Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต

January 3, 2014 at 1:06am

แม้ว่าการเดินทางในญี่ปุ่นจะสะดวกสบายมาก
แต่บางครั้งเราก็ต้องเสียเวลากับการเดินทางจนทั้งวันแทบไม่ได้ทำอะไร
เพราะบางการเดินทาง มันสามารถสูบเลือดสูบพาวเวอร์ในตัวเราออกไปได้จนไร้เรี่ยวแรง...

อย่างวันปีใหม่นี้ที่เราย้ายรากฐานกันจากโอซาก้ามาตั้งที่เกียวโต
อาจเป็นการเดินทางด้วยขบวนรถไฟแค่เกือบๆ ชั่วโมง แต่หนทางการไปที่พักยากเหลือเกิน
เป็น Guesthouse ภายในซอยลึกที่รถแท็กซี่ยังเข้าไม่ถึง!
เราไปถึงกันเสร็จก็อยากจะออกมาทานอะไรให้อิ่มหนำซักเล็กน้อย
แต่ก็พบว่าแทบไม่มีร้านอาหารใดเปิดเลย! ผนวกกับอากาศที่หนาวสะท้านรูขุมขน
ที่ทำให้เราไม่ค่อยอยากจะออกไปไหน

สุดท้ายกิ๊กกับคุณแม่ก็รีบออกไปทานข้าวที่ห้าง
สถานที่ที่น่าจะเปิดเพียงไม่กี่แห่งในตอนนั้น และซื้อข้าวกลับมาฝากยายนิด
ที่บ่นทันทีว่าเราซื้ออะไรมาฝากเยอะแยะ

แต่ด้วยความกลัวที่จะสูญเสียวันไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้พบเห็นความเป็นเกียวโตสักอย่าง
คุณแม่ก็เลยพากิ๊กไปดูถนน Gion เพื่อไปส่องเหล่าๆไมโกะ หรือเกอิชาฝึกหัด
ซึ่งเขาว่ากันว่าจะเดินให้เราเห็นไปมาในถนนสายนี้
จริงๆ ก็อยากเข้าไปดูชัดๆในร้านนะ แต่คุณแม่บอกว่าค่าอาหารในร้านที่มีเหล่าสาวๆ เหล่านี้
ราคาแพงยับ เราเลยกะจะไปแค่ส่องก็พอ

แต่พอไปถึง ด้วยอำนาจของวันปีใหม่ ดลบันดาลให้ร้านทั้งหลายปิดอย่างไม่แยแสนักท่องเที่ยว
เราได้แต่เดินเล็งไปมา ไม่เห็นไมโกะสักคนเดินผ่านไป
มีเห็นลิบๆ แต่พอวิ่งตามไปเธอก็เดินหายไปเสียแล้ว ว้า~


Gion!



แต่อย่างน้อยเราก็ได้ไปเก็บบรรยากาศเล็กน้อยเหล่านั้นมาแล้ว ถือว่าไม่เสียเที่ยวละกันนะ


ไม่เห็นไมโกะตัวจริง ขอเห็นไมโกะในโปสเตอร์ก็ยังดี...


วันต่อมากิ๊กมีนัดกับไกด์นำเที่ยวส่วนตัวชื่อ ไอยดา
เป็นสาวน้อยน่ารักแสนดีที่มาเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่ม.เกียวโตนี่เอง
เธอเปรียบเสมือนหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของเกียวโตที่ใครๆ ในโฟล์คมาถึงแล้วต้องมาเจอะเจอ
เรียกได้ว่าถ้าไม่เจอไอยดา แปลว่ามาไม่ถึงเกียวโตเลยทีเดียว 5555
แม่กิ๊กจัดแจงแต่งกิโมโนให้เรียบร้อย
ให้เราได้ไปเดินในวัดวาอารามแถวนี้โดยไม่อายใคร (หรือมันจะน่าอายกว่ากันแน่!?! 5555)


คุณไอยดาาา


ทริปเที่ยวกับพี่ไอคราวนี้แม่กุ้งกับยายนิดขอบาย
เนื่องจากเหล่าวัดดังๆที่เราจะไปกันในเกียวโต เต็มไปด้วยทางเดินชันๆ บันไดหลายร้อยขั้น
ยากต่อการพิชิตเหลือเกินนนน สาวเจ็นล่าสุดอย่างกิ๊กยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะใส่เกี๊ยะเดินทั่ววัดไหว =_=

อย่างวัดแรก เราไปลุยกันที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ หรือ Fushimi Inari Shrine
เป็นศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิสีแดงๆ เรียงรายเต็มไปหมด!
ประเด็นคือไม่ใช่แค่มีเยอะ แต่โคตตตรรรรเยอะ!!!
คุณแม่เม้าท์ไว้ว่ามีเป็นแสนต้นได้ แต่เสิร์ชดูใน wiki เมื่อกี๊เห็นว่าประมาณ 32,000 ต้น
(แอบโม้นะเนี่ยคุณแม่ 5555) คนเยอะมากกก คือตั้งแต่ลงจากสถานี
ไม่มีส่วนไหนของถนนที่ไม่ถูกเติมเต็มด้วยคนเลย แน่นขนัดไปหมด
ต่างคนต่างต่อแถวกันเดินต่อขึ้นไปชมเสาโทริอิ


ฅฅฅฅฅฅฅฅฅฅฅฅ


จะเดินยังไงดีเนี่ย...


เสาโทริอิสีแสดดดดดด


ถ้าจะเยอะขนาดนี้...


พอเดินผ่านซุ้มโทริอิขึ้นไปได้ซักพัก ก็จะมีโซนให้หยุดไหว้พระ
มีให้วาดรูปจิ้งจอกแล้วแขวนขอพร เสี่ยงเซียมซี หรือซื้อขายเครื่องรางต่างๆ นานา
เราหยุดแวะกันซักแปปแล้วพยายามปีนต่อ


Write a wish!


ยังสู้ไหว!


ตอนแรกกะจะขึ้นมันให้สุดเลย พี่ไอบอกว่าสุดนั่นคือยอดเขาเลยนะ
เราก็ เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปให้ถึง!! แต่เลยจากจุดพักมาแค่ไม่นาน
เกี๊ยะที่เท้าก็เริ่มวางยา ทำเอาระบมไปหมด รวมถึงกลัวไปอีกศาลเจ้าไม่ทัน
อืม... ฟูชิมิ อินาริ ข้าขอลาเจ้าเพียงเท่านี้...

ระหว่างทางคุณไกด์ก็พาทัวร์พาชิมของเด็ดเป็นระยะ มีซอฟท์ครีมเต้าหู้ร้านนึง
ตั้งอยู่แถวหน้าประดูศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ มันอร่อยมาก
หนืดๆ ดึ๋งดั๋งได้ที่เลย คนขายเค้าจะคว่ำให้เราดูก่อน (อย่างกับ Dairy Queen)
ซึ่งซอฟต์ครีมอันนี้ก็จะไม่หลุดออกมาด้วย! แถวพอเขย่าๆ มันก็จะโบกดุ๋งๆ
ตามแรงสั่นของเราแต่ไม่หลุดออกมา *0*// คอนเฟิร์มว่าอร่อยมั่ก ต้องลองเบย!


ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว...


อีกที่นึงที่เราจะไปคือ วัดน้ำใส หรือวัดคิโยมิซึ เป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความรักมาก
ซึ่งแน่นอนว่าคนก็ยังคลาคล่ำมากมายมหาศาลอัดแน่นเต็มทุกพื้นที่ที่สามารถยืนได้...
ทางวัดจัดโซนโซนหนึ่งสำหรับการอธิษฐานขอพรความรักโดยเฉพาะเลยทีเดียว


ประตูทางเข้าอันโอ่อ่า


Let my people go!


โซนเยิ๊ฟเยิ๊ฟ~


พอขึ้นไปถึงนอกจากเครื่องราง และศาลเจ้าย่อยๆต่างๆให้ขอพร
ก็จะพบหินสองก้อน คุณไกด์ไอยดาบอกว่า เค้ามีความเชื่อว่า
ให้ผู้ชายผู้หญิงยืนอยู่คนละฟากโดยมีหินแห่งความรักสองก้อนนี้คั่น
ถ้าฝ่ายชายหลับตาแล้วเดินมาหาฝ่ายหญิงถูก ทั้งคู่จะครองรักกันตลอดไป~
(แต่ถ้าไม่ถูก มีสิทธิ์ถูกผู้หญิงตบคว่ำฟาดหินหัวกระแทกรึเปล่าก็ไม่รู้)
ตอนไปถึงยังไม่เห็นมีใครมาเสี่ยงนะ 5555


หินน้อยคอยรัก


แม่! พาหนูกลับเห๊อะ!


พวกเราต่างเล่นเซียมซีความรักกันคนละใบ คุณพี่ไอยดาจับได้ซะดี๊ดี
ส่วนเราน่ะเหรอ... หึ ก็ปานกลาง ได้เสร็จก็ต้องแขวนไว้ที่นั่นแหละ
เพราะเค้าว่าถ้าได้ใบเซียมซีที่ไม่ดีควรจะผูกไว้ ไม่ต้องเอากลับไป
หรือถ้าได้ปานกลางแบบนี้จะผูกหรือไม่ผูกก็ได้...
แง~~ แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่หนูจะมีแฟน TT^TT (บ่นเรื่อยเปื่อย โปรดช่างกิ๊กมัน)


ชิ... แขวนก้ด้ะ


มีต้นไม้อันนึงที่เค้าไหว้กันโคตรน่ากลัว ก็คือรอบๆ ลำต้นจะมีรอยตะปู
เขาบอกว่าสมัยก่อน เวลาที่ผู้หญิงคนไหนเกลียดใคร
จะมาสาปแช่งที่ต้นไม้นี้ตอนตี 2 โดยตอกตะปูลงกลางตุ๊กตาฟาง
(แบบที่เราๆเคยเห็นกันในการ์ตูน)


สยอง!


แต่ที่เด็ดสุดของที่นี่คงไม่พ้นตำนานรักยืนยงนี่แล้ว
คือจะมีบริเวณศาลาวัดส่วนหนึ่งซึ่งถูกยกระดับขึ้นมาสูงมากกก
ประมาณตึกสามชั้นกว่าๆ ได้ ซึ่งเค้ามีความเชื่อว่า ถ้าใครกระโดดลงไปจากจุดนี้แล้วไม่ตาย
จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดชีวิต!! พี่ไอบอกว่ามีคนรอดเยอะ
แต่ก็มีคนตายเหมือนกัน แต่สมัยนี้ไม่มีใครเค้าทำแล้ว
แต่ก่อนเค้าจะกางร่มแล้วโดดลงไปกัน... อะโหวววว
ไอกิ๊กเห็นก็ขาสั่นแว้วววว ไม่ขอเสี่ยงอันใดค่ะ - -”!!


มุมมองจากระเบียงสำหรับกระโดดพิสูจน์รักแท้


กล้าโดดลงมาให้ยี่สิบ...


แต่ก็ยอมรับว่าจุดนั้นเป็นจุดชมวิวที่สวยมากกกกก
ถ้าไม่ติดที่คนเยอะมหาศาลกับฝรั่งข่างๆที่ยืนให้คำมั่นสัญญารักกันหวานซึ้ง
กิ๊กก็อาจจะได้ยืนดูนานกว่านี้


ชมวิว~~


อีกเรื่องที่พลาดไม่ได้ถ้ามาวัดนี้ก็คือขอพรที่น้ำตกสามสีค่ะ
จะมีคนต่อคิวเรียงคิวกันเข้าไปดื่มน้ำจาก
น้ำตกทั้งสาม (เลือกได้คนละน้ำตก) โดยรองน้ำตกลงในกระบวยแล้วดื่มเอา
มีให้เลือกน้ำตกละเรื่อง เรื่องสุขภาพ การงาน หรือความรัก
เสียดายที่กิ๊กไม่ได้ลอง เพราะคนต่อคิวกันเยอะมากมายเหลือเกิน


น้ำตกสามสาย สายไหนดี


ดูๆ ไปแล้ว มีความรู้สึกว่าวัดนี้นอกจากจะสวย ยังมีความเป็นมาร์เก็ตติ้งสูงเชียวนะ
ตั้งใจหาจุดขายมาล่อตาล่อใจเต็มไปหมด! ซึ่งเราก็แทบจะตกมันทุกหลุม 5555

บอกตามตรงว่าตอนแรกเป็นคนมีอคติกับคำว่าไปเที่ยววัดนู้นวัดนี้สิ
จะรู้สึกไปเองว่าเป็นของของคนแก่ อาจจะน่าเบื่อก็เป็นได้
แต่ที่ไปมาวันนี้สองวัด ก็รู้สึกสนุก ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องเล่าต่างๆนาๆของวัดไปหมด
แถมวิวยังสวยงามรื่นตามากๆ
ทำให้ความคิดเกี่ยวกับการเที่ยวชมวัดเปลี่ยนไปเลยทีเดียวค่ะ ^^

สรุปว่าวันนี้กิ๊กก็เห็นคนญี่ปุ่นใส่กิโมโนมาเดินเล่นเป็นแก๊งค์เต็มไปหมดเหมือนกัน
มีคนมาขอถ่ายรูปเราสองคนด้วย ตลกดี 555 แต่ต้องขอยอมรับอยู่ดีว่า
ก็เป็นเครื่องทรมาณสตรีอย่างหนึ่งชัดๆ!
หลักฐานก็คือรอยบวมเป่งตรงระหว่างรองนิ้วที่คีบเกี๊ยะเดินไปมานั่นเอง TT^TT

ต้องขอบคุณไกด์สาวสวย Ai Dokdak ที่พากิ๊กเที่ยวนู่นเที่ยวนี่เต็มที่
พร้อมการดูแลอย่างดีด้วยน้าาาา พรุ่งนี้เจอกัน universal นะคะคุณไกด์ขาาา อิอิอิอิ x)

ป.ล. Credit รูปที่มีกิ๊กโดย Ai Dokdak ค่ะ ^^

ติดตามตอนต่อไปได้เจ้าค่ะ
Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...     http://ppantip.com/topic/31388877
Day 1 ทรัพย์สมบัติ ซูชิ พละกำลัง !!   http://ppantip.com/topic/31389109
Day 2 ชา ลา ลา~   http://ppantip.com/topic/31389233
Day 3 ฅ. ดล 3   http://ppantip.com/topic/31389940
Day 4 วันที่ฉันป่วย  http://ppantip.com/topic/31390333
Day 5&6 Cookie in Kanazawa   http://ppantip.com/topic/31390347
Day 7 & 8 ส.ว. on tour  http://ppantip.com/topic/31390359
Day 9 แดนหมีดำ http://ppantip.com/topic/31390371
Day 10と11 BeppuとYufuin   http://ppantip.com/topic/31399474
Day แถม ONEPIECE @ Huis ten bosch ฟินมว๊ากกกกก~~~~ !!!!! >0< !!!!!!  http://ppantip.com/topic/31408111
Day 12 ศึกลูฟี่หมวกฟาง ปะทะ กิ๊กกี้หัวฟู ONEPIECE @ Huis ten bosch  http://ppantip.com/topic/31409608
Day 13~15 Kicky King of Sushi  http://ppantip.com/topic/31417630
Day 16 ฟูจิ โมจิ เปอร์เซียจิ  http://ppantip.com/topic/31421929
Day 17 เปอร์ เต็ม ชั้น     http://ppantip.com/topic/31461915
Day 19 มือที่สอง   http://ppantip.com/topic/31461997
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko  http://ppantip.com/topic/31462342
Day 23->22 ใจแตก @บาร์เกย์  http://ppantip.com/topic/31462536
Day 25.9~26.1 Special Day - Because it's New Year!  http://ppantip.com/topic/31466295
Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต  http://ppantip.com/topic/31466446
Day 29 ตอนที่ 1 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482396
Day 29 ตอนที่ 2 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482430