คุณมีวิธีปฏิเสธการถูกเซ้าซี้ให้ซื้อของอย่างไรให้นุ่มนวลที่สุด

กระทู้คำถาม
ตรงนี้มันยาว ข้ามๆ ไปตอบเลยก็ได้หากใครขี้เกียจอ่าน
แต่สำหรับใครที่กรุณาอ่านก็ขอขอบคุณมาก
ถือว่าคุณสามารถลบคำสบประมาทที่เขาว่าเอาไว้ว่า
"คนไทยปีหนึ่งอ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด"
ไม่ได้ว่าอะไรแต่หวังไวเยอะ อุอุ



วันนี้เพิ่งเจอมาเมื่อตอนบ่าย
ถึงมันจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเก็บเอามาสนใจมากสักเท่าไหร่
แต่มันก็ทำให้ดิฉันนั่งคิดวนไปวนมาจนถึงตอนนี้ ว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
เงินเป็นสิ่งที่เขาอยากได้มากขนาดนั้นเลยหรอ ทั้งที่ฐานะเขาก็น่าจะใช้คำว่า "จน" ได้

เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ตอนบ่ายไปธนาคารเลยแวะเดินตลาดหาซื้อถุงเท้าให้ยาย
บังเอิญเดินผ่านร้านขายรองเท้า (ภรรยา)เจ้าของร้านเรียกแวะให้เข้าไปดู
ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานมากเลยแวะเข้าไปดูให้เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจตามมารยาท
ลองหยิบๆ ดูรองเท้าไม่คิดว่าจะซื้อหรอก ถามเจ้าของร้าน "พี่คะมีเบอร์เล็กกว่านี้ไหมคะ"
ภรรยาเจ้าของร้านบอกไม่มี ว่าจะเดินหนีแร่ะ แต่ผู้ชายเจ้าของร้านรีบวิ่งไปดูของหลังร้าน
เขาพูดดีมากเขาพยายามจะพูดเชิญชวนให้เราซื้อให้ได้
จนเราเริ่มคล้อยตามและรู้สึกอึดอัดไปในคราวเดียวกัน

พอเจ้าของร้านผู้ชายออกมาจากหลังร้านบอกว่าไม่มีของ เรารุ้สึกโล่งอกและสบายใจ (นึกในใจรอดแล้วตู!!)
แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เจ้าของร้านผู้ชายบอกเดี๋ยวดูร้านน้องชายให้ (ห๊าาา..ยังมีร้านน้องชายอีก เริ่มปาดเหงื่อ)
ปรากฏว่าร้านข้างๆ ก็ไม่มีของ (โอ จะรอดจริงๆ แล้วสินะตู) ไม่พอค่ะ พอของแบบที่เราถามในตอนแรกไม่มี
เจ้าของร้านยังจะยัดเยียดอันใหม่ให้บอกว่าคิดให้ในราคาพิเศษลด 40%
(วินาทีนี้จะลดให้ 80% ตูก็ไม่ซื้อ) เลยบอกไปพี่คะไว้โอกาสหน้านะคะ ไว้วันหลังแวะมาซื้อใหม่
ก็ยังดึงดันจะให้ซื้อให้ได้เลยบอกไปว่า

จขกท: ::::::หนูมีร้อยนึงพี่ขายให้หนูไหมราคานี้ (ล้วงเงินออกจากกระเป๋าเสื้อ)
เจ้าของร้านดึงเงินไป (ใช้คำว่า "ดึง" เงิน)  
เจ้าของร้าน:::::: เอ้าพี่คิดร้อยเก้าๆ พิเศษเลย รับปีใหม่
จขกท: ::::::::หนูไม่มีแล้ว มีแค่นั้นละ
เจ้าของร้าน:::::: เอ้าๆๆๆ ใส่ถุงๆ (ยื่นรองเท้าคู่นั้นให้ภรรยา (สภาพรองเท้าเยินมาก))

เราเริ่มรู้สึกถูกคุกคามอย่างรุนแรง เลยดึงเงินคืนแล้วบอกว่าไว้โอกาสหน้าจะมาซื้อใหม่
เจ้าของร้านไม่รู้ชาติที่แล้วทำบุญมาด้วยอะไร ความพยายามถึงได้รุนแรงขนาดนี้
เจ้าของร้าน::::::::: รึว่ายังไม่ได้ลอง ลองได้ๆ (แกะถุงร้องเท้า(คิดว่าน่าจะเป็นรองเท้ามือสอง))
จขกท:::::::::::: พี่คะหนูยังมีสิทธิ์เลือกใช่ไหมคะ ในเมื่อนี่เป็นของที่หนูไม่อยากได้พี่ยังจะยัดเยียดให้หนูอีกหรอคะ
(ขอโทษตูเป็นคนไม่กลัวคนนะคะ เจ้าของร้านก็สวนกลับมาเริ่มมีอารมณ์ - -!)
เจ้าของร้าน::::::::::: คุณมีสิทธิ์เลือกนี่ไงน้อง(ข้างร้าน)อุตส่าห์หามาให้เดี๋ยวเค้าเสียใจ ผมไม่ได้ข่มขื่นคุณนะ
จขกท::::::: แล้วที่พี่ยัดเยียดของให้หนูพี่ไม่คิดจะแคร์หนูในฐานะที่เป็นลูกค้าเลยหรอคะ
ของที่ลูกค้าไม่ชอบพี่จะยัดเยียดให้ทำไมหนูไม่ซื้อค่ะ
เจ้าของร้าน:::::::::::::: งั้นหนูไปเลยนะ มาทำอย่างนี้เสียความรู้สึก หนูไปเลย (น่าจะเป็นคำพูดของหนูมากกว่าอ่ะน้า)
จขกท: ::::::::หนูรอคำนี้มานานแล้ว (เดินหนีออกจากร้าน)
เจ้าของร้านเศร้าตะโกน อ้อมแอ้ม) :::::::ขอให้หนูเจออย่างสิ่งที่หนูทำ (คืออัลไล ฉันทำอัลลไลผิด)
จขกท: ::::::::::::หนูก็หวังไว้อย่างนั้นค่ะ

บอกตามตรงว่าเราเสียความรู้สึกกับพ่อค้ามาก
ยอมรับว่าการให้บริการของเขา(เกือบ)ดีนะ
ในส่วนของการเทคแคร์ตอนลูกค้าเลือกของ
เขาแนะนำดี แต่มาเสียก็ตรงชอบยัดเยียดของนี้ล่ะ
ไม่รู้อยากจะขายมากไปหรือว่าอย่างไร
---------------------------------------------------------------------------------------*
สรุปเลยไม่ได้ถุงเท้าให้ยายเพราะไม่กล้าทำใจแวะร้านไหนได้อีกเลย
แม้แต่ร้านคุณยายที่ขายขนมปกติจะอุดหนุนประจำเวลาเดินผ่าน
ณ ขณะนั้นเสียความรู้สึกจนเขวรีบเดินไปขึ้นรถแล้วนั่งคิด...


เฮ้อ ตอนนี้สบายใจแล้วได้เขียนระบายเม่าผิงไฟ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่