สวัสดีค่ะ วันนี้เราเข้ามาแบ่งปันเทคนิคส่วนตัวของเราในการเตรียมตัวสอบ IELTS ค่ะ หลายๆคนอาจจะกำลังเตรียมตัว
เพื่อสอบครั้งแรกให้ผ่าน หลายๆคนอาจจะเตรียมตัวสอบครั้งที่สอง สาม เพื่อให้ได้คะแนนตามที่ต้องการ ส่วนเราเองเพิ่งจะสอบ
ได้คะแนนตามที่ต้องการค่ะ จริงๆเกินเป้านิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะค่ะ แต่สำหรับเราค่อนข้างพอใจแล้วเพราะคะแนนที่เราได้
ทำให้เรามีโอกาสในการสมัครเรียนมหาลัยที่มีหลักสูตรที่เราอยากเรียน หรือขอทุนต่างประเทศได้แล้วค่ะ เราผ่านการสอบทั้งหมด 4 ครั้ง
ทั้งอ่านเอง ทั้งเรียนเสริมบางทักษะ ผ่านความเหนื่อย และความท้อแท้มาหลายครั้งแล้วค่ะ ตอนนี้เราทำได้แล้วค่ะ และอยากแบ่งปัน
ให้เพื่อนๆเผื่อใครอยากจะเอาเทคนิคของเราไปใช้ในการเตรียมตัวสอบค่ะ ไม่ละเอียดมากค่ะ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่าน
คงจะศึกษาสูตรเด็ดเคล็ดลับกันมามากพอสมควรแล้ว เราเลยไม่ขอลงรายละเอียดเยอะนะคะ
เราขอเริ่มต้นเลยล่ะกันนะคะเราขอแบ่งเป็นเรื่องๆเพื่อให้อ่านได้ง่ายๆนะคะ
เรื่องที่ 1 : Materials หนังสือ คู่มือต่างๆ
- หนังสือยอดฮิตที่เราใช้ก็หนีไม่พ้น IELTS Cambridge ESOL เราอ่านเล่ม 7-9 ค่ะ เราแนะนำว่า
ถ้ามีเวลาในการเตรียมตัวน้อยก็อ่านเฉพาะสามเล่มนี้ก็พอไหวค่ะ นอกจากนั้นตำราที่เราเตรียมตัว
ในการสอบเกือบทั้งหมดที่เราใช้เตรียมตัว ก็ได้จากห้องนี้ล่ะค่ะ เราต้องขอขอบคุณคุณมู่มู่ หมูอ้วน มากๆ
ที่แบ่งปันสิ่งดีๆมาให้ และทำให้เราสอบผ่านซะที ทั้งหนังสือและเว็บไซต์ที่คุณมู่มู่ หมูอ้วนแนะนำมาเป็นประโยชน์มากๆค่ะ
- การเตรียมตัวเรื่องคำศัพท์ เราขอแนะนำให้ไปหา Academic Word List (AWL) ในการสอบ IELTS มาท่องและฝึกใช้เยอะๆค่ะะ
เราบอกได้เลยค่ะว่าช่วยได้เยอะมากโดยเฉพาะใน part writing และ speaking และค่อนข้างใช้ได้กับ part reading เช่นกัน
แต่ก็บอกได้เลยว่า ถ้าท่องเฉพาะ AWL ไปสอบโดยที่ไม่รู้คำศัพท์ท์อื่นๆเลย ก็อาจจะทำให้ได้คะแนน part นี้ไม่สูงมากค่ะ
เรื่องที่ 2 : การเตรียมตัวสอบ Reading
part นี้เป็น part ที่เราเกลียดที่สุดค่ะ เพราะเราไม่ชอบอ่านภาษาอังกฤษเลย แทบจะเรียกว่าเราทรมานสุดๆกับการฝึก part นี้ค่ะ
เราลองอ่านเองก็แล้ว เรียนเพิ่มก็แล้ว แต่คะแนนเราก็ได้ไม่ดีมาก สอบครั้งที่ 1-3 เราได้ 4.5 กับ 5.5 เองค่ะ รันทดใจมาก
รอบสุดท้าย เราฮึดสู้ด้วยการอ่านมันทุกวัน วันละ 4 เรื่องฝึกทำจาก IELTS Cambridge ESOL และเล่มของ Barron's
และจับเวลาเหมือนสอบจริง เราฝึกแบบนี้ติดต่อกันสองเดือนก่อนสอบค่ะ ฝึกจนรู้สึกว่าเราทำสร็จก่อนเวลาค่ะ
ส่วนตัวเราในวันสอบเราเน้นข้อสอบ part 1-2 ทำให้เร็วที่สุด และให้ถูกมากที่สุด เพราะเราเชื่อว่าคะแนนจาก 2 part นี้ช่วยเรา
ได้เยอะมากค่ะ ส่วน part ที่ 3 เราทำได้น้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะตกม้าตาย part นี้ค่ะ เราทำ part ที่ 3 เรารู้สึกว่าไม่ยากนะคะ
แต่ปัญหาของเราและอาจจะเป็นปัญหาเดียวกับคนอื่นๆคือ ทำไม่ทันค่ะ part นี้บอกตรงๆค่ะว่าเราเดาเยอะมาก เพราะฉะนั้น
พยายามทำ part ที่ 1-2 ให้ถูกมากที่สุดภายในเวลา 35-40 นาทีค่ะ
เรื่องที่ 3 : การเตรียมตัวสอบ writing
part นี้เป็น part ที่เราเกลียดรองลงมาจาก reading ค่ะ part นี้ทำให้เราร้องไห้มาหลายครั้งแล้วเพราะเราสอบไม่ผ่านสักที
คือหลายๆครั้งที่ผ่านมาเราสอบได้ overall ผ่านตามเกณฑ์ แต่ writing ไม่ผ่าน ได้ 5.5 มันทุกครั้ง ทำให้เราไม่สามารถเอา
คะแนนIELTS มาสมัครเรียนที่ต่างประเทศได้เลย เราทั้งเตรียมตัวฝึกเขียน ดูโจทย์ ติวกับอาจารย์ทั้งไทยและฝรั่ง เราก็พลาด
มาหลายครั้งเพิ่งรอบล่าสุดที่ผ่านซะที คำแนะนำของเรานะคะ สำหรับตัวเราเอง เราคิดว่าไปการเรียนเสริมจะช่วยได้เยอะค่ะ
เพราะอาจารย์จะช่วยให้เรารู้จุดอ่อนของเรา เพราะเราได้ฝึกพอสมควรค่ะ นอกจากนั้นอาจารย์ก็จะช่วยให้เราประหยัดเวลาใน
การเตรียมตัวได้เยอะค่ะ แต่เราก็ต้องฝึกเองด้วยนะคะ การเรียนไม่ได้ช่วยได้ทั้งหมดค่ะ เราแนะนำว่าฝึกใช้ศัพท์หรูหรา
ไม่ซ้ำซาก ชอบคำไหนก็ท่องไว้เยอะๆ ว่าคำนี้มีคำเหมือนกี่คำ ท่องเข้าไปค่ะ ฝึกใช้ Clause ต่างๆให้คล่อง where who which
when ใช้ให้ถูก คำเชื่อมเก๋ๆ ใช้ให้แม่น however, therefore , and, or, but, for,either or, In addition, not only...
but also, Adjective Adverb ฯลฯ ตอนฝึกเขียนจับเวลาจริง เขียนให้เสร็จทันเวลา
สำหรับวันสอบจริง ให้ทำ part ที่ 2 ก่อน เพราะมีคะแนนเยอะกว่า ใช้เวลาในการจัดลำดับความคิดให้ชัดเจน
ตอบคำถามทุกข้อที่โจทย์ถามเช่น ถ้าเขาถามว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร และมีผลดี ผลเสียอย่างไร
ก็ต้องตอบให้ครอบคลุมทุกคำถามค่ะ อย่ามุ่งที่จะตอบผลดี ผลเสียอย่างเดียว ตอนเขียน เขียนไปคิดไปด้วยค่ะ
ว่ามันสอดคล้อง สัมพันธ์กันมั้ย ไม่ใช่ว่าคิดอะไรออกก็เขียนๆไปให้เสร็จ โดยที่ไม่ได้ดูว่ามันสอดคล้องกันมั้ย
เพราะถึงแม้ว่าเราเขียนครบ 250คำ ทันเวลาแต่ถ้าไม่ตอบคำถามโจทย์ ไม่สอดคล้องกันก็มีผลให้ได้คะแนนน้อยค่ะ
ส่วน part ที่ 1 ดูแค่จุดสำคัญๆของกราฟ หรือตารางที่ให้มาค่ะ ไม่ต้องเอามาเขียนทั้งหมด เพราะจะไม่ทันเวลา
และถ้าไม่ใช่จุดเด่น ของกราฟหรือตาราง ต่อให้เราเขียนทันเวลา เขียนได้ละเอียด ก็ไม่ได้คะแนนเยอะค่ะ
ตอนเราสอบ เราไปให้เวลากับ part ที่ 2 เยอะ เหลือเวลาสำหรับ part 1 น้อยมาก เราเลยไม่มีเวลามานั่งดูรายละเอียดตัวเลข
เลยดึงเอามาเฉพาะตัวเลขที่เด่นๆเอามาตอบค่ะ
คำแนะนำสุดท้ายสำหรับ part writing เราคิดว่าที่เราสอบรอบนี้ผ่านเพราะเรา ใช้ดินสอและยางลบที่เราใช้ฝึกทุกวัน
ไปใช้ในวันสอบจริงค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งนะคะ เพราะชินกับการใช้ดินสอกด และยางลบเป็นแท่งๆกดได้
เวลาเราเขียนทำให้เราเขียนได้ ลื่นไหลมากค่ะ แต่การทำข้อสอบ reading กับ listening เราก็ใช้ดินสอของศูนย์สอบนะคะ
แค่ writing เท่านั้นเองค่ะที่เราใช้ดินสอที่เราเอาไปเอง
เราขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวแวะมาต่อส่วนของ listening กับ speaking ให้จบค่ะ
ปล.กระทู้ใจดี จากคุณมู่มู่ หมูอ้วนที่เราพูดถึงข้างต้นค่ะ
http://ppantip.com/topic/30643169 
แบ่งปันเทคนิคเตรียมสอบ IELTS
เพื่อสอบครั้งแรกให้ผ่าน หลายๆคนอาจจะเตรียมตัวสอบครั้งที่สอง สาม เพื่อให้ได้คะแนนตามที่ต้องการ ส่วนเราเองเพิ่งจะสอบ
ได้คะแนนตามที่ต้องการค่ะ จริงๆเกินเป้านิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะค่ะ แต่สำหรับเราค่อนข้างพอใจแล้วเพราะคะแนนที่เราได้
ทำให้เรามีโอกาสในการสมัครเรียนมหาลัยที่มีหลักสูตรที่เราอยากเรียน หรือขอทุนต่างประเทศได้แล้วค่ะ เราผ่านการสอบทั้งหมด 4 ครั้ง
ทั้งอ่านเอง ทั้งเรียนเสริมบางทักษะ ผ่านความเหนื่อย และความท้อแท้มาหลายครั้งแล้วค่ะ ตอนนี้เราทำได้แล้วค่ะ และอยากแบ่งปัน
ให้เพื่อนๆเผื่อใครอยากจะเอาเทคนิคของเราไปใช้ในการเตรียมตัวสอบค่ะ ไม่ละเอียดมากค่ะ เพราะเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่าน
คงจะศึกษาสูตรเด็ดเคล็ดลับกันมามากพอสมควรแล้ว เราเลยไม่ขอลงรายละเอียดเยอะนะคะ
เราขอเริ่มต้นเลยล่ะกันนะคะเราขอแบ่งเป็นเรื่องๆเพื่อให้อ่านได้ง่ายๆนะคะ
เรื่องที่ 1 : Materials หนังสือ คู่มือต่างๆ
- หนังสือยอดฮิตที่เราใช้ก็หนีไม่พ้น IELTS Cambridge ESOL เราอ่านเล่ม 7-9 ค่ะ เราแนะนำว่า
ถ้ามีเวลาในการเตรียมตัวน้อยก็อ่านเฉพาะสามเล่มนี้ก็พอไหวค่ะ นอกจากนั้นตำราที่เราเตรียมตัว
ในการสอบเกือบทั้งหมดที่เราใช้เตรียมตัว ก็ได้จากห้องนี้ล่ะค่ะ เราต้องขอขอบคุณคุณมู่มู่ หมูอ้วน มากๆ
ที่แบ่งปันสิ่งดีๆมาให้ และทำให้เราสอบผ่านซะที ทั้งหนังสือและเว็บไซต์ที่คุณมู่มู่ หมูอ้วนแนะนำมาเป็นประโยชน์มากๆค่ะ
- การเตรียมตัวเรื่องคำศัพท์ เราขอแนะนำให้ไปหา Academic Word List (AWL) ในการสอบ IELTS มาท่องและฝึกใช้เยอะๆค่ะะ
เราบอกได้เลยค่ะว่าช่วยได้เยอะมากโดยเฉพาะใน part writing และ speaking และค่อนข้างใช้ได้กับ part reading เช่นกัน
แต่ก็บอกได้เลยว่า ถ้าท่องเฉพาะ AWL ไปสอบโดยที่ไม่รู้คำศัพท์ท์อื่นๆเลย ก็อาจจะทำให้ได้คะแนน part นี้ไม่สูงมากค่ะ
เรื่องที่ 2 : การเตรียมตัวสอบ Reading
part นี้เป็น part ที่เราเกลียดที่สุดค่ะ เพราะเราไม่ชอบอ่านภาษาอังกฤษเลย แทบจะเรียกว่าเราทรมานสุดๆกับการฝึก part นี้ค่ะ
เราลองอ่านเองก็แล้ว เรียนเพิ่มก็แล้ว แต่คะแนนเราก็ได้ไม่ดีมาก สอบครั้งที่ 1-3 เราได้ 4.5 กับ 5.5 เองค่ะ รันทดใจมาก
รอบสุดท้าย เราฮึดสู้ด้วยการอ่านมันทุกวัน วันละ 4 เรื่องฝึกทำจาก IELTS Cambridge ESOL และเล่มของ Barron's
และจับเวลาเหมือนสอบจริง เราฝึกแบบนี้ติดต่อกันสองเดือนก่อนสอบค่ะ ฝึกจนรู้สึกว่าเราทำสร็จก่อนเวลาค่ะ
ส่วนตัวเราในวันสอบเราเน้นข้อสอบ part 1-2 ทำให้เร็วที่สุด และให้ถูกมากที่สุด เพราะเราเชื่อว่าคะแนนจาก 2 part นี้ช่วยเรา
ได้เยอะมากค่ะ ส่วน part ที่ 3 เราทำได้น้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะตกม้าตาย part นี้ค่ะ เราทำ part ที่ 3 เรารู้สึกว่าไม่ยากนะคะ
แต่ปัญหาของเราและอาจจะเป็นปัญหาเดียวกับคนอื่นๆคือ ทำไม่ทันค่ะ part นี้บอกตรงๆค่ะว่าเราเดาเยอะมาก เพราะฉะนั้น
พยายามทำ part ที่ 1-2 ให้ถูกมากที่สุดภายในเวลา 35-40 นาทีค่ะ
เรื่องที่ 3 : การเตรียมตัวสอบ writing
part นี้เป็น part ที่เราเกลียดรองลงมาจาก reading ค่ะ part นี้ทำให้เราร้องไห้มาหลายครั้งแล้วเพราะเราสอบไม่ผ่านสักที
คือหลายๆครั้งที่ผ่านมาเราสอบได้ overall ผ่านตามเกณฑ์ แต่ writing ไม่ผ่าน ได้ 5.5 มันทุกครั้ง ทำให้เราไม่สามารถเอา
คะแนนIELTS มาสมัครเรียนที่ต่างประเทศได้เลย เราทั้งเตรียมตัวฝึกเขียน ดูโจทย์ ติวกับอาจารย์ทั้งไทยและฝรั่ง เราก็พลาด
มาหลายครั้งเพิ่งรอบล่าสุดที่ผ่านซะที คำแนะนำของเรานะคะ สำหรับตัวเราเอง เราคิดว่าไปการเรียนเสริมจะช่วยได้เยอะค่ะ
เพราะอาจารย์จะช่วยให้เรารู้จุดอ่อนของเรา เพราะเราได้ฝึกพอสมควรค่ะ นอกจากนั้นอาจารย์ก็จะช่วยให้เราประหยัดเวลาใน
การเตรียมตัวได้เยอะค่ะ แต่เราก็ต้องฝึกเองด้วยนะคะ การเรียนไม่ได้ช่วยได้ทั้งหมดค่ะ เราแนะนำว่าฝึกใช้ศัพท์หรูหรา
ไม่ซ้ำซาก ชอบคำไหนก็ท่องไว้เยอะๆ ว่าคำนี้มีคำเหมือนกี่คำ ท่องเข้าไปค่ะ ฝึกใช้ Clause ต่างๆให้คล่อง where who which
when ใช้ให้ถูก คำเชื่อมเก๋ๆ ใช้ให้แม่น however, therefore , and, or, but, for,either or, In addition, not only...
but also, Adjective Adverb ฯลฯ ตอนฝึกเขียนจับเวลาจริง เขียนให้เสร็จทันเวลา
สำหรับวันสอบจริง ให้ทำ part ที่ 2 ก่อน เพราะมีคะแนนเยอะกว่า ใช้เวลาในการจัดลำดับความคิดให้ชัดเจน
ตอบคำถามทุกข้อที่โจทย์ถามเช่น ถ้าเขาถามว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร และมีผลดี ผลเสียอย่างไร
ก็ต้องตอบให้ครอบคลุมทุกคำถามค่ะ อย่ามุ่งที่จะตอบผลดี ผลเสียอย่างเดียว ตอนเขียน เขียนไปคิดไปด้วยค่ะ
ว่ามันสอดคล้อง สัมพันธ์กันมั้ย ไม่ใช่ว่าคิดอะไรออกก็เขียนๆไปให้เสร็จ โดยที่ไม่ได้ดูว่ามันสอดคล้องกันมั้ย
เพราะถึงแม้ว่าเราเขียนครบ 250คำ ทันเวลาแต่ถ้าไม่ตอบคำถามโจทย์ ไม่สอดคล้องกันก็มีผลให้ได้คะแนนน้อยค่ะ
ส่วน part ที่ 1 ดูแค่จุดสำคัญๆของกราฟ หรือตารางที่ให้มาค่ะ ไม่ต้องเอามาเขียนทั้งหมด เพราะจะไม่ทันเวลา
และถ้าไม่ใช่จุดเด่น ของกราฟหรือตาราง ต่อให้เราเขียนทันเวลา เขียนได้ละเอียด ก็ไม่ได้คะแนนเยอะค่ะ
ตอนเราสอบ เราไปให้เวลากับ part ที่ 2 เยอะ เหลือเวลาสำหรับ part 1 น้อยมาก เราเลยไม่มีเวลามานั่งดูรายละเอียดตัวเลข
เลยดึงเอามาเฉพาะตัวเลขที่เด่นๆเอามาตอบค่ะ
คำแนะนำสุดท้ายสำหรับ part writing เราคิดว่าที่เราสอบรอบนี้ผ่านเพราะเรา ใช้ดินสอและยางลบที่เราใช้ฝึกทุกวัน
ไปใช้ในวันสอบจริงค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งนะคะ เพราะชินกับการใช้ดินสอกด และยางลบเป็นแท่งๆกดได้
เวลาเราเขียนทำให้เราเขียนได้ ลื่นไหลมากค่ะ แต่การทำข้อสอบ reading กับ listening เราก็ใช้ดินสอของศูนย์สอบนะคะ
แค่ writing เท่านั้นเองค่ะที่เราใช้ดินสอที่เราเอาไปเอง
เราขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวแวะมาต่อส่วนของ listening กับ speaking ให้จบค่ะ
ปล.กระทู้ใจดี จากคุณมู่มู่ หมูอ้วนที่เราพูดถึงข้างต้นค่ะ http://ppantip.com/topic/30643169