++++ 10 อันดับหนังในโรงที่แซบเวอร์แห่งปี 2013 ของแอ๊ดแมว +++

10 อันดับหนังในโรงที่แซบเวอร์แห่งปี 2013 ของแอ๊ดแมว  

(คำเตือนก่อนอ่าน : นี่คือความเห็นส่วนตัวล้วนๆ หนังจะสนุก
หรือไม่สนุกขึ้นอยู่กะรสนิยม บางเรื่องที่เราว่าสนุก คนอื่นอาจไม่สนุกนะฮะ )
...................................................................

10. Blue is the Warmest Color วันที่หัวใจกล้ารัก
นอกจากจะเป็นหนังชนะเลิศภาพยนตร์เมืองคานส์ 2013 ของปีนี้แล้ว ถือว่าเป็นหนังเลสเบี้ยนที่แรงมาก เห็นหมดเลยกระจู๋กระจิ๋มจุกจ๋น เห็ดไมตาเกะ ยามาบูชิตาเกะ ตื่นตาตื่นใจกะกระบวนท่าลีลารักกะฉากเลิฟซีนแบบเลสเบี้ยนลองเทคและไม่
ได้มีแค่ฉากเดียวจ้า รู้เลยว่าเค้าเบี้ยนกันยังไง รู้สึกเหมือนถูกเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ยิ่งกว่าติดจานทรูวิชั่นอีก นักแสดงเล่นดีมาก ความสนุกของเรื่องนี้คือเกิดจากเรารู้สึกรักตัวละครทั้งสองเห็นอกเห็นใจเหมือนนางเป็นเพื่อนเราคนนึง เห็นอกเห็นใจนาง
www.facebook.com/photo.php?fbid=476584105783717


9. ตั้งวง // Celeste & Jesse Forever (คะแนนเท่ากัน)

ตั้งวง
แม้หน้าหนังเหมือนจะอินดี้เข้าใจยาก แต่ขอบอกว่าหนังเรื่องนี้สนุกฮะ ดูไม่ยากเลย ชอบความจัดเต็มของหนัง ที่ตั้งคำถาม
เสียดสี และด่ากันตรงๆ เล่นตั้งแต่ประเด็นเรื่องของรากเหง้าความเป็นไทย เราต้องภูมิใจในความเป็นไทยนะจ๊ะ แต่เราก็ต้องดิ้นรนชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศให้ได้นะจ๊ะ จบนอกมันเจ๋งกว่าจบไทยนะจ๊ะ...อ่าว! รวมถึงประเด็นอื่นๆ อย่างการเมือง ครอบครัว กระเทย ค่านิยม อะไรคือความถูกต้อง อะไรคือการเคารพตัวเอง หรือไม่เคารพตัวเอง ท่ามกลางสังคมที่เรายิ้มชินชากะทุกสิ่งที่มันลักลั่นย้อนแย้นกันไปหมด โดยเฉพาะ10 นาทีสุดท้ายของหนังเนี่ย ใส่เต็มมาก รู้สึกเหมือนกะว่าตกลงพี่ผกก. กำลังแซะกูอยู่ใช่มะฮะ เอ๊ะ ไม่ใช่กูหรอกมั้ง เค้าคงด่าคนอื่นแหล่ะ แต่ทำไมรู้สึกตัวเองหน้าชาๆวะ 5555
www.facebook.com/photo.php?fbid=425849207523874


Celeste & Jesse Forever
ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีหนังเรื่องนี้อยู่ในโลกจนเพื่อนโทรมาชวนไปดู ตอนแรกคิดว่าดูเอาขำๆ ฆ่าเวลา ถ้าง่วงก็หลับไป ปรากฏว่าดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้ ตัวละครทุกตัวในเรื่องมีมิติ ถึงไม่ได้มีประสบการณ์เหมือนในหนังแต่มันต้องมีคนรอบตัวเราสักคนที่
เป็นเหมือนในหนังบ้างหล่ะ จังหวะของหนังที่ไหลลื่น ดูแล้วน่ารัก มุขตลกที่น่าเอ็นดู ไม่น่าเชื่อว่าหนังเล็กๆ แบบนี้ บางฉากก็
สามารถทำให้เราขำจนตัวสั่น ไม่ตลกแบบยัดเยียด แต่มันขำด้วยประสบการณ์การมองชีวิตของเราเอง คนที่เคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกับในหนังเรื่องนี้ ประเภทที่ว่า "ฉันจะทำยังไงถึงจะลืมเธอได้ ทำไมลืมคนที่เคยรักยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้" น่าจะอินและเวิ่นเว้อกะหนังเรื่องนี้ได้เป็นพิเศษ ถ้าคุณใช่อย่างที่บอกมา แนะนำควรหาเวลาไปดู จะได้รู้ซะบ้างว่าบางเรื่องพอเราปล่อยวางบ้างมันจะเป็นยังไง
www.facebook.com/photo.php?fbid=405575582884570


8. The Conjuring คนเรียกผี
นานๆจะเจอหนังผีฝรั่งที่ทำให้กรี๊ดจนเสียจริตได้ สนุกดี ดูแล้วเหนื่อยแบบบันเทิงดี ผีหลอกได้โหดสัส ยิ้มนจริงอะไรจริง ชอบหนังจังหวะเป๊ะมาก คือมุขเดิมๆ เคยเจอมุขนี้ในเรื่องอื่นแล้วไม่กลัว แต่มากลัวในเรื่องนี้ พวกคนสร้างหนังควรดูเป็นเรฟเฟอเรนท์ ว่าแต่หลอกยังไงให้คนมันกลัว หนังสร้างบรรยากาศและซาวด์ได้บิ้วมาก ผีออกมาไม่เยอะ แต่หลอกเยอะ เยอะชิ๊บฝาย เยอะไป ม๊ายย เยี่ยวจะเล็ดแล้วคร้า T^T อาจจะไม่ใช่หนังผีที่ดีที่มากที่สุดดูจบก็จบไป แต่เป็นหนังผีที่ตอบโจทย์ความสนุกฮะ /จบ
www.facebook.com/photo.php?fbid=420248444750617


7. Now You See Me
หนังอาจจะธรรมดา ไม่แปลกใหม่สำหรับหลายคนแต่ส่วนตัวคิดว่าหนังเทห์มาก เทห์ตั้งแต่พล็อตสกอร์เพลง ตัวละครเยอะแต่ทุกคนเด่นเท่ากันหมด (ดีกว่าหนังตระกูลโอเชียนที่ให้เด่นแค่บางคน) แสงสีวูบวาบแสงแฟลร์มาเต็ม(นึกว่ากะลังดูหนังเจเจ อับรามส์หรือไมเคิลเบย์อยู่) และการแสดงมายากลที่เจ๋ง
หนังสนุกตรงที่มันค่อยๆ ปล่อยโจทย์มาแล้วหลอกให้เราคิดหา
คำตอบ จาก 1 ไป 2 ,2 ไป 3 ไปเรื่อยๆ คิดไปว่าจริงๆมันต้อง
เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จนสุดท้ายกว่าจะรู้ตัวว่าโดนสับขาหลอก
ปล่อยให้เรามโนเป็นตุเป็นตะไปซะไกล
#ชอบตรงที่หลอกเราได้นี่แหล่ะ 5555
www.facebook.com/photo.php?fbid=405576092884519


6. The Great Gatsby
ต้องบอกก่อนว่า "หนังไม่ได้แมสกะทุกคน" การดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงมาก บทสนทนาเยอะ มีเนือยๆ อืดๆ บางฉาก
ใครไม่ชอบหนังแนวนี้คืออาจหลับได้ ด้วยความชอบผกก. เลยคาดหวังว่าหนังมันต้องอลังการ แต่ก็ไม่ได้อลังการอย่างที่คิดเพราะมันโคตรอลังการ ดาวล้านดวง โชว์วีวาร์อลังการสตาร์สเตจแบบเจ้ไก่หรือหม่อมนี่สิวๆไปเลย เป็นหนังที่โดดเด่นในการดีไซส์ดีเทลรายละเอียดแต่ละฉาก คือรู้เลยว่าพิถีพิถันและผ่านการคิดมาอย่างดี ถึงบรรยากาศจะดูโอเวอร์เกินจริงแต่เอามารวมกันแล้วมันดูต่อเนื่องสวย มีคลาส มีสไตล์ ไม่เคยดูหนังรักโรแมนติกใช้ 3D ได้สวยขนาดนี้มาก่อนทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินๆแล้วมีผ้าม่านพัดผ่าน แสงประภาคารพุ่งเข้าตา เปเปอร์ชู๊ตพุ่งออกมา" เรื่องนี้ถ้าดูแบบ 3D จะได้ฟิลมาก
www.facebook.com/photo.php?fbid=405575109551284


.......................................................
5. The Croods 3D // Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (คะแนนเท่ากัน)

The Croods 3D
บอกตรง ตอนแรกดู ทริลเลอร์ กะ โปสเตอร์หนังเรื่องนี้แล้วเฉยมากถึงมากที่สุด ไม่ได้มีความอยากดู แต่พอได้ดูขอบอกว่า หนังสนุกมากคนละเรื่องกะทริลเลอร์เลย แม้พล็อตเรื่องและคาแร็กเตอร์ตัวละครจะหยิงโน่นหยิบนี่มาผสมกัน นางเอกมีนิสัยคล้าย เจ้าหญิง Brave พ่อคาแร็กเตอร์คล้าย shrek เนื้อเรื่องคล้าย ice age บวกฟลิ้นสโตร์น แต่ถ้ามารวมกันแล้วหนังจะน่ารักขนาดนี้ก็โอเคเลย เหมาะกะคนที่ชอบดู หนังการ์ตูนที่ตลกๆ จังหวะมุขตลกเป๊ะ หรือแนวผจญภัยสักเรื่องประมาณ ice age และอยากดูภาพ 3D สีสวยสดใส แนะนำว่าถ้ามาดูเรื่องนี้ อยากให้มาดู 3D ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ภาพสวยจริง แอบนึกถึง อวตาล ขึ้นมาเลยทีเดียว
www.facebook.com/photo.php?fbid=10151317969305474


Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ
นี่เป็นหนังที่ทำให้ความคลาสสิกของการ์ตูนดิสนี่ย์กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ เชื่อว่าหลังจากนี้ทั้งเอลซ่าและแอนนา จะต้องเป็นหนึ่งในแกงค์ดิสนี่ย์ปริ้นเซสชื่อดังเทียบชั้นราพันเซล ซินเดอเรล่า สโนไวท์แน่ๆ และยังเป็นแรกของดิสนี่ย์ที่แหกกฏเทพนิยายหลายอย่าง ตั้งแต่มีเจ้าหญิงในเรื่องสองคน มีพล็อตเรื่องหักมุม คือไม่คิดว่าการ์ตูนดิสนี่ย์จะมีหักมุมกะเค้าด้วย และคาแร็กเตอร์ตัวละครตัวนึงในเอนเครดิท เก๋อ่ะ 5555
แม้ประเด็นของหนังจะธรรมดาคือเคยเห็นในหนังหลายเรื่องมาแล้วอย่างมิตรภาพระหว่างพี่น้อง ประเด็นการยอมรับตัวเองแต่หนังทำได้คลาสสิกผสมกับจังหวะเล่าเรื่องมุขตลกสมัยใหม่และภาพ 3D ได้เป๊ะเวอร์ คือ"สนุกน่ารักคลาสสิกและทันสมัยฮะ"
ที่สำคัญนางเอกมีความเป็นเกย์ไอคอนสูงมาก ทั้งความเริ่ดเจิดจรัส เกย์นางไหนชอบตัวละครที่มีความเป็นดีวาห์อย่างแรง ไม่ควรพลาดฮะ www.facebook.com/photo.php?fbid=466106843498110


4. Captain Phillips ฝ่านาทีพิฆาต โจรสลัดระทึกโลก
หนังมีอะไรที่น่าสนใจกว่าหน้าหนังเยอะมากฮะ สนุกกดดันไส้บิด ถ้าหลายคนมองข้ามไปจะเสียดายมาก นี่มันไม่ใช่แค่หนังสร้างจากเรื่องจริงธรรมดาแต่มันระทึกมากฮะ จิกเบาะตั้งแต่ 20 นาทีแรกจนจบเลยทีเดียว ได้ข่าวว่า ทอมแฮงค์อาจได้ถูกเข้าชิงออสก้าปีนี้จากเรื่องนี้คือยอมรับว่าตอนแรกดูไปก็แอบคิดว่าไม่เห็นจะเด่นเลยชิงได้ไง จนกระทั่ง 15 นาทีสุดท้ายของหนังคือแบบพีคมากถึงกะน้ำตาไหลตามลุงทอมเลยทีเดียว ถ้าปีนี้ทอมแฮงค์ ได้ออสก้าตัวที่สามจากเรื่องนี้จะรู้สึกเลยว่า สมควรมากฮะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่แปลก เพราะด้วยความที่หนังมันตื่นเต้นกดดัน คือสถาณการณ์ในหนังมันเด่นกว่าการแสดงของลุงทอม แต่ยอมรับว่าลุงทอมแกเอาอยู่จริงๆ
www.facebook.com/photo.php?fbid=462325840542877


3. Bodyslam นั่งเล่น
ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นติ่งBodyslam อยู่แล้ว คือปกติเวลาดูคอนเสิตร์ เราจะได้บรรยากาศแต่ไม่ได้เห็นอารมณ์ของนักร้องชัดๆ เพราะนั่งไกลมากต้องมองที่จอลิบๆ แต่ Bodyslam นั่งเล่น สามารถทำให้เราเห็น อินเนอร์ของพี่ตูนได้ชัดๆ คือเห็นเลยว่าพี่ตูนร้องเพลงด้วยใจจริงๆ กล้องที่แม้งซูมให้เห็นไปถึงเส้นเอ็นปูดขึ้นตรงขมับพี่ตูนเลยทีเดียว แล้วพอได้ดูแบบโคลสอัพขนาดนี้ มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกอินกะเพลงยิ่งขึ้น บางเพลงยอมรับเลยว่า ถึงกะน้ำตาไหลตามเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ดูหนังแล้วเจอบรรยากาศแบบนี้คือนั่งดู 5นาทีแรกก็แอบฮัมเพลงเบาๆ ตาม ไม่กล้าเสียงดังกลัวคนอื่นว่าไง สักพักจ้า กลุ่มคนนั่งแถวข้างหน้า ลุกขึ้นปรบมือ ร้องตามเว๊ยเฮ๊ย! เท่านั้นแหล่ะ คนในโรงร้อยกว่าคน พร้อมใจกันปรบมือ แหกปากร้องตาม แหกปากกรี๊ดตามเลยจ้า ฟินที่สุด


2. Rush อัดเต็มสปีด
เคยผิดที่แอบคิดว่า "หนังรถแข่งย้อนยุคอะไรไม่รู้คงไม่เหมาะกะเรามั้ง" แต่พอได้ดูเท่านั้นแหล่ะ ....อย่างมันส์จ้า ความพีคที่สุดของเรื่องนี้คือ ฉากแข่งรถนี่ลุ้นมาก ส่วนตัวไม่เคยดูหนังแข่งรถจริงจัง (ไม่นับพวก ตระกูลฟาสนะ) ไม่เคยสนกีฬาประเภทนี้ แต่พอดูแล้ว
คือบับ... เฮ๊ย! ทำไมมันส์มากขนาดนี้! ออกจากโรงมาถึงกะเมื่อยเท้าเลยทีเดียว ตอนอยู่ในโรง มโนว่ากำลังใช้ส้นเท้าแย๊บคันเร่งตามเยอะไปหน่อย 5555 เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในโรงเป็นอย่างยิ่ง เสียงคันเร่งนี่เฟี้ยว แฟ๊วววๆ กระหึ่มจนโฆษณาซาวด์เช็คอายไปเลย เป็นหนังที่มีพลังมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ ต้องการความมันส์ ความบันเทิงอย่างแท้จริง ไม่ต้องรู้เรื่องกีฬารถ ขับรถไม่เป็น หรือเป็นผู้หญิงสวยใสก็สามารถดูแล้วสนุกตามได้
www.facebook.com/photo.php?fbid=436655033109958



1. About Time ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก
เป็นหนังที่ตอบสนองกะจิตใจโดยแท้ คือดูแล้วมีความสุข อบอุ่น นี่เป็นตัวอย่างหนังที่เราชอบไม่จำเป็นต้องเป็นหนังที่ดีเพอร์เฟค แค่ทำให้เรามีความสุขแค่นี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว หลายฉากเรียบง่ายแต่มันอิมแพคมากๆ อย่างฉากแต่งงานแล้วพายุเข้า ฉากพ่อกะลูกตอนท้ายเรื่อง แค่เดินคุยกันมันธรรมดาแต่มีพลัง หนังบ้าอะไรก็ไม่รู้ทำให้เราน้ำตาไหลไป ยิ้มไปได้ในเวลาเดียวกัน เอ๊ะ!หรือชั้นจะบ้าจริงๆวะ 555
สิ่งในหนังบอกกะเราว่า "สุดท้ายแค่เราทำทุกๆวันให้มันมีความสุข เมื่อมันดีที่สุดแล้วต่อให้ผลของมันจะเป็นยังไง ก็ไม่จำเป็นต้องย้อนเวลาทำมันใหม่" คือประเด็นอาจดูโลกสวยไปหน่อยสำหรับบางคน แต่ต้องยอมรับเลยว่าหนังทำให้เราเชื่อและอิน เป็นหนังที่ดูจบออกจากโรง สิ่งแรกที่แอ๊ดแมวทำก็คือ โทรกลับไปบ้านต่างจังหวัดแล้วบอกพ่อกะแม่ว่า "คิดถึงฮะ" (ไม่ได้บอกรักท่านมา 10 กว่าปีแล้ว....คือเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ในขณะที่ยังมีโอกาสและยังทำได้ เพราะโอกาสจะได้ทำจะสั้นจะยาวเท่าไหร่ก็ไม่รู้?) #รู้สึกหล่ออ่ะ ^__^
www.facebook.com/photo.php?fbid=440549302720531



.......................................................

เพราะนี่คือเพจแมวรีวิวหนังที่สลิดดก
และแซบที่สุดในสามโลก แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc
www.facebook.com/cwatchthemovies/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่