Condition
1. ผมทำงานแล้ว และมีกำลังทรัพย์พอที่จะจับจ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่องานอดิเรกได้ อย่างเช่น อนิเม นิยาย เกมส์ และภาพยนตร์
2. ผมเป็นคนหนึ่งที่โหลดอนิเมของแฟนซับมาดูอยู่เนืองๆ(ในกรณีที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์) และซื้อแผ่นแท้มาดูและสะสมภายหลังจากโดน LC แล้ว (ถ้าเรื่องนั้นๆสนุกอย่างเช่น Code Geass หรือผมยังดูไม่จบเพราะโดน LC กลางอากาศเช่น SAO, Accel World เป็นต้น)
3. จากข้อ 1 ถึงแม้ผมจะมีกำลังทรัพย์พอ แต่ผมก็ยังคงใส่ใจกับความคุ้มค่าในเงินที่ผมต้องจ่ายไป รวมถึงมูลค่าของสินค้าเมื่อเทียบกับอัตราค่าครองชีพของบ้านเรา กล่าวคือ ผมยินดีที่ซื้อของแพง ถ้าของชิ้นนั้นมีคุณภาพอย่างที่มันควรเป็น อย่างเช่น ผมยินดีซื้อนาฬิกา seiko เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานและคุณภาพของชิ้นงาน
4. ผมเป็นคนหนึ่งที่นิยมดูหนังและอนิเมในฉบับเสียงภาษาไทย (ถึงใครจะบอกว่าเสียงมันห่วยก็เถอะ) ดังนั้นผมจึงมักซื้ออนิเมหรือหนังที่มีเสียงไทยติดมาด้วยเสมอ รวมไปถึงซับไทยด้วย
เข้าเรื่อง
ผมซื้ออนิเมจาก TIGA 2 เรื่องล่าสุดคือ Kyoukai Senjou no Horizon และ Evagelion 3.33 แล้วผมรู้สึกสงสัยกับคุณภาพของเนื้องาน
ประเด็นคือ
1. Horizon ในแผ่นที่1 ส่วนของ special feature ไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย และในแผ่น2 ในส่วนของแนะนำตอนต่อไปก็ไม่มีเช่นกัน และรวมไปถึง Booklet ของ Evangelion 3.33 ที่มาในรูปแบบของ E-booklet ทั้งยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยอีก
2. Theme ของปกและสีของ Evangelion ทั้งๆที่มันควรต้องเป็นตัวอักษร 3.33 Themeสีฟ้า แต่กลับกลายออกมาเป็นรูปภาพ และ Theme สีดำ ซึ่งไม่มีความเข้ากันกับภาค 1.11 และ 2.22 ที่ออกมาก่อนหน้าเลยสักนิด
จากประเด็นที่1 ทางแอดมินอ้างว่า ทางญี่ปุ่นไม่ยินยอมให้แปลเป็นภาษาไทย ผมเลยเกิดความสงสัยขึ้นว่า
"ในบรรดาประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ 2 เรื่องข้างต้นไป ไม่มีสักประเทศเดียวเลยหรือ ที่ญี่ปุ่นจะยอมให้แปลเป็นภาษาของตน"
สาเหตุที่ผมมีคำถามนี้ก็เพราะ booklet ของ Evangelion 1.11 และ 2.22 ที่วางขายก่อนหน้า มันถูกพิมพ์ใส่มาเป็นรูปเล่มและแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งการที่ภาคถัดมาอย่าง 3.33 ไม่ถูกพิมพ์เป็นเล่มออกมาด้วยและยังไม่มีการแปลมันดูแปลกไปอย่างมาก
และจากประเด็นที่ 2 ทำไม Theme สีของภาค 3.33 มันถึงได้แหกคอกกลายเป็นสีดำแบบที่วางขายอยู่ตอนนี้ ทั้งๆที่ 1.11 และ 2.22 ก็มีรูปแบบเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงแผ่นที่วางขายที่ต่างประเทศเองก็มี ภาพปกและ Theme สีเป็นไปอย่างที่ควรเป็นคือเป็นตัวอักษร 3.33 พื้นหลังสีฟ้า
จากทั้งหมดที่ผมว่ามา มันทำให้ผมเกิดความคิดและคำถามว่า
"ทั้งๆที่เราตั้งใจซื้อของถูกลิขสิทธิ์ภายในประเทศ เพราะอยากได้ตัวอนิเมและ feature ต่างๆที่เป็นเนื้อหาภาษาไทยอย่างครบถ้วนเพื่อจะได้ดูได้เข้าใจ และอยากอุดหนุนเพื่อให้มีสินค้าดีๆเข้ามาจำหน่ายในประเทศ แต่ทำไมบริษัทที่เราตั้งใจอุดหนุนเขา เขาถึงทำกับเราแบบนี้"
และ
"เมื่อบริษัททำกับเราแบบนี้ มันสมควรหรือไม่ที่เราจะยังต้องอุดหนุนบริษัทเหล่านั้น เพราะถ้าแค่แปลมาเฉพาะตัวเนื้อหา เราไปหาโหลดเอาจากแฟนซับเถื่อนไม่ดีกว่าเหรอ เพราะทางนั้นเองก็ไม่มี Special Feature มาให้เหมือนกัน (แถมบางครั้งเขาก็มีมาให้พร้อมแปลไทยให้อีกต่างหาก)"
ที่สำคัญ การโหลดของเถื่อนไม่ว่าจะเวปบิท หรือแฟนซับเถื่อน ก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องคุณภาพของสินค้าเช่น แผ่นเป็นรอย บุ๊คเลทยับ ถาดแตก ปกยับ ส่งของล่าช้า แถมยังฟรีอีกต่างหาก
ทั้งหมดที่ว่ามา มันก็คงเป็นได้แค่คำบ่นของผมเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้ผู้เกี่ยวข้องของ TIGA มาอ่านก็คงตอบได้แต่แพทเทิร์นเดิมๆว่า
1. "เพราะทางญี่ปุ่นบังคับ" (จริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบเพราะไม่มีใครสามารถยืนยันได้)
2. "แล้วเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นในเรื่องต่อไป" (ส่วนเรื่องเดิมก็ลืมๆมันไปซะ และพอถึงเรื่องใหม่ก็มีปัญหาเดิมๆมาอีก)
และเหนืออื่นใด ทางบริษัทก็คงคิดอยู่ในใจว่า
"ลูกค้าแค่คนสองคนบ่นก็ไม่เห็นเป็นไร บ่นได้ก็บ่นไป เพราะยังไงถ้าอยากซื้อของถูกลิขสิทธิ์ ก็ต้องมาซื้อกับเราเท่านั้น"
ขอบคุณที่อุดส่าห์อ่านจนจบครับ
Edit
1. จากสมาชิกท่านหนึ่งจากบอร์ดอื่น
"บางครั้งทางญี่ปุ่นเองเขาก็ไม่ยอมให้สินค้าของชาติอื่นออกมาดีกว่าต้นฉบับหรอกครับ ไม่งั้นโดนเปรียบเทียบขึ้นมาแล้วต้นฉบับด่อยกว่าแล้วใครเขาจะไปอยากอุดหนุนของต้นฉบับ"
ผมไม่ได้พูดถึงแพ็คเกจเลยแม้แต่น้อยนะครับ
ผมพูดถึงแค่
1.การแปลเป็นภาษาไทย
2.Theme ของสีปก Evangelion ซึ่งของต่างประเทศสามารถทำได้
ซึ่งในกรณีที่คุณ marione ว่ามาว่าไม่ให้ดีกว่าของต้นฉบับผมเข้าใจ ผมจึงไม่มีข้อสงสัย แต่
"การแปลให้คนดูรู้เรื่องเนี่ย มันไม่สามารถทำได้เลยเหรอครับ"
นี่แหละคือข้อสงสัยของผม
2.จากสมาชิกอีกท่านหนึ่ง ของบอร์ดอื่น
"ปกTheme ที่ว่านี่คือแบบDVDรึป่าวครับเพราะBD ก็เห็นทำตามแบบญี่ปุ่น
สรุป ปกแผ่น รึ ปลอกสวม ?"
DVD ครับ และในกรณีของ DVD ไม่ว่าจะปกแผ่นหรือปลอกสวม ของ 3.33 มันก็แปลกแยกกว่าของ 1.11 และ 2.22 ทั้งคู่นะครับ
"ส่วยบุ๊คเลท ญี่ปุ่นไม่ให้ทำไม่ใช่รึแค่เอามาลงEbookให้นี่ถือว่าทางโน้นยอมเยอะแล้วนะครับ ใครจะยอมให้ของขาย ตปท. ดีกว่าต้นฉบับล่ะครับ อย่าลืมว่าญี่ปุ่นไม่มี เสื้อ ปลอกหมอน กล่อง มาให้นะครับ ส่วนตัวไทก้ากดราคาได้ขนาดนี้สำหรับแฟนๆคนไทยถือว่าเค้าพยายามมากพอดูแล้วล่ะ
ขอให้หลายๆคนเปิดใจให้กว้างนิดนึงครับการทำอนิเมLCเรื่องนึงมันทำตามใจผู้บริโภคไม่ได้ ต่อให้คนทำอยากทำแบบจัดเต็มตามต้นฉบับเป๊ะๆก็เถอะสุดท้ายมันคือธุระกิจอย่าลืมตรงจุดนี้ด้วย"
ผมขอชี้แจงเป็นข้อๆ
1.เรื่อง booklet ผมถึงได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ทั้งที่ 1.11และ2.22 มาเป็นเล่ม และแปลไทยครบ แต่กับ 3.33 มาเป็น ไฟล์ในแผ่นพร้อมทั้งไม่แปล มันแปลกไปมั้ย และการแปลเพื่อให้คนดูรู้เรื่องเนี่ย มันทำให้คุณภาพดีกว่าของญี่ปุ่นเหรอครับ
2.ผมย้ำตั้งแต่ต้นแล้วว่า ผมไม่ได้พูดถึง แพคเกจ เลยสักนิด ผมพูดถึงการแปลให้กลายเป็นภาษาไทย ให้มันดู/อ่าน รู้เรื่อง
3.ถ้าจะแย้งเรื่อง ตัวอักษรบนปก และ Theme สีฟ้า ผมก็บอกแล้วว่า "ทำไมของต่างประเทศทำได้" ซ้ำยัง "ทำได้กับแผ่น BD ด้วย แต่ทำไมกับ DVD ถึงทำไม่ได้"
4.เรื่องการกดราคาให้ได้เท่านี้ ราคา BD แบบไม่ใช่ลิมิตของบ้านเราตอนนี้ แทบจะไม่ต่างกับของ ตปท. เลยนะครับ ทั้งๆที่ค่าครองชีพของ ตปท. สูงกว่าด้วยซ้ำ ในส่วนของ DVD DVD Limited (750บาท จำกัด 200ท่าน(?)) กับ DVD ปกติ (459บาท) เป็นส่วนต่างของราคาหมวก 291บาท แพคเกจของญี่ปุ่นเองก็ไม่มีหมวกนี้ ผมเชื่อว่าถ้าขายเฉพาะตัว DVDปกติ อย่างเดียว คงไม่มีใครออกมาบ่นละมั้งครับ นอกเสียจากว่ามันเป็นเรื่องของการตลาด
5.การที่ บริษัท ซื้อลิขสิทธิ์มาสักเรื่องหนึ่ง คงไม่ใช่เพียงเพราะเสียงเรียกร้องอย่างเดียว แต่เพราะมองเห็นว่ามันสามารถทำกำไรได้จึงซื้อมา ดังนั้นคำพูดประมาณว่า
"ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาแล้ว จะเอาอะไรกันนักหนา" เนี่ย ผมว่ามันค่อนข้างไร้ความรับผิดชอบไปนะครับ
ตั้งแต่ต้นผมไม่ได้เรียกร้องให้ทำตามแบบต้นฉบับเป๊ะๆ ไม่เคยบอกให้จัดเต็ม ผมไม่เคยกล่าวอ้างถึงต้นฉบับของญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมบอกมาตั้งแต่ต้น (ถ้าคุณอ่านจับใจความได้) คือ
"สิ่งที่ควรจะมี และมีมาในทุกๆภาคทำไมถึงไม่มี คือบุ๊คเลทเป็นเล่ม และทำไม่แปลเป็นไทยให้อ่านรู้เรื่อง"
ผมเข้าใจคำว่าธุรกิจ นั่นคือ "เพื่อผลกำไรสูงสุด"
แต่
คุณก็ต้องเข้าใจลูกค้าด้วยว่า
"เราก็ต้องการของที่เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป" ด้วยนะครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกเพิ่มเติมจากคอมเม้นต่างๆ
การแปลข้อความเป็นภาษาไทยเนี่ย มันให้สินค้าดูดีกว่าของญี่ปุ่นเหรอครับ?
3.จากสมาชิกอีกท่านหนึ่ง ของบอร์ดอื่น
"แต่อ่านๆดูเหมือนคุณจะไม่เชื่อที่เค้าว่า "jp บังคับหรือไม่ให้ทำสินะครับ"
อยู่แวดวงนี้มานานทั้งมังกะ อนิเม ไลท์โนเวล ก็น่าจะรู้ได้นะครับว่า jp เค้าเยอะแค่ไหน
เคสความเยอะก็มีมาเรื่อยๆให้ศึกษาอยู่แล้ว"
จะบอกว่าไม่เชื่อ ก็คงจะไม่ใช่ละครับ เพราะก็อย่างที่ท่านว่าคือมันมีมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ
แต่อย่างที่บอกว่า เรื่อง Booklet ว่ามันเคยมีมากับ 2 ภาคแรก แต่กับภาคนี้ดันไม่มี มันดูแปลกไปมาก อีกทั้งเรื่อง ปก ทั้งๆที่ของ ตปท. อื่นนอกญี่ปุ่น สามารถทำได้ แต่เรากลับทำไม่ได้ (เฉพาะแค่ DVD) เหล่านี้มันเลยทำให้ผมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยครับ
5.
จากความเห็นของ Admin ของ TIGA จากบอร์ดอื่น (RikoLover คือ Admin TIGA นะครับ)
ในส่วนนี้เป็นการโต้ตอบกันระหว่างผมกับ Admin ของ TIGA นะครับ เพื่อความสะดวกขออัพเป็นรูปนะครับ
สรุป
ก็อย่างที่ทาง TIGA ว่ามานะครับ ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางนั้น
ทำอย่างใจรักเต็มที่แล้ว
และข้อมูลต่างๆของแต่ละแผ่นว่าจะมีหรือไม่มีอะไร ก็ไม่สามารถแจ้งให้ทราบก่อนซื้อได้ เพราะฉะนั้นใครคาดหวังไว้ หรือ ตั้งใจจะซื้อสินค้าถูกลิขสิทธิ์ตัวไหน อย่าใช้เพียงความคุ้นเคยเดิมๆที่เคยใช้กับสินค้าอื่นๆ อย่างเช่นว่า
"ซื้อของแท้แล้ว น่าจะดูได้รู้เรื่อง ไม่ต้องรอค่ายซับ หรือดำน้ำ" และ
"ซื้อภาคต่อเก็บไว้ เพื่อจะได้เก็บสะสมให้สวยครบชุด" หรือแม้กระทั่ง
"ซื้อแผ่นแท้มาแล้ว ง่ายๆ ไม่มีปัญหาจุกจิกแน่ๆ"
ในการซื้อเพียงอย่างเดียวนะครับ ทางที่ดีที่สุด ดูรีวิวให้ดีเสียก่อน หรือถ้าจะเอาให้แน่ใจ ก็ต้องโทรไปสอบถามกับทาง บริษัท เอานะครับว่ามันมีปัญหาอะไรหรือขาดอะไรไปหรือไม่ และจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร
แล้วสุดท้าย ท่านค่อยควักเงินจ่ายออกไปนะครับ
และท้ายที่สุด ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการดูอนิเมนะครับ
ซื้อสินค้าจาก TIGA 2 เรื่องล่าสุดแล้วรู้สึกสงสัย จนทำให้ไม่อยากอุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์
1. ผมทำงานแล้ว และมีกำลังทรัพย์พอที่จะจับจ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่องานอดิเรกได้ อย่างเช่น อนิเม นิยาย เกมส์ และภาพยนตร์
2. ผมเป็นคนหนึ่งที่โหลดอนิเมของแฟนซับมาดูอยู่เนืองๆ(ในกรณีที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์) และซื้อแผ่นแท้มาดูและสะสมภายหลังจากโดน LC แล้ว (ถ้าเรื่องนั้นๆสนุกอย่างเช่น Code Geass หรือผมยังดูไม่จบเพราะโดน LC กลางอากาศเช่น SAO, Accel World เป็นต้น)
3. จากข้อ 1 ถึงแม้ผมจะมีกำลังทรัพย์พอ แต่ผมก็ยังคงใส่ใจกับความคุ้มค่าในเงินที่ผมต้องจ่ายไป รวมถึงมูลค่าของสินค้าเมื่อเทียบกับอัตราค่าครองชีพของบ้านเรา กล่าวคือ ผมยินดีที่ซื้อของแพง ถ้าของชิ้นนั้นมีคุณภาพอย่างที่มันควรเป็น อย่างเช่น ผมยินดีซื้อนาฬิกา seiko เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานและคุณภาพของชิ้นงาน
4. ผมเป็นคนหนึ่งที่นิยมดูหนังและอนิเมในฉบับเสียงภาษาไทย (ถึงใครจะบอกว่าเสียงมันห่วยก็เถอะ) ดังนั้นผมจึงมักซื้ออนิเมหรือหนังที่มีเสียงไทยติดมาด้วยเสมอ รวมไปถึงซับไทยด้วย
เข้าเรื่อง
ผมซื้ออนิเมจาก TIGA 2 เรื่องล่าสุดคือ Kyoukai Senjou no Horizon และ Evagelion 3.33 แล้วผมรู้สึกสงสัยกับคุณภาพของเนื้องาน
ประเด็นคือ
1. Horizon ในแผ่นที่1 ส่วนของ special feature ไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย และในแผ่น2 ในส่วนของแนะนำตอนต่อไปก็ไม่มีเช่นกัน และรวมไปถึง Booklet ของ Evangelion 3.33 ที่มาในรูปแบบของ E-booklet ทั้งยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทยอีก
2. Theme ของปกและสีของ Evangelion ทั้งๆที่มันควรต้องเป็นตัวอักษร 3.33 Themeสีฟ้า แต่กลับกลายออกมาเป็นรูปภาพ และ Theme สีดำ ซึ่งไม่มีความเข้ากันกับภาค 1.11 และ 2.22 ที่ออกมาก่อนหน้าเลยสักนิด
จากประเด็นที่1 ทางแอดมินอ้างว่า ทางญี่ปุ่นไม่ยินยอมให้แปลเป็นภาษาไทย ผมเลยเกิดความสงสัยขึ้นว่า
"ในบรรดาประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ 2 เรื่องข้างต้นไป ไม่มีสักประเทศเดียวเลยหรือ ที่ญี่ปุ่นจะยอมให้แปลเป็นภาษาของตน"
สาเหตุที่ผมมีคำถามนี้ก็เพราะ booklet ของ Evangelion 1.11 และ 2.22 ที่วางขายก่อนหน้า มันถูกพิมพ์ใส่มาเป็นรูปเล่มและแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งการที่ภาคถัดมาอย่าง 3.33 ไม่ถูกพิมพ์เป็นเล่มออกมาด้วยและยังไม่มีการแปลมันดูแปลกไปอย่างมาก
และจากประเด็นที่ 2 ทำไม Theme สีของภาค 3.33 มันถึงได้แหกคอกกลายเป็นสีดำแบบที่วางขายอยู่ตอนนี้ ทั้งๆที่ 1.11 และ 2.22 ก็มีรูปแบบเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงแผ่นที่วางขายที่ต่างประเทศเองก็มี ภาพปกและ Theme สีเป็นไปอย่างที่ควรเป็นคือเป็นตัวอักษร 3.33 พื้นหลังสีฟ้า
จากทั้งหมดที่ผมว่ามา มันทำให้ผมเกิดความคิดและคำถามว่า
"ทั้งๆที่เราตั้งใจซื้อของถูกลิขสิทธิ์ภายในประเทศ เพราะอยากได้ตัวอนิเมและ feature ต่างๆที่เป็นเนื้อหาภาษาไทยอย่างครบถ้วนเพื่อจะได้ดูได้เข้าใจ และอยากอุดหนุนเพื่อให้มีสินค้าดีๆเข้ามาจำหน่ายในประเทศ แต่ทำไมบริษัทที่เราตั้งใจอุดหนุนเขา เขาถึงทำกับเราแบบนี้"
และ
"เมื่อบริษัททำกับเราแบบนี้ มันสมควรหรือไม่ที่เราจะยังต้องอุดหนุนบริษัทเหล่านั้น เพราะถ้าแค่แปลมาเฉพาะตัวเนื้อหา เราไปหาโหลดเอาจากแฟนซับเถื่อนไม่ดีกว่าเหรอ เพราะทางนั้นเองก็ไม่มี Special Feature มาให้เหมือนกัน (แถมบางครั้งเขาก็มีมาให้พร้อมแปลไทยให้อีกต่างหาก)"
ที่สำคัญ การโหลดของเถื่อนไม่ว่าจะเวปบิท หรือแฟนซับเถื่อน ก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องคุณภาพของสินค้าเช่น แผ่นเป็นรอย บุ๊คเลทยับ ถาดแตก ปกยับ ส่งของล่าช้า แถมยังฟรีอีกต่างหาก
ทั้งหมดที่ว่ามา มันก็คงเป็นได้แค่คำบ่นของผมเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้ผู้เกี่ยวข้องของ TIGA มาอ่านก็คงตอบได้แต่แพทเทิร์นเดิมๆว่า
1. "เพราะทางญี่ปุ่นบังคับ" (จริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบเพราะไม่มีใครสามารถยืนยันได้)
2. "แล้วเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นในเรื่องต่อไป" (ส่วนเรื่องเดิมก็ลืมๆมันไปซะ และพอถึงเรื่องใหม่ก็มีปัญหาเดิมๆมาอีก)
และเหนืออื่นใด ทางบริษัทก็คงคิดอยู่ในใจว่า
"ลูกค้าแค่คนสองคนบ่นก็ไม่เห็นเป็นไร บ่นได้ก็บ่นไป เพราะยังไงถ้าอยากซื้อของถูกลิขสิทธิ์ ก็ต้องมาซื้อกับเราเท่านั้น"
ขอบคุณที่อุดส่าห์อ่านจนจบครับ
Edit
1. จากสมาชิกท่านหนึ่งจากบอร์ดอื่น
"บางครั้งทางญี่ปุ่นเองเขาก็ไม่ยอมให้สินค้าของชาติอื่นออกมาดีกว่าต้นฉบับหรอกครับ ไม่งั้นโดนเปรียบเทียบขึ้นมาแล้วต้นฉบับด่อยกว่าแล้วใครเขาจะไปอยากอุดหนุนของต้นฉบับ"
ผมไม่ได้พูดถึงแพ็คเกจเลยแม้แต่น้อยนะครับ
ผมพูดถึงแค่
1.การแปลเป็นภาษาไทย
2.Theme ของสีปก Evangelion ซึ่งของต่างประเทศสามารถทำได้
ซึ่งในกรณีที่คุณ marione ว่ามาว่าไม่ให้ดีกว่าของต้นฉบับผมเข้าใจ ผมจึงไม่มีข้อสงสัย แต่
"การแปลให้คนดูรู้เรื่องเนี่ย มันไม่สามารถทำได้เลยเหรอครับ"
นี่แหละคือข้อสงสัยของผม
2.จากสมาชิกอีกท่านหนึ่ง ของบอร์ดอื่น
"ปกTheme ที่ว่านี่คือแบบDVDรึป่าวครับเพราะBD ก็เห็นทำตามแบบญี่ปุ่น
สรุป ปกแผ่น รึ ปลอกสวม ?"
DVD ครับ และในกรณีของ DVD ไม่ว่าจะปกแผ่นหรือปลอกสวม ของ 3.33 มันก็แปลกแยกกว่าของ 1.11 และ 2.22 ทั้งคู่นะครับ
"ส่วยบุ๊คเลท ญี่ปุ่นไม่ให้ทำไม่ใช่รึแค่เอามาลงEbookให้นี่ถือว่าทางโน้นยอมเยอะแล้วนะครับ ใครจะยอมให้ของขาย ตปท. ดีกว่าต้นฉบับล่ะครับ อย่าลืมว่าญี่ปุ่นไม่มี เสื้อ ปลอกหมอน กล่อง มาให้นะครับ ส่วนตัวไทก้ากดราคาได้ขนาดนี้สำหรับแฟนๆคนไทยถือว่าเค้าพยายามมากพอดูแล้วล่ะ
ขอให้หลายๆคนเปิดใจให้กว้างนิดนึงครับการทำอนิเมLCเรื่องนึงมันทำตามใจผู้บริโภคไม่ได้ ต่อให้คนทำอยากทำแบบจัดเต็มตามต้นฉบับเป๊ะๆก็เถอะสุดท้ายมันคือธุระกิจอย่าลืมตรงจุดนี้ด้วย"
ผมขอชี้แจงเป็นข้อๆ
1.เรื่อง booklet ผมถึงได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ทั้งที่ 1.11และ2.22 มาเป็นเล่ม และแปลไทยครบ แต่กับ 3.33 มาเป็น ไฟล์ในแผ่นพร้อมทั้งไม่แปล มันแปลกไปมั้ย และการแปลเพื่อให้คนดูรู้เรื่องเนี่ย มันทำให้คุณภาพดีกว่าของญี่ปุ่นเหรอครับ
2.ผมย้ำตั้งแต่ต้นแล้วว่า ผมไม่ได้พูดถึง แพคเกจ เลยสักนิด ผมพูดถึงการแปลให้กลายเป็นภาษาไทย ให้มันดู/อ่าน รู้เรื่อง
3.ถ้าจะแย้งเรื่อง ตัวอักษรบนปก และ Theme สีฟ้า ผมก็บอกแล้วว่า "ทำไมของต่างประเทศทำได้" ซ้ำยัง "ทำได้กับแผ่น BD ด้วย แต่ทำไมกับ DVD ถึงทำไม่ได้"
4.เรื่องการกดราคาให้ได้เท่านี้ ราคา BD แบบไม่ใช่ลิมิตของบ้านเราตอนนี้ แทบจะไม่ต่างกับของ ตปท. เลยนะครับ ทั้งๆที่ค่าครองชีพของ ตปท. สูงกว่าด้วยซ้ำ ในส่วนของ DVD DVD Limited (750บาท จำกัด 200ท่าน(?)) กับ DVD ปกติ (459บาท) เป็นส่วนต่างของราคาหมวก 291บาท แพคเกจของญี่ปุ่นเองก็ไม่มีหมวกนี้ ผมเชื่อว่าถ้าขายเฉพาะตัว DVDปกติ อย่างเดียว คงไม่มีใครออกมาบ่นละมั้งครับ นอกเสียจากว่ามันเป็นเรื่องของการตลาด
5.การที่ บริษัท ซื้อลิขสิทธิ์มาสักเรื่องหนึ่ง คงไม่ใช่เพียงเพราะเสียงเรียกร้องอย่างเดียว แต่เพราะมองเห็นว่ามันสามารถทำกำไรได้จึงซื้อมา ดังนั้นคำพูดประมาณว่า
"ซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาแล้ว จะเอาอะไรกันนักหนา" เนี่ย ผมว่ามันค่อนข้างไร้ความรับผิดชอบไปนะครับ
ตั้งแต่ต้นผมไม่ได้เรียกร้องให้ทำตามแบบต้นฉบับเป๊ะๆ ไม่เคยบอกให้จัดเต็ม ผมไม่เคยกล่าวอ้างถึงต้นฉบับของญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ผมบอกมาตั้งแต่ต้น (ถ้าคุณอ่านจับใจความได้) คือ
"สิ่งที่ควรจะมี และมีมาในทุกๆภาคทำไมถึงไม่มี คือบุ๊คเลทเป็นเล่ม และทำไม่แปลเป็นไทยให้อ่านรู้เรื่อง"
ผมเข้าใจคำว่าธุรกิจ นั่นคือ "เพื่อผลกำไรสูงสุด"
แต่
คุณก็ต้องเข้าใจลูกค้าด้วยว่า
"เราก็ต้องการของที่เหมาะสมกับเงินที่จ่ายไป" ด้วยนะครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกเพิ่มเติมจากคอมเม้นต่างๆ
การแปลข้อความเป็นภาษาไทยเนี่ย มันให้สินค้าดูดีกว่าของญี่ปุ่นเหรอครับ?
3.จากสมาชิกอีกท่านหนึ่ง ของบอร์ดอื่น
"แต่อ่านๆดูเหมือนคุณจะไม่เชื่อที่เค้าว่า "jp บังคับหรือไม่ให้ทำสินะครับ"
อยู่แวดวงนี้มานานทั้งมังกะ อนิเม ไลท์โนเวล ก็น่าจะรู้ได้นะครับว่า jp เค้าเยอะแค่ไหน
เคสความเยอะก็มีมาเรื่อยๆให้ศึกษาอยู่แล้ว"
จะบอกว่าไม่เชื่อ ก็คงจะไม่ใช่ละครับ เพราะก็อย่างที่ท่านว่าคือมันมีมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ
แต่อย่างที่บอกว่า เรื่อง Booklet ว่ามันเคยมีมากับ 2 ภาคแรก แต่กับภาคนี้ดันไม่มี มันดูแปลกไปมาก อีกทั้งเรื่อง ปก ทั้งๆที่ของ ตปท. อื่นนอกญี่ปุ่น สามารถทำได้ แต่เรากลับทำไม่ได้ (เฉพาะแค่ DVD) เหล่านี้มันเลยทำให้ผมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยครับ
5.จากความเห็นของ Admin ของ TIGA จากบอร์ดอื่น (RikoLover คือ Admin TIGA นะครับ)
ในส่วนนี้เป็นการโต้ตอบกันระหว่างผมกับ Admin ของ TIGA นะครับ เพื่อความสะดวกขออัพเป็นรูปนะครับ
สรุป
ก็อย่างที่ทาง TIGA ว่ามานะครับ ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางนั้นทำอย่างใจรักเต็มที่แล้ว
และข้อมูลต่างๆของแต่ละแผ่นว่าจะมีหรือไม่มีอะไร ก็ไม่สามารถแจ้งให้ทราบก่อนซื้อได้ เพราะฉะนั้นใครคาดหวังไว้ หรือ ตั้งใจจะซื้อสินค้าถูกลิขสิทธิ์ตัวไหน อย่าใช้เพียงความคุ้นเคยเดิมๆที่เคยใช้กับสินค้าอื่นๆ อย่างเช่นว่า
"ซื้อของแท้แล้ว น่าจะดูได้รู้เรื่อง ไม่ต้องรอค่ายซับ หรือดำน้ำ" และ "ซื้อภาคต่อเก็บไว้ เพื่อจะได้เก็บสะสมให้สวยครบชุด" หรือแม้กระทั่ง "ซื้อแผ่นแท้มาแล้ว ง่ายๆ ไม่มีปัญหาจุกจิกแน่ๆ"
ในการซื้อเพียงอย่างเดียวนะครับ ทางที่ดีที่สุด ดูรีวิวให้ดีเสียก่อน หรือถ้าจะเอาให้แน่ใจ ก็ต้องโทรไปสอบถามกับทาง บริษัท เอานะครับว่ามันมีปัญหาอะไรหรือขาดอะไรไปหรือไม่ และจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร
แล้วสุดท้าย ท่านค่อยควักเงินจ่ายออกไปนะครับ
และท้ายที่สุด ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการดูอนิเมนะครับ