ช่วงไม่นานมานี้เห็นกระทู้ 2 กระทู้ที่ถามถึงสาเหตุว่า “ทำไมแฟนบอลห้องศุภฯถึงชอบ รัก หรือตามเชียร์ทีมโปรด...มันเริ่มต้นมาจากอะไรกันแน่”
พอเข้าไปตามอ่านแล้วก็พบว่าแฟนบอลในห้องนี้ มีความเหนียวแน่นหนึบในการเชียร์อยู่หลายระดับ บางคนเชียร์มา 10 ปี บ้าง 20 ปี และบ้าง 30 ปี(มีมากกว่านี้มั้ยคะ? / ยอมนะ) และบ้างก็เป็นมือใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลของใจและที่มาของความภักดีต่อสโมสรฟุตบอลสุดเลิฟแตกต่างกันไป บางคนฮา บางคนน่ารัก บางคนเสียตังค์ ลองเข้าไปอ่านดูได้ที่นี่
http://ppantip.com/topic/31451554
http://ppantip.com/topic/31434093
และยิ่งพอได้อ่านกระทู้ “The Class Of 92 : มากกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ..” ของคุณPOPROCK แล้วยิ่งอิน ก็เลยยิ่งนึกถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมามาก มากๆ ๆ ... ช่วงเวลาที่เราเริ่มต้นเชียร์ทีมปีศาจแดง
(
http://ppantip.com/topic/31443059
// คือ หนังเพิ่งเข้าฉายที่อังกฤษไปไม่นาน ส่วนไทยยังไม่ทราบชะตากรรมว่าจะเข้าโรงไหม แต่ได้ข่าวว่ามี DVD ออกมาแล้ว อยากได้มากๆ T_T; )
วันนี้ นอกจากจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว ยังเป็นวันเกิดป๋าครบ 72 ขวบ (นี่ตั้งกระทู้เอาใจป๋านะ Happy Birthday และ Happy New Year ค่ะ)
ปี 2013 นี่เป็นปีที่พิเศษ เพราะเป็นปีที่ป๋าช็อคโลกด้วยการวางมือจากแมนยูจริงๆ (หลังจากที่เปรยๆว่าจะเลิกมาหลายทีให้เราตายจัย) แต่ป๋ายังแข็งแรงและยังมาเชียร์แมนยูที่ขอบสนามเสมอ
เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงของทีมที่เคยมีป๋าอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมาตลอด 26 ปี
เป็นปีที่แฟนๆได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่จากน้ามอยส์ ผู้กล้าท้าผีจากเมอร์ซีย์ไซด์ ที่อาจหาญรับคำท้าจากป๋าให้มาเฝ้าโรงละครแห่งความฝัน
น้าจะไหวไหมนะ ? เราจะไปไหวไหมน้า ? มีเรื่องราวให้นอนไม่หลับกันทุกคืนวันเสาร์...
และถึงน้าจะไหวไม่ไหวยังไง น้ายังมีกลุ่มเพื่อมอยส์เป็นกำลังใจให้เสมอ ทำให้ปีนี้เหมือนมีแฟนผีเพิ่มมาจากทุกสารทิศยังไงไม่รู้ ดีใจจัง...(หรา)
จึงเป็นอีกปีหนึ่งที่แฟนผีอย่างเราจะไม่ลืม.
มาเข้าเรื่อง จากเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมดที่เล่าไปนั้น รู้สึกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยอยากลองตั้งกระทู้กับเขาดูบ้างในตอนที่กำลังอินกับความสำเร็จอันสวยงามของอดีต เลยอยากเขียนถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้เรามีแฟนเป็น “ผี”
เดอะ คิง คือ ใคร ?
“ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณหลงใหลในตราปิศาจแดงด้วยแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้จัก เอริค คันโตน่า ผู้เป็นขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุคลิกและฝีเท้าของคันโตน่า คือนิยามของคำว่า "ศิลปินลูกหนัง" อย่างแท้จริง เขาอาจไม่ใช่กองหน้าจอมถล่มประตู แต่ลีลาการเล่นและจินตนาการบนพื้นหญ้าของจอมอหังการชาวฝรั่งเศสผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์หรือกองแช่งปิศาจแดง คุณก็ต้องเห็นด้วยกับฉายา เอริค "เดอะคิง" คันโตนา ที่เร้ด อาร์มี่ มอบให้เขา
คันโตน่าเริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลกับสโมสร โอลิมปิค มาร์กเซย ก่อนที่จะข้ามมาสร้างชื่อที่เกาะอังกฤษกับสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่ทำให้เขาได้สัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะย้ายมาเป็นสมาชิกปิศาจแดง ซึ่งเป็นเหมือนโชคชะตาที่ฟ้าลิขิตเอาไว้ เมื่อ โฮเวิร์ด วิลกินสัน กุนซือทีมยูงทองในสมัยนั้น โทรหาเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อขอซื้อตัว เดนนิส เออร์วิน แบ็คตัวเก่งของทีมปิศาจแดง แต่บทสรุปของการเจรจาครั้งนั้นกลายเป็นบรมกุนซือปิศาจแดง ขอซื้อตัวเอริค คันโตนาแทน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คันโตน่ากลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสู่ความสำเร็จที่ทีมตามหามานาน เขามีส่วนสำคัญช่วยให้ปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จทันทีที่ย้าย มาในฤดูกาล 1992-93 ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 26 ปีอีกด้วย และในฤดูกาลถัดมา คือ 1993-94 เขายังช่วยให้ทีมเป็นดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ โดย คันโตน่า ทำคนเดียวสองประตูในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ เชลซี 4-0
อย่างไรก็ตาม ชีวิตลูกหนังของคันโตน่าไม่ได้มีแค่ด้านสว่างเท่านั้น ในฤดูกาล 1994-95 เขาโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษแบนยาวถึง 8 เดือน จากกรณีกระโดดถีบ แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ที่ยอดอก จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาเกือบตัดสินใจแขวนสตั๊ด แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเกลี้ยกล่อมจนก็องโต้ล้มเลิกความคิดดังกล่าว เขากลับมาประเดิมสนามหลังจากชดใช้โทษแบน ในวันที่ 1 ตุลาคม 1995 เพื่อเผชิญหน้ากับคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเป็นคนช่วยยิงจุดโทษให้ทีมตีเสมอได้ 2-2 ก่อนที่ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เขาจะทำแสบต่อลิเวอร์พูลอีกครั้งด้วยการทำประตูชัยด้วยลูกวอลเลย์สุดสวยช่วย ให้ทีมปีศาจแดงคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ 2 ครั้งเป็นทีมแรกของเกาะอังกฤษ
เอริค คันโตน่าตัดสินใจหันหลังให้วงการลูกหนังด้วยวัยเพียงแค่ 30 ปีเท่านั้น โดยลงสนามให้ทีมปิศาจแดงทั้งสิ้น 185 นัด ทำได้ 82 ประตู ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่ใช่จำนวนมากมายนัก แต่มันกลับแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นที่รักของแฟนบอลมากเพียงใด ทุกครั้งที่คันโตน่ากลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพลพรรคปิศาจแดงเสมอ เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า เอริค คันโตน่า จะเป็น "เดอะ คิง" ของปิศาจแดงไปตลอดกาล ”
สถิติการลงสนามในเสื้อแมนยู ลงเล่น 185 นัด ประตู 82 ประตู ช่วยป๋าและแมนยูคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี(ฤดูกาล1992-93) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นเจ้าพรีเมียร์ลีกของแมนยูอีกด้วย
เขาคว้าแชมป์อะไรกับแมนยูบ้าง?
พรีเมียร์ ลีก 1992-1993, 1993-1994, 1995-1996, 1996-1997
เอฟเอ คัพ 1994, 1996
แชริตี้ ชิลด์ 1993, 1994, 1996
ที่มา :
http://www.goal.com/th/slideshow/1321/4/title/goalcom-the-legends
เดอะ คิง แอนด์ ไอ
พอเข้าไปตามอ่านแล้วก็พบว่าแฟนบอลในห้องนี้ มีความเหนียวแน่นหนึบในการเชียร์อยู่หลายระดับ บางคนเชียร์มา 10 ปี บ้าง 20 ปี และบ้าง 30 ปี(มีมากกว่านี้มั้ยคะ? / ยอมนะ) และบ้างก็เป็นมือใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลของใจและที่มาของความภักดีต่อสโมสรฟุตบอลสุดเลิฟแตกต่างกันไป บางคนฮา บางคนน่ารัก บางคนเสียตังค์ ลองเข้าไปอ่านดูได้ที่นี่
http://ppantip.com/topic/31451554
http://ppantip.com/topic/31434093
และยิ่งพอได้อ่านกระทู้ “The Class Of 92 : มากกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ..” ของคุณPOPROCK แล้วยิ่งอิน ก็เลยยิ่งนึกถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมามาก มากๆ ๆ ... ช่วงเวลาที่เราเริ่มต้นเชียร์ทีมปีศาจแดง
( http://ppantip.com/topic/31443059
// คือ หนังเพิ่งเข้าฉายที่อังกฤษไปไม่นาน ส่วนไทยยังไม่ทราบชะตากรรมว่าจะเข้าโรงไหม แต่ได้ข่าวว่ามี DVD ออกมาแล้ว อยากได้มากๆ T_T; )
วันนี้ นอกจากจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว ยังเป็นวันเกิดป๋าครบ 72 ขวบ (นี่ตั้งกระทู้เอาใจป๋านะ Happy Birthday และ Happy New Year ค่ะ)
ปี 2013 นี่เป็นปีที่พิเศษ เพราะเป็นปีที่ป๋าช็อคโลกด้วยการวางมือจากแมนยูจริงๆ (หลังจากที่เปรยๆว่าจะเลิกมาหลายทีให้เราตายจัย) แต่ป๋ายังแข็งแรงและยังมาเชียร์แมนยูที่ขอบสนามเสมอ
เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงของทีมที่เคยมีป๋าอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมาตลอด 26 ปี
เป็นปีที่แฟนๆได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่จากน้ามอยส์ ผู้กล้าท้าผีจากเมอร์ซีย์ไซด์ ที่อาจหาญรับคำท้าจากป๋าให้มาเฝ้าโรงละครแห่งความฝัน
น้าจะไหวไหมนะ ? เราจะไปไหวไหมน้า ? มีเรื่องราวให้นอนไม่หลับกันทุกคืนวันเสาร์...
และถึงน้าจะไหวไม่ไหวยังไง น้ายังมีกลุ่มเพื่อมอยส์เป็นกำลังใจให้เสมอ ทำให้ปีนี้เหมือนมีแฟนผีเพิ่มมาจากทุกสารทิศยังไงไม่รู้ ดีใจจัง...(หรา)
จึงเป็นอีกปีหนึ่งที่แฟนผีอย่างเราจะไม่ลืม.
มาเข้าเรื่อง จากเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมดที่เล่าไปนั้น รู้สึกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยอยากลองตั้งกระทู้กับเขาดูบ้างในตอนที่กำลังอินกับความสำเร็จอันสวยงามของอดีต เลยอยากเขียนถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้เรามีแฟนเป็น “ผี”
เดอะ คิง คือ ใคร ?
“ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณหลงใหลในตราปิศาจแดงด้วยแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้จัก เอริค คันโตน่า ผู้เป็นขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุคลิกและฝีเท้าของคันโตน่า คือนิยามของคำว่า "ศิลปินลูกหนัง" อย่างแท้จริง เขาอาจไม่ใช่กองหน้าจอมถล่มประตู แต่ลีลาการเล่นและจินตนาการบนพื้นหญ้าของจอมอหังการชาวฝรั่งเศสผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์หรือกองแช่งปิศาจแดง คุณก็ต้องเห็นด้วยกับฉายา เอริค "เดอะคิง" คันโตนา ที่เร้ด อาร์มี่ มอบให้เขา
คันโตน่าเริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลกับสโมสร โอลิมปิค มาร์กเซย ก่อนที่จะข้ามมาสร้างชื่อที่เกาะอังกฤษกับสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่ทำให้เขาได้สัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะย้ายมาเป็นสมาชิกปิศาจแดง ซึ่งเป็นเหมือนโชคชะตาที่ฟ้าลิขิตเอาไว้ เมื่อ โฮเวิร์ด วิลกินสัน กุนซือทีมยูงทองในสมัยนั้น โทรหาเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อขอซื้อตัว เดนนิส เออร์วิน แบ็คตัวเก่งของทีมปิศาจแดง แต่บทสรุปของการเจรจาครั้งนั้นกลายเป็นบรมกุนซือปิศาจแดง ขอซื้อตัวเอริค คันโตนาแทน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คันโตน่ากลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสู่ความสำเร็จที่ทีมตามหามานาน เขามีส่วนสำคัญช่วยให้ปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จทันทีที่ย้าย มาในฤดูกาล 1992-93 ซึ่งนับเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 26 ปีอีกด้วย และในฤดูกาลถัดมา คือ 1993-94 เขายังช่วยให้ทีมเป็นดับเบิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ โดย คันโตน่า ทำคนเดียวสองประตูในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่เอาชนะ เชลซี 4-0
อย่างไรก็ตาม ชีวิตลูกหนังของคันโตน่าไม่ได้มีแค่ด้านสว่างเท่านั้น ในฤดูกาล 1994-95 เขาโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษแบนยาวถึง 8 เดือน จากกรณีกระโดดถีบ แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ที่ยอดอก จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาเกือบตัดสินใจแขวนสตั๊ด แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเกลี้ยกล่อมจนก็องโต้ล้มเลิกความคิดดังกล่าว เขากลับมาประเดิมสนามหลังจากชดใช้โทษแบน ในวันที่ 1 ตุลาคม 1995 เพื่อเผชิญหน้ากับคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเป็นคนช่วยยิงจุดโทษให้ทีมตีเสมอได้ 2-2 ก่อนที่ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เขาจะทำแสบต่อลิเวอร์พูลอีกครั้งด้วยการทำประตูชัยด้วยลูกวอลเลย์สุดสวยช่วย ให้ทีมปีศาจแดงคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ 2 ครั้งเป็นทีมแรกของเกาะอังกฤษ
เอริค คันโตน่าตัดสินใจหันหลังให้วงการลูกหนังด้วยวัยเพียงแค่ 30 ปีเท่านั้น โดยลงสนามให้ทีมปิศาจแดงทั้งสิ้น 185 นัด ทำได้ 82 ประตู ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่ใช่จำนวนมากมายนัก แต่มันกลับแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นที่รักของแฟนบอลมากเพียงใด ทุกครั้งที่คันโตน่ากลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพลพรรคปิศาจแดงเสมอ เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า เอริค คันโตน่า จะเป็น "เดอะ คิง" ของปิศาจแดงไปตลอดกาล ”
สถิติการลงสนามในเสื้อแมนยู ลงเล่น 185 นัด ประตู 82 ประตู ช่วยป๋าและแมนยูคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี(ฤดูกาล1992-93) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นเจ้าพรีเมียร์ลีกของแมนยูอีกด้วย
เขาคว้าแชมป์อะไรกับแมนยูบ้าง?
พรีเมียร์ ลีก 1992-1993, 1993-1994, 1995-1996, 1996-1997
เอฟเอ คัพ 1994, 1996
แชริตี้ ชิลด์ 1993, 1994, 1996
ที่มา :
http://www.goal.com/th/slideshow/1321/4/title/goalcom-the-legends