[CR] Review : ที่สุดของเจ้ Top 5 items of 2013


สวัสดีช่วงสิ้นปีค่ะทุกคน วันนี้จอสจะมารีวิวสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ใช้มาตลอดปี 2103
ต้องบอกก่อนว่าในช่วงปีที่ผ่านมา จอสได้ลองไอเท็มๆใหม่ๆเยอะพอสมควร
บางชิ้นใช้แล้วยังไม่ถูกใจก็หาใหม่ไปเรื่อยๆ บางชิ้นใช้แล้วถูกใจก็มีเยอะ
แต่จะมีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่ใช้แล้วรู้สึกว่า"ใช่" วันนี้เลยจะเอามารีวิวให้ได้ดูกัน
มาดูกันเลยดีกว่าว่า 5 ชิ้นเด็ดที่จอสเลือกมานั้นมีอะไรบ้าง

เริ่มกันที่ชิ้นแรกเลยค่ะ เป็นกันแดดจาก Biore รุ่น aqua rich spf50+ pa+++
ต้องบอกเลยว่าแดดบ้านเรานั้นมันแรงได้ใจ ไม่ว่าจะฤดูไหนๆก็ตาม
เพราะฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงสำคัญมากๆ
Biore aqua rich รุ่นนี้ มีคุณสมบัติที่ปกป้องแสงแดดได้ดีตรงตามสเป็กเลยล่ะ
และที่สำคัญคือชอบเนื้อกันแดดที่เป็น essence แบบน้ำๆ ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มัน
เพราะกันแดดส่วนมากที่เนื้อเข้มข้นเวลาทาแล้วตามด้วยรองพื้นมันจะชอบดันรองพื้นออกมา
ยิ่งถ้าเจอแดดร้อนๆแล้วมันจะทำให้การแต่งหน้าไม่สมูธ ดูเป็นคราบ ดูหน้าพังอย่างแรง!
กันแดดตัวนี้จึงเป็นอะไรที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นบ้านเรามากๆค่ะ 10/10

ตัวต่อมาเป็นงานผิวค่ะ ผิวสวยใสเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่หนาไม่โบ๊ะ ยกให้เค้าเลยค่ะ
Chanel Vita Lumiere De Compact Makeup (จริงๆชื่อยาวกว่านี้ แต่แอบย่อ)
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เนื้อเนียนละเอียดบางเบาและผู้ดีมากค่ะ
เหมาะกับการทัชอัพระหว่างวันเป็นที่สุด เนื่องจากเนื้อแป้งละเอียดจึงไม่ทำให้เป็นคราบ
แนะนำว่าให้ซับมันก่อน แล้วจึงใช้แปรงที่แถมมาปัดเบาๆทั่วใบหน้า
คุมมันอยู่ระดับกลางๆ ค่อนข้างแมทแต่ไม่มาก หลังลงเสร็จพอผ่านไปสักพักรอให้มันเซ็ทตัวกับผิว
กลับมาส่องกระจกอีกครั้ง โอ้จอร์จ!!! นี่แหละคือสิ่งที่ชั้นตามหามาทั้งชีวิต

คือมันเป็นงานผิวที่สวยเนียนเป็นธรรมชาติในแบบที่ชั้นต้องการ
พี่ๆในที่ทำงานชอบทักบ่อยๆว่าทำไมหนังหน้าน้องจอสดูดีจัง ผิวเนียนไม่มันทั้งวันเลย
ไม่รู้อะไรซะแล้วว่าเรามีของเด็ด ฮ่าๆๆๆ แต่ก็แนะนำไปหลายคนเหมือนกัน
บอกเลยว่าไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาแพงๆ
แต่! ขอเตือนไว้ก่อนว่าแป้งตัวนี้ไม่เหมาะกับการลงเดี่ยวๆในตอนเช้า
ถ้าคุณคิดว่าตื่นเช้ามาทาบำรุงกันแดดแล้วตามด้วยแป้งตลับนี้ล่ะก็ หยุดความคิดนั้นซะ
เพราะด้วยความที่เนื้อมันบางเบา จึงไม่ช่วยในเรื่องการปกปิดใดๆทั้งสิ้น
เว้นแต่คุณจะมีผิวที่เนียนใสเหมือนกระเบื้องอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเก็บไว้พกเติมระหว่างวันเถิด
ปล. ที่ชอบอีกอย่างคือแพ็กเกจหรูหรา กระจกก็ใหญ่เต็มจอ
แปรงและพัพที่ให้มาก็คุณภาพดีสามรถใช้ได้จริง ลงตัวทุกอย่าง เฟอร์เฟคค่ะ 10/10

ชิ้นต่อไปเป็นพาเล็ตเขียนคิ้วค่ะ มันคือ Gino McCray brown and liner kit
ในช่วงปีที่ผ่านมางานคิ้วก็มาแรงเหมือนกัน และพาเล็ตนี้จอสก็ใช้แบบข้ามปีเลยทีเดียว
คือมันเป็นที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นที่ใช้ดีตั้งแต่ครั้งแรก จนทุกวันนี้ก็ไม่เคยคิดนอกใจ
ถ้าให้เปรียบพาเล็ตคิ้วตัวนี้เหมือนผู้ชายจอสว่าเค้าคือผู้ชายที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย
คบกันวันแรกเป็นยังไง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น (มโนค่ะ)

ลองเปิดออกมาดูข้างในสิ เริ่มจากกระจกนะ คือเวลาเขียนคิ้วสามารถใช้ส่องได้จริงๆ
ส่วนตัวสีจอสใช้ช่องกลางลงเกือบทั่วคิ้ว แล้วลงสีอ่อนสุดตรงหัวคิ้ว สีติดทนทั้งวัน
ช่องขวาสุดสามรถใช้เป็นไลเนอร์ได้ อยากได้เส้นคมก็จุ่มน้ำ อยากได้ฟุ้งๆก็ใช้แปรงแตะได้เลย
ส่วนแปรงที่ให้มาก็ใช้ได้จริง ขนแปรงไม่นิ่มเกินไป ทำให้จิกสีออกมาได้ง่าย
ส่วนที่เป็นหัวตัดใช้ลงเกือบทั่วคิ้วและส่วนหัวมนใช้ลงหัวคิ้ว
คือมันโอเคมากๆ ฟังชั่นครบครันและใช้ได้จริงทุกอย่าง 10/10

และตัวต่อไป ท๊าดาาาาา! ข้าน้อยขอคารวะ! Urban Decay Naked 2
คือเมื่อก่อนเป็นคนติด Naked1 มากๆ ใช้มันทุกงาน ใช้จนจะพังอยู่ละ
จนในที่สุดทาง UD ออกรุ่น 2 มา  เลยตัดสินใจซื้อมาเก็บไว้ เพราะชอบตลับ (บ้ารึปล่าว)

ซึ่งในช่วงแรกๆที่ได้มานั้นเราไม่ค่อยเห่อเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าสีของ Naked1 สวยกว่า
คิดว่ายังไงๆก็สู้ 1 ไม่ได้ แต่พอหลังๆมาจอสจะเก็บ naked1 ไว้ในกล่องเครื่องสำอางตลอด
เพราะเอาไว้ใช้แต่งหน้าให้ลูกค้า เลยขี้เกียจหยิบเข้าหยิบออกบ่อยๆ
เป็นเหตุให้จำใจต้องใช้ตัวนี้ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเราจึงตกหลุมรักมันเข้าแบบไม่รู้ตัว
หลังๆมาสังเกตุดูว่าเวลาแต่งหน้าลุคไหนๆก็จะหยิบมาใช้ตลอด
บางสีที่คิดว่าไม่สวยแต่พอลองทาดูแล้วกลับสวย เช่นสี busted (เกือบขวาสุด)
เอามาทาขอบตาล่างแล้วสวยอย่าบอกใครเชียวล่ะ
สี suspect เป็นโทนสีกลางๆที่ตอนแรกไม่รู้จะเอามาทาตรงไหน
แต่ลองเอามาคัดเบ้าแล้วสวยลืม เหมาะกับ everyday look ทีเดียวเชียว
สรุป Naked2 จึงตกมาเป็น my favorite แบบไม่ทันตั้งตัว
นี่เห็นว่ามีรุ่น 3 ออกมาอีกแล้วด้วย เตรียมปาดเหงื่อรอเลยก็แล้วกัน จุดนี้
อายแชโดว์ของ UD ไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว 10/10

และตัวสุดท้าย ท้ายที่สุด ได้แก่ แปรง Buffing brush จาก Real Technique นั่นเองค่า
แปรงตัวนี้มากับผองเพื่อนในเซต core collection
โดยส่วนตัวแล้วเราชอบแปรงทุกชิ้นของยี่ห้อนี้เลย ขนแปรงของมันสามารถใช้งานได้ดีมากๆ
และที่สำคัญราคาไม่แพงมาก เหมาะแก่การลงทุนจริงๆค่ะ
พูดถึงแปรง buffing ตัวนี้จอสเอาไว้ใช้ลงรองพื้นค่ะ ชอบตรงที่ขนแปรงสปริงตัวดี
ความหนาแน่นที่ปานกลาง ไม่บางไม่หนาเกินไปทำให้สามารถเกลี่ยรองพื้นออกมาได้พอดีมากๆ
เหมาะกับเกลี่ยรองพื้นแบบ everyday look ซึ่งมันจะได้ texture ที่สวยงามเป็นธรรมชาิติไม่โบ๊ะ
ซึ่งจอสก็ใช้แทบทุกวันเวลาที่ออกไปทำงาน ด้ามจับพอดีมือ ใช้งานง่าย
ล้างทำความสะอาดก็ง่าย ขนแปรงคุณภาพดี ไม่มีร่วง 10/10

จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิวสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่สุดของเจ้ 2013 (คือเจ้ว่าห้าสิ่งนี้ถ้ายังไม่โดนคงต้องไปโดนอ่ะค่ะ!)
เพื่อนๆมีตัวไหนที่ใช้แล้วชอบเหมือนกัน หรือใช้เหมือนกันแต่ไม่ชอบก็เอามาแชร์ได้นะคะ
ถือว่าแบ่งปันประสบการณ์
สำหรับวันนี้ก็ขอขอบคุณสำหรับการติดตามชมนะคะ ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ บ๊ายบายย
ปล. กระทู้หน้าพบกับฮาวทูแต่งหน้าลุคหวานฉ่ำฟุ้งๆในฤดูหนาวรับปีใหม่ เร็วๆนี้นะคะ

Facebook fanpage : https://www.facebook.com/JossyBerryMakeUpArtist

+++เพิ่มเติม+++
ขอขอบคุณเพื่อนชาวห้องแป้งที่ช่วยโหวตขึ้นกระทู้แนะนำนะคะ
ไอเท็มชิ้นไหนเด็ดอย่าลืมลองไปหามาใช้กันดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
ตอนนี้จอสลงฮาวทูสอนแต่งหน้าตามที่สัญญาไว้แล้ว ยังไงเข้าไปรับชมกันได้นะคะ
http://ppantip.com/topic/31457317 หวังว่าจะถูกใจค่า ขอบคุณค่า
ชื่อสินค้า:   biore, chanel, gino mccray, urban decay, real technique
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่