คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ที่จริงคิดเหมือน จ.ข.ก.ท เลยค่ะ
ปีที่แล้วเพิ่งจัดงานศพคุณยายไป หมดไปเยอะมากกับค่าจัดงาน ...สำหรับเราตอนทำให้ยายเราไม่ได้คิดหรอกค่ะ เราคิดว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำให้ทานได้
แต่พอเสร็จงานก็มานั่งคิดถึงตัวเองว่า ถ้าเราตายไปแล้ว เราเองไม่อยากให้คนข้างหลังต้องมาสิ้นเปลืองกับเรื่องพวกนี้เลย ไหนจะค่าโลง ค่าเช่าศาลา ค่าสัปเหร่อ ชุดถวายพระ(จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร) เวลาพระสวดเสร็จ ต้องซื้อถวายทุกวัน ค่าดอกไม้ ค่าอาหาร น้ำ ฯลฯ
ถึงแม้จะมีเงินสามารถทำได้แต่พอมองถึงเม็ดเงินแล้วมันไม่น้อยเลย ...น่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างนะ เลยคิดว่าถ้าตัวเองตายคงขอให้ที่บ้านจัดงานให้เงียบและเรียบง่ายที่สุด
แต่จะตายแล้วเผาเลยมันก็ดูแปลกๆ นะคะ ... ที่ทำได้ก็คือเก็บเงินหรือทำประกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ (บางที่มีสหกรณ์ออมเงินไว้ทำศพโดยเฉพาะด้วย)
ส่วนเรื่องแต่งงานเราไม่คิดค่ะ เพราะเห็นตัวอย่างมาแล้วหลายราย กลัวค่ะ ....และฟังพี่โน๊ตมาก็คิดเห็นแบบนั้นค่ะ ฮาด้วย ^0^
ปีที่แล้วเพิ่งจัดงานศพคุณยายไป หมดไปเยอะมากกับค่าจัดงาน ...สำหรับเราตอนทำให้ยายเราไม่ได้คิดหรอกค่ะ เราคิดว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำให้ทานได้
แต่พอเสร็จงานก็มานั่งคิดถึงตัวเองว่า ถ้าเราตายไปแล้ว เราเองไม่อยากให้คนข้างหลังต้องมาสิ้นเปลืองกับเรื่องพวกนี้เลย ไหนจะค่าโลง ค่าเช่าศาลา ค่าสัปเหร่อ ชุดถวายพระ(จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร) เวลาพระสวดเสร็จ ต้องซื้อถวายทุกวัน ค่าดอกไม้ ค่าอาหาร น้ำ ฯลฯ
ถึงแม้จะมีเงินสามารถทำได้แต่พอมองถึงเม็ดเงินแล้วมันไม่น้อยเลย ...น่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างนะ เลยคิดว่าถ้าตัวเองตายคงขอให้ที่บ้านจัดงานให้เงียบและเรียบง่ายที่สุด
แต่จะตายแล้วเผาเลยมันก็ดูแปลกๆ นะคะ ... ที่ทำได้ก็คือเก็บเงินหรือทำประกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้ (บางที่มีสหกรณ์ออมเงินไว้ทำศพโดยเฉพาะด้วย)
ส่วนเรื่องแต่งงานเราไม่คิดค่ะ เพราะเห็นตัวอย่างมาแล้วหลายราย กลัวค่ะ ....และฟังพี่โน๊ตมาก็คิดเห็นแบบนั้นค่ะ ฮาด้วย ^0^
แสดงความคิดเห็น
ท่านคิดอย่างไรกับ งานมงคล และ งานอวมงคล
เมื่อหลายปีก่อนและถึงบัดนี้ ผมเห็น งานศพ งานแต่ง งานบวช ของญาติ หรือเพื่อนพ้องพี่น้องต่างๆ จัดกันตามประเพณี ซึ่งผมมีความคิดฝังหัวมาตลอดว่าทำไม ต้องฟุ่มเฟือย บางรายอาจมีหนี้สินมากมายตามมาทีหลัง ผมเคยเห็นครอบครัวหนึ่ง เมียถือรูป ลูกถือกระถางธูป พระ1รูป มีคนใสรถใส่โลงอีกคน รวมเป็น4คน เดินตามกันมาจากนอกวัด จนเข้ามาถึงเมรุ วน3รอบ พระท่านขึ้นไปสวดส่งวิญญาณ เสร็จเผา พระท่านก็เทศน์ปลอบใจเมีย-ลูก อันนี้เห็นกับตา ไม่ใช่เขาว่าน่ะครับ ดูจากค่าน้ำมัน-ไฟฟ้า ของวัด คงไม่เกิน2,000.-บาท.
คุณคิดอย่างไรผมไม่รู้ แต่ที่ผมเห็นมันเหมือนกับ "แค่นั้น จบ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีหนี้สิน สู่สุขติได้เหมือนกัน"
ตอนงานศพญาติท่านหนึ่ง มีพวกร้านรับทำกับงานพิธีต่างๆ มาช่วยอาษาทำให้ ค่า โลงประมาณ6-7พันปลายๆ(ค่าโลงเย็น+ไฟฟ้าของวัด อันนี้แยกกันครับ วัดเป็นคนเก็บ) ค่าดอกไม้ประดับเริ่มต้นที่ราคา5พันขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น เเล้วแต่จะเอาสวย เอาเป็นรูปอะไรก็ตามใจเจ้าภาพ
ค่ากับข้าวเลี้ยงเเขก ค่าธูปค่าเหรียญที่ใช้โยน(จะพับมาด้วยริบบิ้นมาเป็นอ่างดี)มีซองเปล่าประมาณ1ชุด สำหรับแจกพระ กี่คืนก็ว่าไป ค่าป้ายโฟม ค่าของชำร่วย
ชื่อผู้เสียชีวิต งานนั้นไว้3คืนบ่ายๆวันที่4เผา ชายวัยกลางคนเสียเมียที่รักกันมาแต่ยาวนาน เอามือลูบหน้าเมียเป็นครั้งสุดท้าย...เป็นภาพที่เห็นเเล้วสลด หดหู่มากๆ ใจนึก ถ้าเกิดขึ้นกับเราล่ะ!!??....อนิจจัง เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือสามัญ คือธรรมชาติ ....หลังจากดันโลงเข้าเตา ชาย คนนั้นก็ถือกระถางธูปออกมาจากบริเวณนั้น......พอมาถึงบ้าน...คนที่รับอาษาเป็นธุระให้ก็มาเก็บเงิน..ค่านู่นนี่นั่นฯลฯ ก็รับเงิน จากชายที่เพิ่งเสียเมียไป
ที่ผมเห็น มันเป็นแบงค์พันล้วนๆ ทราบคร่าวๆ อยู่ที่หลัก5-7หมื่น เจ้าของธุรกิจ ก็นับเงิน ณ. ตรงนั้นเลยโดยที่ญาติๆผู้ตาย ก็เข้ามาดูเงินที่เสียไป
กับงานศพ...เราได้ทำตามพิธีกรรม ส่งวิญญาณไปสู่สุขติเรียบร้อย.....ผมมองสีหน้าชายผู้เสียภรรยา เขาดูท่าทางหดหู่มากๆ...เขาขอยืมเงินป้าอีกท่าน เพราะเงินยังไม่ครบ....แต่ก็ยังถือว่าไม่แย่ซ่ะทีเดียวเพราะภรรยา ได้ทำประกันไว้ ได้เงินประมาณ2แสนกว่าๆ....พอใกล้เย็นคนเผาศพก็เอากระดูกมาให้ ตอนที่ไปรอรับกระดูกแถวๆเมรุ ข้างๆเมรุผมตกใจมากๆ ผมเห็น เงิน500.-บาท กำลังโดนเผาเป็นกองสูงเท่าเอวได้(คือพวงหรีด) ครับ พวงล่ะ500.-บาทไทยครับ!!
พูดถึงงานศพ ก็มีบางงานจะจุดพลุดังมากๆก่อนเผา ผมก็ไม่ทราบที่มาว่าจะจุดพลุ หรือยิงปืนขึ้นฟ้าทำไม ?(ก็คงเขาว่ามาเหมือนกัน)
และอันนี้ผมไปเจอเฟซบุ๊คของ "เจ้าของธุรกิจ"ท่านลองอ่านดูครับ ว่าเขาโพสต์อะไร.
มีความคิดเข้ามาในหัว ถ้าเป็นพ่อเราล่ะ แม่เราล่ะ หรือคนที่รักที่สุดของเรา.........
ส่วนงานแต่ง - งานบวช ก็น่ะครับ เพื่อชื่อเสียง เพื่อหน้าตาในสังคม(แต่ผมคิดเหมือนคุณโน้ส ที่พูดถึงเรื่องแต่งงาน)
มหกรรมเช่าซื้อ แบบคุณโน้สบอก จริงๆ...
งานบวช มีหนังดนตรี มีลิเก เลี้ยงกันอ๊วกแตก พอลูกได้เป็นพระก็สุขใจ ตามประสาพ่อ-แม่ แหล่ะครับ ลูกบวช3วันสึก บางรูป7วันสึก
ได้ซองมากไม่พอรายจ่ายกับค่างานที่เสียไป บางคนต้องไปกู้เขามาจ่ายครับ เรื่องจริงในสังคมเรา จะตายทีนึงต้องมีซัก3-4หมื่น(จัดเเบบประหยัด) ถ้ามีไม่ถึง ห้ามตาย เดี๋ยวญาติเดือดร้อน ...เสียใจกับบุคคลที่ตายเเล้ว..ยังต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาอีก....เพื่อ...ทำไปเพื่อ...???