คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
" คำสาปคลีฟแลนด์ "
มันเป็นเรื่องเล่า ปนความเศร้า ของทีมกีฬาอาชีพในเมืองคลีฟแลนด์น่ะครับ
ว่า...
ถึงแม้จะเป็นเมืองแห่งทีมกีฬาที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานอย่าง....Browns ( NFL ) , Indians ( MLB ) และ Cavaliers ( NBA )
แต่ทีมกีฬาดัง 3 ทีมนี้ ล้วนต่างไปไม่เคยถึงฝั่งฝันของการเป็นแชมเปี้ยนเลยเป็นระยะเวลายาวนานถึง 49 ปีมาแล้ว !!!
**** ในที่นี้ผมจะขอเขียนเรื่องราวอาถรรพ์เกี่ยวกับทีม Browns ของ NFL อย่างเดียวนะครับ
ใครอยากอ่านเรื่องอาถรรพ์อื่นๆของทีม Indians และ Cavaliers ตามไปอ่านได้ที่ link นี้เลยนะครับ...
http://www.retrojunk.com/article/show/2920/7-cursesof-cleveland-sports
หลังจากปี 1964 ที่ทีม Cleveland Browns ได้แชมป์ NFL เป็นหนสุดท้ายของทั้งหมด 8 แชมป์แล้ว ( 4 แชมป์ AAFC และ 4 แชมป์ NFL )
อดีตทีมรวยแชมป์อย่าง Browns กลับ " ไม่เคยได้แชมป์อะไรอีกเลย "
หลังจากการรวมลีคในปี 1970 ทีม Browns ก็ไม่เคยแม้แต่ได้เป็นแชมป์ของสาย AFC อีกเลย
ดังนั้น ศึกซุปเปอร์โบลว์ที่จัดแข่งกันมาจนถึงตอนนี้กำลังจะเข้า 48 ปี แล้ว
ทีม Browns ก็ยังไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศเลยแม้เพียงครั้งเดียว !!!
ทั้งๆที่ ตลอดมาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้
มีหลายครั้งหลายครา ที่ Browns มีทีมที่ยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง พอที่จะก้าวเข้าไปเป็นแชมเปี้ยนของ NFL ได้หลายชุด
แต่พอถึงเกมสำคัญๆ ทีม Browns มักจะดวงแตกชวดชัยในบั้นปลายอย่างน่าเสียดายมาตลอด..
อย่างในฤดูกาล 1968 Browns เล่นได้อย่างแข็งแกร่งตลอดฤดูกาล แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงซุปเปอร์โบลว์ III
เพราะพ่ายให้กับทีม Colts ในเกมชิงแชมป์ NFL คาบ้านของตัวเองด้วยสกอร์ 0 - 34 ..
และในปี 1969 ทีม Browns ก็พ่ายให้กับทีม Vikings ไปในเกมชิงแชมป์ NFL ชวดเข้าไปเล่นในศึกซุปเปอร์โบลว์ IV
อย่างน่าเสียดายอีกครั้ง...
และในฤดูกาล 1980 - 81 ทีม Browns มีทีมบุกที่เล่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจจนได้รับสมญานามว่า " The Kardiac Kids "
ด้วยการนำทัพของควอเตอร์แบ็คแขนไรเฟิลนาม ไบรอัน ไซป์ ที่โชว์ฟอร์มการขว้างระบิดเถิดเทิงจนได้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีค
มีปีกในระดับยอดฝีมือคู่ใจอย่าง ออสซี่ นิวซั่ม มีตัววิ่งที่ทำระยะระดับ 1000 หลาอย่าง เกร็ก พรูอิตต์
มีหัวหน้าโค๊ชที่ได้รับรางวัลโค๊ชยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นประกันอย่าง แซม รัตทิเกลียอาโน่
ทีมชุดนั้นระเบิดฟอร์มอย่างยอดเยี่ยม เป็นแชมป์สาย AFC กลางเขี่ยแชมป์เก่าอย่าง Steelers จนแห้วเพลย์ออฟ
แต่พอเปิดบ้านพบกับทีมไวด์คาร์ดอย่าง Raiders ในเกมดิวิชั่นเพลย์ออฟ
ทีม Browns ชุดที่เป็นความหวังใหม่ กลับเล่นกันไม่ออกพ่ายให้กับทีมโจรดำตาเดียวไปแบบฉิวเฉียด 12 - 14
ด้วยอินเทอร์เซปป์สุดสำคัญท้ายเกมในเอนด์โซนของ ไมค์ เดวิส เซฟตี้ Raiders
ในเกมที่ได้รับการขนานนามต่อกันมาว่า..." Red Right 88 "
หลังจากนั้นทีม Browns ก็ตกตํ่าลงไป จนมาถึงในช่วงปี 1985
ทีมได้ มาร์ตี้ ช็อตเทนไฮเมอร์ มารับตำแหน่งหัวหน้าโค๊ช
และ คัดเลือกตัวจอมทัพวัยฉกาจมากฝีมือจากมหาวิทยาลัยไมอามี่ นาม เบอร์นี่ โคซาร์ เข้ามาเป็นตัวความหวังของทีม
โคซาร์ มีพลพรรคทีมบุกสุดเจ๋งอย่างปีกนอกความเร็วสูง เรคจี้ แรงฮอร์น และ เวปเตอร์ สลาเตอร์
และยังมีตัววิ่งดูโอหมัด หนึ่ง - สอง อย่าง ...เออเนสต์ บายเนอร์ กับ เควิน แม็ค
ฤดูกาล 1986 Browns มีสถิติดีที่สุดของสาย AFC แต่พอถึงเกมชิงแชมป์สาย AFC ที่เปิดบ้านพบกับทีม Broncos อาถรรพ์ก็กลับมาอีกครั้ง..
เมื่อทีม Browns นำอยู่ 20 - 13 ในท้ายควอเตอร์ที่ 4 ...
จากระยะไกลสุดกู่ที่เส้น 2 หลาหน้าบ้านของตัวเอง จอห์น เอลเวย์ และ พลพรรคทีมบุกม้าลำพอง Broncos
กลับสร้างไดรฟ์การบุกสุดมหัศจรรย์มาทำทัชดาวน์ตามตีเสมอเกมได้ 20 - 20 คะแนน
และ หักอกแฟนๆทีม Browns ด้วยการเตะฟิลด์โกลในช่วงต่อเวลาพิเศษ.....เกมนัดนั้นเรียกขานกันต่อมาว่า " The Drive "
ปีต่อมา ในฤดูกาลใหม่ 1987 อาถรรพ์ยังคงทำหน้าที่กลั่นแกล้งทีม Browns อยู๋อย่างมั่นคง
ทีม Browns ยังคงแข็งแกร่ง และ ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลงในฤดูกาลปกติ
เป็นแชมป์ของสาย AFC กลาง ผ่านเข้าสู่เพลย์ออฟอย่างหนึ่งในทีมตัวเต็ง และ ผ่านเข้าไปจนถึงในเกมชิงแชมป์ AFC อีกครั้ง
แต่คู่แข่งยังคงเป็นคู่รักคู่แค้นหน้าเดิมอย่างทีม Broncos ..
รูปเกมที่ทั้งสองทีมเล่นกันใน ไมล์ไฮส์ สเตเดี้ยม ร้อนฉ่า ทั้งๆที่อุณหภูมิในวันนั้นหนาวเหน็บ
จบครึ๋งแรก เจ้าบ้านออกนำไปไกลสุดกู่ที่คะแนน 21 - 3
แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง เบอร์นี่ โคซาร์ จอมทัพ Browns ระเบิดฟอร์มทำสกอร์พาทีม Browns ไล่มาตามตีเสมอได้ที่ 31 - 31 !!!
ท้ายควอเตอร์ที่ 4 Broncos ได้ทัชดาวน์หนีไปอีกเป็น 38 - 31 คะแนน แต่ Browns ได้บุกไดรฟ์สุดสำคัญเที่เส้น 25 ในแดนตัวเอง..
โคซาร์ พาทีมคืบคลานเข้ามาจนกระทั่งถึงที่เส้น 8 หลาหน้าบ้านของ Broncos ...
เพลย์สุดสำคัญของทีม Browns เพื่อตีเสมอเริ่มต้นได้ดี
เมื่อ โคซาร์ ส่งลูกเข้าสู่มือของ เออเนสต์ บายเนอร์ ที่วิ่งตามตัวบล็อคเข้าสู่เอนด์โซนของ Broncos
แต่ ความซวยยังคงตามหลอกหลอน Browns อยู่เช่นเดิม !!!
จากที่ควรจะเป็นทัชดาวน์ตีเสมอเกม บายเนอร์ดันพุ่งเข้าเอนด์โซนตัวเปล่าๆ
แต่ลูกบอลดันหลุดออกมากลิ้งหลุนๆ เป็นฟัมเบิ้ลอยู่ที่หน้าปากประตูของ Broncos ซะอย่างงั้น
Browns จึงชวดเข้าไปเล่นในศึกซุปเปอร์โบลว์อีกครั้งอย่างน่าเสียดาย ...
ส่วนเรื่องที่ว่ากันว่า เกิดจากอาถรรพ์ที่เรื่องลือของทีม Browns อื่นๆก็มีอย่างเช่น...
เรื่องคำสาปจากความแค้นของ พอล บราวน์ อดีตตำนานหัวหน้าโค๊ชที่สร้างความสำเร็จมากมายในช่วงก่อตั้งของ Browns
ที่โกรธแค้น อาร์ต โมเดล เจ้าของทีม Browns ทีไล่เขาออกจากทีมในปี 1962
ทำให้ พอล บราวน์ สาปแช่งไม่ให้ทีมของ โมเดล พบเจอกับความสำเร็จ
แต่อาถรรพ์นี้ก็สิ้นสุดลง เมื่อ อาร์ต โมเดล พาทีม Browns ( ดั้งเดิม ) ย้ายเมืองไปเป็น Baltimore Ravens แล้วได้แชมปซุปเปอร์โบลว์ 35
หรือ อาถรรพ์เรื่องของ ถ้วยแชมป์ สมัยแรกของทีมที่หายสาปสูญไปตั้งแต่ปี 1946 สมัยยังเล่นอยู่ในลีค AAFC
ที่ว่ากันว่า เป็นตัวการทำให้ Browns ไม่เคยประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์ซุปเปอร์โบลว์มาตลอด
แต่ในปีนี้ ถ้วยใบนั้นก็ได้ถูกค้นพบ และ เอากลับมาตั้งอยู่ในที่โชว์ถ้วยของทีม Browns แล้วในปัจจุบัน
ตำนานอาถรรพ์ในเรื่องของถ้วยนี้ ก็น่าจะลบล้างไปได้ซะที
นี่ล่ะครับ คือ ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ของอาถรรพ์ ( หรือข้ออ้างดีหว่า )
ที่ตามหลอกหลอนแฟนๆทีม Cleveland มาโดยตลอดครับผม......
> Shine on you crazy diamond <
มันเป็นเรื่องเล่า ปนความเศร้า ของทีมกีฬาอาชีพในเมืองคลีฟแลนด์น่ะครับ
ว่า...
ถึงแม้จะเป็นเมืองแห่งทีมกีฬาที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานอย่าง....Browns ( NFL ) , Indians ( MLB ) และ Cavaliers ( NBA )
แต่ทีมกีฬาดัง 3 ทีมนี้ ล้วนต่างไปไม่เคยถึงฝั่งฝันของการเป็นแชมเปี้ยนเลยเป็นระยะเวลายาวนานถึง 49 ปีมาแล้ว !!!
**** ในที่นี้ผมจะขอเขียนเรื่องราวอาถรรพ์เกี่ยวกับทีม Browns ของ NFL อย่างเดียวนะครับ
ใครอยากอ่านเรื่องอาถรรพ์อื่นๆของทีม Indians และ Cavaliers ตามไปอ่านได้ที่ link นี้เลยนะครับ...
http://www.retrojunk.com/article/show/2920/7-cursesof-cleveland-sports
หลังจากปี 1964 ที่ทีม Cleveland Browns ได้แชมป์ NFL เป็นหนสุดท้ายของทั้งหมด 8 แชมป์แล้ว ( 4 แชมป์ AAFC และ 4 แชมป์ NFL )
อดีตทีมรวยแชมป์อย่าง Browns กลับ " ไม่เคยได้แชมป์อะไรอีกเลย "
หลังจากการรวมลีคในปี 1970 ทีม Browns ก็ไม่เคยแม้แต่ได้เป็นแชมป์ของสาย AFC อีกเลย
ดังนั้น ศึกซุปเปอร์โบลว์ที่จัดแข่งกันมาจนถึงตอนนี้กำลังจะเข้า 48 ปี แล้ว
ทีม Browns ก็ยังไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศเลยแม้เพียงครั้งเดียว !!!
ทั้งๆที่ ตลอดมาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้
มีหลายครั้งหลายครา ที่ Browns มีทีมที่ยอดเยี่ยม แข็งแกร่ง พอที่จะก้าวเข้าไปเป็นแชมเปี้ยนของ NFL ได้หลายชุด
แต่พอถึงเกมสำคัญๆ ทีม Browns มักจะดวงแตกชวดชัยในบั้นปลายอย่างน่าเสียดายมาตลอด..
อย่างในฤดูกาล 1968 Browns เล่นได้อย่างแข็งแกร่งตลอดฤดูกาล แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงซุปเปอร์โบลว์ III
เพราะพ่ายให้กับทีม Colts ในเกมชิงแชมป์ NFL คาบ้านของตัวเองด้วยสกอร์ 0 - 34 ..
และในปี 1969 ทีม Browns ก็พ่ายให้กับทีม Vikings ไปในเกมชิงแชมป์ NFL ชวดเข้าไปเล่นในศึกซุปเปอร์โบลว์ IV
อย่างน่าเสียดายอีกครั้ง...
และในฤดูกาล 1980 - 81 ทีม Browns มีทีมบุกที่เล่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจจนได้รับสมญานามว่า " The Kardiac Kids "
ด้วยการนำทัพของควอเตอร์แบ็คแขนไรเฟิลนาม ไบรอัน ไซป์ ที่โชว์ฟอร์มการขว้างระบิดเถิดเทิงจนได้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีค
มีปีกในระดับยอดฝีมือคู่ใจอย่าง ออสซี่ นิวซั่ม มีตัววิ่งที่ทำระยะระดับ 1000 หลาอย่าง เกร็ก พรูอิตต์
มีหัวหน้าโค๊ชที่ได้รับรางวัลโค๊ชยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นประกันอย่าง แซม รัตทิเกลียอาโน่
ทีมชุดนั้นระเบิดฟอร์มอย่างยอดเยี่ยม เป็นแชมป์สาย AFC กลางเขี่ยแชมป์เก่าอย่าง Steelers จนแห้วเพลย์ออฟ
แต่พอเปิดบ้านพบกับทีมไวด์คาร์ดอย่าง Raiders ในเกมดิวิชั่นเพลย์ออฟ
ทีม Browns ชุดที่เป็นความหวังใหม่ กลับเล่นกันไม่ออกพ่ายให้กับทีมโจรดำตาเดียวไปแบบฉิวเฉียด 12 - 14
ด้วยอินเทอร์เซปป์สุดสำคัญท้ายเกมในเอนด์โซนของ ไมค์ เดวิส เซฟตี้ Raiders
ในเกมที่ได้รับการขนานนามต่อกันมาว่า..." Red Right 88 "
หลังจากนั้นทีม Browns ก็ตกตํ่าลงไป จนมาถึงในช่วงปี 1985
ทีมได้ มาร์ตี้ ช็อตเทนไฮเมอร์ มารับตำแหน่งหัวหน้าโค๊ช
และ คัดเลือกตัวจอมทัพวัยฉกาจมากฝีมือจากมหาวิทยาลัยไมอามี่ นาม เบอร์นี่ โคซาร์ เข้ามาเป็นตัวความหวังของทีม
โคซาร์ มีพลพรรคทีมบุกสุดเจ๋งอย่างปีกนอกความเร็วสูง เรคจี้ แรงฮอร์น และ เวปเตอร์ สลาเตอร์
และยังมีตัววิ่งดูโอหมัด หนึ่ง - สอง อย่าง ...เออเนสต์ บายเนอร์ กับ เควิน แม็ค
ฤดูกาล 1986 Browns มีสถิติดีที่สุดของสาย AFC แต่พอถึงเกมชิงแชมป์สาย AFC ที่เปิดบ้านพบกับทีม Broncos อาถรรพ์ก็กลับมาอีกครั้ง..
เมื่อทีม Browns นำอยู่ 20 - 13 ในท้ายควอเตอร์ที่ 4 ...
จากระยะไกลสุดกู่ที่เส้น 2 หลาหน้าบ้านของตัวเอง จอห์น เอลเวย์ และ พลพรรคทีมบุกม้าลำพอง Broncos
กลับสร้างไดรฟ์การบุกสุดมหัศจรรย์มาทำทัชดาวน์ตามตีเสมอเกมได้ 20 - 20 คะแนน
และ หักอกแฟนๆทีม Browns ด้วยการเตะฟิลด์โกลในช่วงต่อเวลาพิเศษ.....เกมนัดนั้นเรียกขานกันต่อมาว่า " The Drive "
ปีต่อมา ในฤดูกาลใหม่ 1987 อาถรรพ์ยังคงทำหน้าที่กลั่นแกล้งทีม Browns อยู๋อย่างมั่นคง
ทีม Browns ยังคงแข็งแกร่ง และ ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลงในฤดูกาลปกติ
เป็นแชมป์ของสาย AFC กลาง ผ่านเข้าสู่เพลย์ออฟอย่างหนึ่งในทีมตัวเต็ง และ ผ่านเข้าไปจนถึงในเกมชิงแชมป์ AFC อีกครั้ง
แต่คู่แข่งยังคงเป็นคู่รักคู่แค้นหน้าเดิมอย่างทีม Broncos ..
รูปเกมที่ทั้งสองทีมเล่นกันใน ไมล์ไฮส์ สเตเดี้ยม ร้อนฉ่า ทั้งๆที่อุณหภูมิในวันนั้นหนาวเหน็บ
จบครึ๋งแรก เจ้าบ้านออกนำไปไกลสุดกู่ที่คะแนน 21 - 3
แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง เบอร์นี่ โคซาร์ จอมทัพ Browns ระเบิดฟอร์มทำสกอร์พาทีม Browns ไล่มาตามตีเสมอได้ที่ 31 - 31 !!!
ท้ายควอเตอร์ที่ 4 Broncos ได้ทัชดาวน์หนีไปอีกเป็น 38 - 31 คะแนน แต่ Browns ได้บุกไดรฟ์สุดสำคัญเที่เส้น 25 ในแดนตัวเอง..
โคซาร์ พาทีมคืบคลานเข้ามาจนกระทั่งถึงที่เส้น 8 หลาหน้าบ้านของ Broncos ...
เพลย์สุดสำคัญของทีม Browns เพื่อตีเสมอเริ่มต้นได้ดี
เมื่อ โคซาร์ ส่งลูกเข้าสู่มือของ เออเนสต์ บายเนอร์ ที่วิ่งตามตัวบล็อคเข้าสู่เอนด์โซนของ Broncos
แต่ ความซวยยังคงตามหลอกหลอน Browns อยู่เช่นเดิม !!!
จากที่ควรจะเป็นทัชดาวน์ตีเสมอเกม บายเนอร์ดันพุ่งเข้าเอนด์โซนตัวเปล่าๆ
แต่ลูกบอลดันหลุดออกมากลิ้งหลุนๆ เป็นฟัมเบิ้ลอยู่ที่หน้าปากประตูของ Broncos ซะอย่างงั้น
Browns จึงชวดเข้าไปเล่นในศึกซุปเปอร์โบลว์อีกครั้งอย่างน่าเสียดาย ...
ส่วนเรื่องที่ว่ากันว่า เกิดจากอาถรรพ์ที่เรื่องลือของทีม Browns อื่นๆก็มีอย่างเช่น...
เรื่องคำสาปจากความแค้นของ พอล บราวน์ อดีตตำนานหัวหน้าโค๊ชที่สร้างความสำเร็จมากมายในช่วงก่อตั้งของ Browns
ที่โกรธแค้น อาร์ต โมเดล เจ้าของทีม Browns ทีไล่เขาออกจากทีมในปี 1962
ทำให้ พอล บราวน์ สาปแช่งไม่ให้ทีมของ โมเดล พบเจอกับความสำเร็จ
แต่อาถรรพ์นี้ก็สิ้นสุดลง เมื่อ อาร์ต โมเดล พาทีม Browns ( ดั้งเดิม ) ย้ายเมืองไปเป็น Baltimore Ravens แล้วได้แชมปซุปเปอร์โบลว์ 35
หรือ อาถรรพ์เรื่องของ ถ้วยแชมป์ สมัยแรกของทีมที่หายสาปสูญไปตั้งแต่ปี 1946 สมัยยังเล่นอยู่ในลีค AAFC
ที่ว่ากันว่า เป็นตัวการทำให้ Browns ไม่เคยประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์ซุปเปอร์โบลว์มาตลอด
แต่ในปีนี้ ถ้วยใบนั้นก็ได้ถูกค้นพบ และ เอากลับมาตั้งอยู่ในที่โชว์ถ้วยของทีม Browns แล้วในปัจจุบัน
ตำนานอาถรรพ์ในเรื่องของถ้วยนี้ ก็น่าจะลบล้างไปได้ซะที
นี่ล่ะครับ คือ ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ของอาถรรพ์ ( หรือข้ออ้างดีหว่า )
ที่ตามหลอกหลอนแฟนๆทีม Cleveland มาโดยตลอดครับผม......
> Shine on you crazy diamond <
แสดงความคิดเห็น
ช่วยเล่าคำสาป ของทีม Cleveland Browns หน่อยครับ
เห็นเค้าบอกกันว่า Cleveland Browns เป็นทีมที่ต้องคำสาป อยากรู้ว่ามันมีดีเทล และที่มายังไงอ่ะครับ
แล้วอยากรู้ว่านอกจาก Browns กับ lion แล้วมีทีมไหนใน nfl ที่ยังโดนคำสาปอยู่บ้างครับ
ขอบคุณครับ