภท เช่น ทางเรียบ ไทม์ไทรอั้ล ประเภทลู ลาน หมอบ ภูเขา ดาวฮิลล์ ??
6. AV นักปั่นทีมชาติไทย เทียบกับนักปั่นระดับโลก tour de france เท่าไหร่ครับ ตีง่ายๆว่าทางราบๆเรียบๆระดับ 150-200 กม. ครับ
7. การที่มีกระแสปั่นจักรยานในเมืองไทยมากมากขนาดนี้ ในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา
น้าๆคิดว่าจะมีส่วนที่จะสร้างนักกีฬาเพื่อเป็นตัวเลือกให้ทีมชาติได้มากน้อยขนาดไหนครับ
อันนี้หมายถึงคนที่มาปั่นแล้วชื่นชอบการปั่นเพื่อแข่งขันนะครับ ไม่ใช่ปั่นเพื่อออกกำลังกายขำๆหรือเดินทางท่องเที่ยวครับ
ใครตอบข้อไหน ตอบมาได้เลยครับ ถือเป็นวิทยาทานให้กับน้าๆมือใหม่ที่เพิ่งมาปั่นจักรยานครับ ^^