mcot net สุดยอดข่าวเด่น ปี 2556


สุดยอดข่าวกีฬาเด่น ปี 2556 Thai PBS


เมย์ติด 1 ใน 8 Fox Sport Asia


ข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์ 'สุดคลิก' แห่งปี
(ขอคัดมาแต่แบดมินตันนะ)

อันดับ 1 "ฉาวโฉ่! แข่งนัดชิงแคนาดา นักแบดฯทีมชาติไล่ต่อยกัน "
สถิติยอดเข้าชม : 180,577


"ดังฉาวโฉ่ แบดไทย ไปมวยโลก  2 หัวโจก อาร์ต-เอ ฮอร์โมนพุ่ง  
ฝรั่งอึ้ง คนไทยซัด กันชุลมุน  นัดชิงฯวุ่น แข่งไม่จบ เลือดกบคอร์ต"

          น่าจะเป็นเหตุการณ์ฉาวสุดแห่งปีระดับโลก สำหรับ เหตุการณ์ 2 นักแบดอดีตคู่หูนรกแตก "อาร์ต" บดินทร์ อิสสระ กับ "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร ก่อเหตุชกต่อยกันในการขันแบดมินตัน แคนาดา โอเพ่น 2013 ที่เมืองริชมอนด์ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศ ชายคู่ โดย บดินทร์ จับคู่กับ ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ และ มณีพงศ์ คู่กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร โดยก่อนหน้านี้ ทั้ง บดินทร์ และ มณีพงศ์ มีเรื่องกินแหนงแคลงใจกันมา จนต้องโบกมือลา จับคู่กันมาแล้ว หลังจบศึกโอลิมปิกเกมส์ 2012 แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกนำพาให้ทั้งคู่มาพบกันในนัดชิงฯ ครั้งนี้ ซึ่งตลอดทั้งเกม ทั้งสองคนพยายามเล่นสงครามประสาท พูดจาท้าทาย ด่าทอกัน จนบดินทร์ ฟิวส์ขาด วิ่งไล่ชก มณีพงศ์ จนกระทั่งกลายเป็นข่าวดังสะเทือนขวัญไปทั่วโลกภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งจากเหตุการณ์วันนั้น บดินทร์ โดนโทษแบนจากสหพันธ์แบดมินตันโลก 2 ปี ขณะที่ มณีพงศ์ โดนแบน 3 เดือน


อันดับ 3 "ขนไก่ไทยกระหึ่ม !  'น้องเมย์'โค่นมือ 1 คว้าแชมป์แบดโลก"
สถิติยอดเข้าชม : 156,765


"มหัศจรรย์ สาวน้อย ซุปเปอร์เมย์  พาคนไทย ได้เฮ กันทั่วหน้า
สยบจีน นัดชิงฯ คว้าชัยมา  สุขนักหนา แบดไทย กระหึ่มโลก"

          วัน ที่ 11 สิงหาคม ปี พ.ศ.2556 โลกต้องจารึกเมื่อ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงขวัญใจชาวไทย สร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นนักแบดไทยคนแรกที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยว การแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ประเทศจีน หลังจากโค่นนักแบดเจ้าภาพ ดีกรีแชมป์โอลิมปิก และ มือ 1 ของโลกได้สำเร็จ ในรอบชิงชนะเลิศ และยังถูกจารึกอีกว่าเป็นแชมป์หญิงเดี่ยวที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 18 ปีอีกด้วย หลังจากที่เธอได้สร้างชื่อมาแล้ว จากการแข่งขันโอลิมปิกปี 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แม้ว่าจะทำได้ดีที่สุดในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ก็ชนะใจคนดู หลังจากนั้น สาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ ก็ได้ได้มีโอกาสไปฝึกปรือฝีมือกับสโมสรอาชีพในจีน จนกระทั่งพัฒนาการเล่น และกลับมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ที่มา www.thairath.co.th/sport
หมายเหตุ : สถิติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2556


" ปรากฏการณ์แบดมินตันไทย "

          ปี 2556 นับเป็นปีทองแห่งวงการแบดมินตันบ้านเราอย่างแท้จริง หลังจากทัพนักตบลูกขนไก่ไทยเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จแบบเป็นกอบเป็นกำ ชนิดที่โลกต้องหันกลับมามองด้วยความชื่นชม
        
          ทีมแบดมินตันทีมชาติไทยชุดปัจจุบันนับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างตัวเก๋าที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันกว่า 10 ปี รวมถึงดาวรุ่งหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของโลกอย่างต่อเนื่องจนทำให้มหาอำนาจอย่าง จีน , อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้ รวมถึงญี่ปุ่นต้องคอยเฝ้าระวัง

      
          ทางฝั่งชายเดี่ยว แกนหลักยังคงเป็น "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ ซึ่งเคยสร้างชื่อด้วยการคว้าอันดับที่ 4 โอลิมปิก 2004 ที่ เอเธนส์ จนทำให้เกิดกระแสแบดมินตันฟีเว่อร์ขึ้นมาในเวลานั้น ในวัย 31 ปี บุญศักดิ์ ยังคงรักษาสถานะในท็อปเทนของโลกอย่างเหนียวแน่น ทั้งยังผ่านการคัดเลือกเป็นหนึ่งในนักตบ 1 ใน 8 ที่ผ่านเข้าไปเล่นรายการส่งท้ายที่มาเลเซีย โดยผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ แมน ในปีนี้ คือตำแหน่งรองแชมป์ สิงคโปร์ โอเพ่น

          ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น "ซูเปอร์แมน" ปรับสไตล์หันมาเน้นเกมรุก ปิดแต้มให้เร็วเพื่อเซฟพลังงาน โดยล่าสุดได้หันมาใช้แร็กเก็ตรุ่นใหม่ "วิลสัน ฟอร์ซ" เพื้อช่วยในการตบที่เด็ดขาด และนั่นทำให้นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 1 ของไทยเชื่อมั่นว่าตนเองจะยืนระยะไปจนถึงการแข่งขัน โอลิมปิก 2016 ที่ บราซิล เลยทีเดียว

          “ ในเวลานี้ร่างกายถือว่าสมบูรณ์ดี หลังจากปรับจังหวะการเล่นก็เชื่อว่าจะยืนระยะได้อีกหนึ่งปีเป็นอย่างน้อย ส่วนเรื่องของอาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่คาดคะเนได้ยาก หวังว่าผมจะโชคดีและจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อให้ตนเองมีโอกาสรับใช้ชาติอีกครั้งในโอลิมปิกที่บราซิลในปี 2016 ”  บุญศักดิ์ กล่าว

          นอกเหนือจากมือ 1 มากประสบการณ์อย่างบุญศักดิ์แล้ว ทางฝั่งชายเดี่ยวของไทยยังมี ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข จอมตบร่างบาง พัฒนาฝีมือขึ้นมาจนสามารถจบฤดูกาลในอันดับที่ 12 ของโลกโดยเฉพาะในรายการเก่าแก่อย่างออลอิงแลนด์แชมเปี้ยนชิพ "เจ้าสอง" ระเบิดฟอร์มทะลุถึงรอบตัดเชือก ก่อนปราชัยให้กับ หลี่ชองเหว่ย มือ 1 ของโลกจากมาเลเซีย ชนิดที่เกมแรกเบียดกันถึงแต้มดิวส์
    
          ฟอร์มการเล่นระดับอาชีพที่พัฒนาขึ้น นำมาซึ่งความมั่นใจเต็มเปี่ยม และนั่นทำให้ ทนงศักดิ์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว่ำคู่แข่งจากแดนอิเหนา คว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27 มาครองได้อย่างสะใจคนไทย เพราะนี่คือเหรียญทองแบดมินตันชายเดี่ยวเหรียญแรกของทัพนักกีฬาสยามนับตั้งแต่ปี 1975

          
          ขณะที่ผลงานของนักกีฬาประเภทคู่ผสม อดีตคู่มือ 1 ของโลก อย่าง สุดเขต ประภากมล และ สราลีย์ ทุ่งทองคำ จบฤดูกาลในท็อปเทนอีกหนึ่งหน ขณะที่คู่ขวัญคู่ใหม่ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ มณีพงศ์ จงจิตร คว้าเหรียญเงินในซีเกมส์ หลังจากแพ้ให้กับเต็งหนึ่งจากอินโดนีเซียอย่างเฉียดฉิว

          ข้ามมาทางฝ่ายหญิง นับได้ว่าเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการเมื่อมีนักกีฬาประเภทเดี่ยวถึง 5 รายติดอยู่ในท็อป 25 ของโลก นำโดย รัชนก อินทนนท์, บุศนันท์ อึ้งบำรุงพันธ์, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, ณิชชาอร จินดาพล และ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ที่สามารถคว้ารองแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ถึงรายการในปีนี้ ส่วนประเภทหญิงคู่  ดวงอนงค์ อรุณเกษร และ กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล ยึดพื้นที่ในท็อปเทนเช่นเดียวกัน

          ผลงานการคว้าแชมป์โลกของ "น้องเมย์" รัชนก นั้นได้สร้างกระแส "เมย์ฟีเว่อร์" นับตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จนทำให้แบดมินตันกลายเป็นกีฬามหาชน, ผลิตภัณฑ์แบดมินตันยอดขายพุ่งเกือบทุกยี่ห้อ รวมถึงข่าวแบดมินตันที่สามารถยึดพื้นที่ในหน้าสื่อเอาไว้ได้เกือบทุกวัน
      
          ผลงานของ รัชนก อาจจะดร็อปลงไปในช่วงท้ายฤดูกาล ส่วนหนึ่งมาจากอาการบาดเจ็บที่หลัง แต่ในเวลานี้ "น้องเมย์" หายดีแล้ว และพร้อมกลับมาสู้ต่อในฤดูกาล 2014 ที่กำลังจะมาถึง เพื่อเป้าหมายในการขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก รวมถึงการลุ้นคว้าเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า



           “อาการบาดเจ็บของเมย์หายดีแล้ว เวลานี้กำลังเตรียมพร้อมเพื่อลงแข่งขันที่เกาหลีใต้ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งส่วนตัวตั้งความหวังว่าจะออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ให้ดี เพื่อลุ้นขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกให้ได้ เพราะในเวลานี้นักกีฬาอันดับ 1 ถึง 10 มีฝีมือสูสีกันมาก ส่วนอันดับ 1-3 ของโลกมีคะแนนห่างกันไม่มากนัก” รัชนก กล่าวด้วยความมั่นใจ

          ปี 2013 นับเป็นฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลงของวงการแบดมินตันไทย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งแชมป์โลกหญิงของน้องเมย์, เหรียญทองชายเดี่ยวซีเกมส์ของเจ้าสอง รวมถึงการเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯคนใหม่ของ คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล พร้อมคำมั่นสัญญาในการเดินหน้าประสานรอยร้าวที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยความหวังว่าสมาคมแบดมินตันฯ จะสามารถร่วมมือกับนักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช รวมถึงสโมสรชั้นนำ ในการเดินหน้าผลิต "กองทัพแบดมินตันไทย" ที่พร้อมจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเดินทางไปสร้างชื่อ ชูธงไทยให้โบกสะบัดเหนือคู่แข่งอีกครั้ง ในอนาคต

www.newsplus.co.th  19-12-2013