ครั้งแรกของการตั้งกระทู้ หลังจากแอบซุ่มอยู่นานตั้งแต่ ม.6 จนตอนนี้เป็นเด็กปี4 แล้ว เพิ่งกล้า แหะๆ
กระทู้แรก ขอเริ่มด้วยการเดินทาง ไปยังภูชี้ฟ้าและผาตั้ง ซึ่ง ผู้ร่วมเดินทางของเราทั้งหมดุ6คน เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเชียงราย อยู่ กิน เที่ยว ในเชียงราย มาจนจะจบยังไม่เคยมีใครเคยขึ้นดอย ที่มีชื่อเสียงของเชียงราย เลย จึงเกิดการเดินทางนี้ขึ้น
เราเดินทางกันวันศุกร์เนื่องจากทุกคนมีวันหยุดตรงกัน เราเลือกไปก่อนเทศกาลประมาณต้นเดือนธันวาเพราะคนจะได้ไม่เยอะ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งหลังกะบะเฮฮากันไปแต่เนื่องจากเราเป็นผู้หญิง จึงมีของกระจุกกระจิก สรุปของเต็ม กะบะเต็ม การโอน้อยออกจึงบังเกิด จขกท และเพื่อนอีก2คน โอน้อยแพ้ จึงต้องหกระเหินไปนั่งอัดกับสัมพาระ ของตัวเองหลังกะบะ
เราออกเดินทางกันจากหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เดินทางไปเข้าตัวเมือง เชียงราย และแยกออกไปทาง กิ่งอำเภอภูซางจังหวัดพะเยา และสถานที่แรกที่เราแวะ กัน น้ำตกภูซาง
น้ำตกน้ำอุ่นแห่งเดียวในประเทศไทย Wow !
ไปถึงน้ำตกมีนักท่องเที่ยวสามสี่คันบางคันเพิ่งลงจากภูชีฟ้า แวะมา บางคัน กำลังจะไปเจอพวกเราบนภู มีการทักทายกันนิดหน่อยตามประสาเด็กน้อยผู้คึกคะนองอย่างเรา โห๊ะๆ
ทริปนี้ เราถ่ายกันแต่รูปตัวเอง ไม่ค่อยมีวิวทิวทัศน์เท่าไหร่ แถมเป็นรูปจากกล้องไอโฟนธรรมดา รูปไม่สวยมากแต่วิวสวยมาก
แวะถ่ายรูปขยับเปลี่ยนท่ากันนิดหน่อย หลับไปสามสี่ตื่น เราขับรถผ่านสวนสตอเบอรรี่ ระหว่างทาง เนื่องด้วยความหิว เราจึงจอด สอบถามป้าเจ้าของสวน ป้าแกบอกโลละ 200 เก็บเอาเลย เสร็จสิค่ะป้า เราทั้งกลุ่มกระโจนเข้าสวนเก็บสตอเบอรรี่กันอย่างเมามันส์ เก็บกินบ้างใส่ตะกร้าบ้าง ป้าแกก้ใจดี ไม่บ่นไม่ว่าสักคำ แถมป้าแกยังแซวอีกว่า "ป้าจะไม่ชั่งน้ำหนักสตอเบอรรี่แล้ว ชั่งน้ำหนักคนดีกว่า" อุ๊ปป้าขาา
ด้วยความเกรงใจและเกรงเงินว่าจะหมดไปหลายโล เราจึงเอาไปชั่ง ปรากฏว่า ที่เราเก็บกันตั้งนานจนอิ่ม ได้แค่โลเดียว เรียบร้อย สตอเบอรรี่บุพเพ่ อิ่มละ 200
หลังจากอิ่มหนำกับสตอเบอรรี่ เรียบร้อยเราก้มุ่งหน้าต่อเพื่อหาสถานที่กางเต้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก้เกิดขึ้น ฝนตกค่ะ แม่เจ้า แต่ฝนตกไม่เยอะนะค่ะแค่โปรยๆ ตามตารางที่เราตกลงกันไว้ เราจะกางเต้นท์กันก่อน แล้วค่อยทำกับข้าวกันพอฝนตกเราเปลี่ยนแผนทันที เราก่อไฟค่ะท่านผู้ชม เราก่อไฟก่อเนื่องจากฝนและหนาวปะทะกับร่างกายเราทำให้เราไม่สามารถกางเต้นท์ได้จริงๆ หลังจากปิ้งย่างกินกันอิ่มสำราญพร้อมความหนาวและความเปียก เราก้เริ่มสำนึกได้ว่าต้องการเต้นท์ เรากางทีละหลังๆ และเข้านอนตอน บ่าย4 โมงเย็น ซึ่งสภาพอากาศทรยศเวลาเหลือเกิน 4โมงเย็นเหมือน ตี4เลย
เรานอนกันเอาแรงเพื่อตื่นตอนเช้าไปดูพระอาทิตขึ้นบนยอดภู ไม่ใช่ว่าเพลียอะไรมากมายแต่มันหนาวจนไม่อยากออกจากเต้นท์ อิอิ
เช้าวันเสาร์ เราเดินทางขึ้นภู เพื่อทำแบบที่นักท่องเที่ยวเค้ากันนั้นก้คือการนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอยภูเราตื่นกันตี5 หน้าตางัวเงีย แต่ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นภูมีเด็กน้อยแต่งตัวน่ารักแก้มแดงๆ ยืนร้องเพลง เต้น สวัสดี หน้าตายิ้มแย้ม พวกเราไม่ร็ว่าน้องตื่นกันตั้งแต่กี่โมงแต่หน้าน้องดูสดชื่นมาก เราก้ไม่น้อยหน้าค่ะ เอามั่งยิ้มมม
เรียบร้อยค่ะ คนละ 10บาท 20บาท จนมาถึงยอดภูแบบไม่รู้สึกเหนื่อย
เรานั่งคอยพระอาทิตย์กับกลุ่มนักท่องเที่ยวอีก 2กลุ่ม ที่มีจุดหมายแบบเดียวกัน รอแล้วรอเล่า ผ่านไป หลายร้อยรูปทุกมุมบนยอดภู พระอาทิตย์ก้ยังไม่ตื่น สงสัยเพราะ เมื่อวานฝนตกเราเรยอดดูแต่เราไม่ถือว่าแห้วนะค่ะ แต่เดินขึ้นมาถึง เดินยิ้มร้องเพลง หัวเราะ ถ่ายรูป เราก้คุ้มแล้วค่ะ
ลงมาจากภู เราก้นอนกันต่อ จนเกือบเที่ยงเราจึงออกเดินทางไปยังผาตั้งง
ไม่ไกลมากเราก้มาถึง ที่นี่หนาวพอๆกับภูชี้ฟ้าแต่ออกจะหนาวน้อยกว่าเพราะภูชี้ฟ้ามีทั้งลมทั้งหมอกทั้งหนาว แต่ที่นี่มีแต่ความหนาวกับหมอก
เรากางเต้นกันเรียบร้อยจึงเดินออกสำรวจพื้นที่
และเราก้จบทริปกันด้วยคืนสุดท้ายที่ผาตั้ง เรามีปาร์ตี้กันนิดหน่อย เพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องเดินทางกลับ ไปเรียนต่อ ปีหน้าพวกเราก้จะต้องแยกย้ายกันไปทำงาน หวังว่าเราจะมีเวลาตรงกันและได้มาเที่ยวด้วยกันอีก ภูชี้ฟ้า+ผาตั้ง จะเป็นโปรแกรมแรกที่เราคิดถึง
#thx ขอบคุณป้าเจ้าของสวนสตอเบอรี่ ขอบคุณคนขับรถที่ขับรถพาเราเที่ยวอย่างปลอดภัย ขอบคุณแม่ค้าทุกร้านที่ให้เราชิมไวน์ ขอบคุณนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มที่พูดคุยหยอกล้อกับเราอย่างใจดี ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปของเาทุกคนที่เดินทางมาหนาวด้วยกัน และขอบคุณธรรมชาตที่สร้างภูชี้ฟ้าและผาตั้งให้เราได้เที่ยว
[CR] เด็กน้อยแอ่วดอย ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง
กระทู้แรก ขอเริ่มด้วยการเดินทาง ไปยังภูชี้ฟ้าและผาตั้ง ซึ่ง ผู้ร่วมเดินทางของเราทั้งหมดุ6คน เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเชียงราย อยู่ กิน เที่ยว ในเชียงราย มาจนจะจบยังไม่เคยมีใครเคยขึ้นดอย ที่มีชื่อเสียงของเชียงราย เลย จึงเกิดการเดินทางนี้ขึ้น
เราเดินทางกันวันศุกร์เนื่องจากทุกคนมีวันหยุดตรงกัน เราเลือกไปก่อนเทศกาลประมาณต้นเดือนธันวาเพราะคนจะได้ไม่เยอะ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งหลังกะบะเฮฮากันไปแต่เนื่องจากเราเป็นผู้หญิง จึงมีของกระจุกกระจิก สรุปของเต็ม กะบะเต็ม การโอน้อยออกจึงบังเกิด จขกท และเพื่อนอีก2คน โอน้อยแพ้ จึงต้องหกระเหินไปนั่งอัดกับสัมพาระ ของตัวเองหลังกะบะ
เราออกเดินทางกันจากหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เดินทางไปเข้าตัวเมือง เชียงราย และแยกออกไปทาง กิ่งอำเภอภูซางจังหวัดพะเยา และสถานที่แรกที่เราแวะ กัน น้ำตกภูซาง
น้ำตกน้ำอุ่นแห่งเดียวในประเทศไทย Wow !
ไปถึงน้ำตกมีนักท่องเที่ยวสามสี่คันบางคันเพิ่งลงจากภูชีฟ้า แวะมา บางคัน กำลังจะไปเจอพวกเราบนภู มีการทักทายกันนิดหน่อยตามประสาเด็กน้อยผู้คึกคะนองอย่างเรา โห๊ะๆ
ทริปนี้ เราถ่ายกันแต่รูปตัวเอง ไม่ค่อยมีวิวทิวทัศน์เท่าไหร่ แถมเป็นรูปจากกล้องไอโฟนธรรมดา รูปไม่สวยมากแต่วิวสวยมาก
แวะถ่ายรูปขยับเปลี่ยนท่ากันนิดหน่อย หลับไปสามสี่ตื่น เราขับรถผ่านสวนสตอเบอรรี่ ระหว่างทาง เนื่องด้วยความหิว เราจึงจอด สอบถามป้าเจ้าของสวน ป้าแกบอกโลละ 200 เก็บเอาเลย เสร็จสิค่ะป้า เราทั้งกลุ่มกระโจนเข้าสวนเก็บสตอเบอรรี่กันอย่างเมามันส์ เก็บกินบ้างใส่ตะกร้าบ้าง ป้าแกก้ใจดี ไม่บ่นไม่ว่าสักคำ แถมป้าแกยังแซวอีกว่า "ป้าจะไม่ชั่งน้ำหนักสตอเบอรรี่แล้ว ชั่งน้ำหนักคนดีกว่า" อุ๊ปป้าขาา
ด้วยความเกรงใจและเกรงเงินว่าจะหมดไปหลายโล เราจึงเอาไปชั่ง ปรากฏว่า ที่เราเก็บกันตั้งนานจนอิ่ม ได้แค่โลเดียว เรียบร้อย สตอเบอรรี่บุพเพ่ อิ่มละ 200
หลังจากอิ่มหนำกับสตอเบอรรี่ เรียบร้อยเราก้มุ่งหน้าต่อเพื่อหาสถานที่กางเต้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก้เกิดขึ้น ฝนตกค่ะ แม่เจ้า แต่ฝนตกไม่เยอะนะค่ะแค่โปรยๆ ตามตารางที่เราตกลงกันไว้ เราจะกางเต้นท์กันก่อน แล้วค่อยทำกับข้าวกันพอฝนตกเราเปลี่ยนแผนทันที เราก่อไฟค่ะท่านผู้ชม เราก่อไฟก่อเนื่องจากฝนและหนาวปะทะกับร่างกายเราทำให้เราไม่สามารถกางเต้นท์ได้จริงๆ หลังจากปิ้งย่างกินกันอิ่มสำราญพร้อมความหนาวและความเปียก เราก้เริ่มสำนึกได้ว่าต้องการเต้นท์ เรากางทีละหลังๆ และเข้านอนตอน บ่าย4 โมงเย็น ซึ่งสภาพอากาศทรยศเวลาเหลือเกิน 4โมงเย็นเหมือน ตี4เลย
เรานอนกันเอาแรงเพื่อตื่นตอนเช้าไปดูพระอาทิตขึ้นบนยอดภู ไม่ใช่ว่าเพลียอะไรมากมายแต่มันหนาวจนไม่อยากออกจากเต้นท์ อิอิ
เช้าวันเสาร์ เราเดินทางขึ้นภู เพื่อทำแบบที่นักท่องเที่ยวเค้ากันนั้นก้คือการนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอยภูเราตื่นกันตี5 หน้าตางัวเงีย แต่ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นภูมีเด็กน้อยแต่งตัวน่ารักแก้มแดงๆ ยืนร้องเพลง เต้น สวัสดี หน้าตายิ้มแย้ม พวกเราไม่ร็ว่าน้องตื่นกันตั้งแต่กี่โมงแต่หน้าน้องดูสดชื่นมาก เราก้ไม่น้อยหน้าค่ะ เอามั่งยิ้มมม
เรียบร้อยค่ะ คนละ 10บาท 20บาท จนมาถึงยอดภูแบบไม่รู้สึกเหนื่อย
เรานั่งคอยพระอาทิตย์กับกลุ่มนักท่องเที่ยวอีก 2กลุ่ม ที่มีจุดหมายแบบเดียวกัน รอแล้วรอเล่า ผ่านไป หลายร้อยรูปทุกมุมบนยอดภู พระอาทิตย์ก้ยังไม่ตื่น สงสัยเพราะ เมื่อวานฝนตกเราเรยอดดูแต่เราไม่ถือว่าแห้วนะค่ะ แต่เดินขึ้นมาถึง เดินยิ้มร้องเพลง หัวเราะ ถ่ายรูป เราก้คุ้มแล้วค่ะ
ลงมาจากภู เราก้นอนกันต่อ จนเกือบเที่ยงเราจึงออกเดินทางไปยังผาตั้งง
ไม่ไกลมากเราก้มาถึง ที่นี่หนาวพอๆกับภูชี้ฟ้าแต่ออกจะหนาวน้อยกว่าเพราะภูชี้ฟ้ามีทั้งลมทั้งหมอกทั้งหนาว แต่ที่นี่มีแต่ความหนาวกับหมอก
เรากางเต้นกันเรียบร้อยจึงเดินออกสำรวจพื้นที่
และเราก้จบทริปกันด้วยคืนสุดท้ายที่ผาตั้ง เรามีปาร์ตี้กันนิดหน่อย เพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องเดินทางกลับ ไปเรียนต่อ ปีหน้าพวกเราก้จะต้องแยกย้ายกันไปทำงาน หวังว่าเราจะมีเวลาตรงกันและได้มาเที่ยวด้วยกันอีก ภูชี้ฟ้า+ผาตั้ง จะเป็นโปรแกรมแรกที่เราคิดถึง
#thx ขอบคุณป้าเจ้าของสวนสตอเบอรี่ ขอบคุณคนขับรถที่ขับรถพาเราเที่ยวอย่างปลอดภัย ขอบคุณแม่ค้าทุกร้านที่ให้เราชิมไวน์ ขอบคุณนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มที่พูดคุยหยอกล้อกับเราอย่างใจดี ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปของเาทุกคนที่เดินทางมาหนาวด้วยกัน และขอบคุณธรรมชาตที่สร้างภูชี้ฟ้าและผาตั้งให้เราได้เที่ยว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น