เนื่องจากผมต้องทำงานที่ต้องแต่งหน้าทุกๆ วัน ส่งผลทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบเป็นประจำ แม้จะพยายามล้างหน้าให้สะอาดแล้ว ทั้งคลีนซิ่ง ทั้งโทนเนอร์ แต่ก็ยังเป็นสิวอุดตันอยู่ดี แต่ก็น้อยลงกว้าก่อนที่จะใช้คลีนซิ่งและโทนเนอร์ พอดีเดือนที่ผ่านมามีคนแนะนำให้ใช้ Benzac 5% + ratin-A 0.025 ผลปรากฎว่า สิวยุบ หน้าเนียนใส สิวไม่เห่อเลย แต่หลังๆ มา จากหน้าใสๆ เริ่มมีสิวอุดตันและอักเสบขึ้น ตอนแรกเข้าใจว่าจะเป็นการออกฤทธิ์ของ ratin-A แต่ก็แอบสงสัยว่าใช้มาเดือนหนึ่งไม่เห่อ มาเห่ออะไรเดือนที่ 2 ผมก็เลยอนุมานเอาเองว่าสงสัยเป็นเพราะ การแต่งหน้าและล้างหน้าไม่สะอาด ประจวบกับ ratin-a หมด ผมเลยเดินไปซื้อหลอดใหม่ ปรากฏว่า เภสัชแนะนำให้ผมใช้ 0.05% เพราะ ผมมีสิวอุดตันเยอะและผิวหน้ามัน ก็เลยซื้มาตามคำแนะนำหมอ ผลปรากฎว่า ทาคืนเดียวในปริมาณที่น้อยลงกว่า 0.025 ตื่นเช้ามา สิวขึ้น 10 กว่าเม็ดและหน้าคล้ำมากๆ ทั้งๆ ที่ทาปุ๊บ นอนปั๊บ เหมือนกับ 0.025 ผมลองใช้มา 3 วัน โอ้.. หนาดำมากๆ ครีมกันแดด Smooth E physical SPF 52 ก็เอาไม่อยู่ ผมจึงตัดสินใจไปร้านขายยาอีกรอบ เภสัชอีกท่านกลับแนะนำให้ใช้ differin 0.1% เพราะ ไวต่อแสงน้อยกว่า ผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่ได้ผลเทียบเท่า ratin-a ก็เลยจัดมา แต่แอบงงตรงที่เภสัชแนะนำคือ สามารถทาได้ทั้งกลางวัน กลางคืน โดยไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้
ซึ่งบอกตามตรง ผมเคยชินกับ ratin-a ที่ต้องเอาไดร์เป่าๆ ให้หน้าแห้ง และ รอประมาณ 30 นาทีถึงทา และ ทาปุ๊บ นอนปั๊บ โบกครีมกันแดดซะหนา จึงขอถามพี่ๆ ห้องเครื่องแป้งหน้อยครับ ว่าเจ้า differin มันต่างกับ ratin-a มากน้อยแค่ไหน และdifferin ทาได้ทั้งกลางวัน กลางคืนจริงไหมตามที่เภสัชแนะนำ ส่วนกันแดดผมคงโบกต่อไป ไม่ฟังคุณหมอแน่ๆ ครับ
สอบถามการใช้งาน diferrin 0.1%หน่อยครับ
ซึ่งบอกตามตรง ผมเคยชินกับ ratin-a ที่ต้องเอาไดร์เป่าๆ ให้หน้าแห้ง และ รอประมาณ 30 นาทีถึงทา และ ทาปุ๊บ นอนปั๊บ โบกครีมกันแดดซะหนา จึงขอถามพี่ๆ ห้องเครื่องแป้งหน้อยครับ ว่าเจ้า differin มันต่างกับ ratin-a มากน้อยแค่ไหน และdifferin ทาได้ทั้งกลางวัน กลางคืนจริงไหมตามที่เภสัชแนะนำ ส่วนกันแดดผมคงโบกต่อไป ไม่ฟังคุณหมอแน่ๆ ครับ