บ้านเราแต่เดิมนั้นไม่ใช้ประเทศที่สามารถปลูกองุ่นได้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่พูดกันตรงๆมีแต่หน้าร้อนและหน้าฝน(ตกหนัก) แต่ต้นองุ่นนั้นต้องกาฤดูหนาวและแดดที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป ทำให้ประเทศเราไม่เหมาะนักที่จะมีองุ่นซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำไวน์ แต่สำหรับประเทศทางแถบยุโรป หรือในภาษาไวน์ที่เรียกว่า old world นั้น ไวน์เป็นเครื่องดื่ม ที่มีมานานมาก ตั้งแต่ประมาณ 6,000 BC ซึ่งในสมัยก่อนนี้ไวน์ถือเป็นเครื่องดื่มที่สะอาดและปลอดภัยกว่าการดื่มน้ำเปล่าด้วยซ้ำ คนท้องหรือเด็ก การจะดื่มน้ำจะต้องมีการใส่ไวน์ผสมเข้าไปด้วยเพื่อฆ่าเชื้อโรค
สำหรับคนที่คลั่งไคล้หรือคอไวน์ทั้งหลาย เค้าก็จะพูดว่าไวน์นั้นเป็นศิลปะ ซึ่งอะไรละที่ทำให้ไวน์นั้นเป็นศิลปะและแตกต่างจากเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ?
หัวใจในที่ทำให้ไวน์นั้นมีความพิเศษและแตกต่างคือ
พันธุ์ขององุ่น
- พื้นที่ที่ใช้ปลูกต้นองุ่น (ดิน หิน แดด)
สภาพภูมิอากาศในปีนั้นๆ
ภูมิประเทศ
และวิธีการผลิตของแต่ละ winemaker
What makes a great wine?
ว่ากันตามจริง อะไรที่เราชอบเราก็ถือว่าดีสำหรับเราเพราะมันทำให้เราพอใจและมีความสุข แล้วจะเอาอะไรไปมากกว่าความสุขละ ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็ขอมาเล่าถึงเรื่องของคุณภาพที่แท้จริงนั้น มันเกิดมาจากความลงตัวและการใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เรื่องของ Terroir (คำนี้เป็นคำศัพท์เฉพาะของไวน์ ซึ่งเราจะมาว่ากัน), Variety, weather and climate, winermaking. ไม่ใช่แค่ปลูกองุ่นได้แล้วจะทำไวน์ออกมาได้ง่ายๆ แต่มันมีวิธีอะไรอีกมากมาย ที่พอถ้ารู้แล้วก็จะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหรว่าทำไมไวน์ดีๆมันถึงราคาสูงนัก
ครั้งนี้ขอมาเริ่มกันแต่ต้นเรื่องการผลิตไวน์เลย คือพื้นที่ในการผลิตไวน์ vineyard(พื้นที่ที่ใช้ปลูกองุ่น แตกต่างจาก winery ซึ่งคือที่ผลิตไวน์) เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อม ธาตุในดิน และปัจจัยอื่นๆ เค้าจะเรียกศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับพื้นที่ไวน์ในส่วนนี้ว่า Terroir (Agricultural characteristics of the vineyard) เรื่องของ terroir นั้นไม่ได้ชี้บอกว่าไวน์นี้ดีหรือไม่ดี แค่เป็นตัวบ่งถึงลักษณ์ของไวน์แต่ละตัว ไวน์ดังๆที่ราคาแพงๆส่วนใหญ่จะมาจาก winery เล็กที่มีพื้นน้อยนิด แต่เป็นที่ที่เค้าคิดว่าดีที่สุดสำหรับปลูกองุ่น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดตอนเช้าที่ส่องมาถูกองุ่น ดิน แร่ธาตุ และ slope ของพื้นที่ ทำให้องุ่นของเค้าที่ได้พิเศษกว่าของไร่ไวน์ข้างๆ
ถ้าเป็นนักชิมไวน์มือฉมัง บางคนสามารถบอกได้เลยว่า ไวน์ตัวนี้มาจากแถบไหน เพราะไวน์แต่ละตัวจะมี character พิเศษ เช่น ที่เมือง Pompeii, Italy อยู่ใกล้กับภูเขาไฟ Vesuvius ทำให้ดินแถวนั้นมีแร่ธาตุสูงมาก ไวน์ที่ได้ออกมาก็จะมีรสชาติที่มี Mineral สูง
เขียนมาแค่นี้คนเขียนยังรู้สึกเลยว่าเนื้อหามันหนักมาก อ่านต่อคงจะเบื่อน่าดู เอาไว้อีก 3-4 มาเขียนต่อเพื่อใครอยากจะติดตามเรื่องของไวน์กันต่อไปละกันนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องกลิ่น แก้ว การชิม etc.
เรื่องของไวน์มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ ซึ่งเบนยังต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะ แต่ถ้ามีคนสนใจเรื่องนี้กันเยอะก็จะมาเขียนเล่าต่อให้ฟังกันเรื่อยๆค่ะ
Happy Holiday
Wine : the basic part 1…….. ไวน์ ตอนที่ 1
สำหรับคนที่คลั่งไคล้หรือคอไวน์ทั้งหลาย เค้าก็จะพูดว่าไวน์นั้นเป็นศิลปะ ซึ่งอะไรละที่ทำให้ไวน์นั้นเป็นศิลปะและแตกต่างจากเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ?
หัวใจในที่ทำให้ไวน์นั้นมีความพิเศษและแตกต่างคือ
พันธุ์ขององุ่น
- พื้นที่ที่ใช้ปลูกต้นองุ่น (ดิน หิน แดด)
สภาพภูมิอากาศในปีนั้นๆ
ภูมิประเทศ
และวิธีการผลิตของแต่ละ winemaker
What makes a great wine?
ว่ากันตามจริง อะไรที่เราชอบเราก็ถือว่าดีสำหรับเราเพราะมันทำให้เราพอใจและมีความสุข แล้วจะเอาอะไรไปมากกว่าความสุขละ ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็ขอมาเล่าถึงเรื่องของคุณภาพที่แท้จริงนั้น มันเกิดมาจากความลงตัวและการใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เรื่องของ Terroir (คำนี้เป็นคำศัพท์เฉพาะของไวน์ ซึ่งเราจะมาว่ากัน), Variety, weather and climate, winermaking. ไม่ใช่แค่ปลูกองุ่นได้แล้วจะทำไวน์ออกมาได้ง่ายๆ แต่มันมีวิธีอะไรอีกมากมาย ที่พอถ้ารู้แล้วก็จะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหรว่าทำไมไวน์ดีๆมันถึงราคาสูงนัก
ครั้งนี้ขอมาเริ่มกันแต่ต้นเรื่องการผลิตไวน์เลย คือพื้นที่ในการผลิตไวน์ vineyard(พื้นที่ที่ใช้ปลูกองุ่น แตกต่างจาก winery ซึ่งคือที่ผลิตไวน์) เมื่อรวมกับสภาพแวดล้อม ธาตุในดิน และปัจจัยอื่นๆ เค้าจะเรียกศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับพื้นที่ไวน์ในส่วนนี้ว่า Terroir (Agricultural characteristics of the vineyard) เรื่องของ terroir นั้นไม่ได้ชี้บอกว่าไวน์นี้ดีหรือไม่ดี แค่เป็นตัวบ่งถึงลักษณ์ของไวน์แต่ละตัว ไวน์ดังๆที่ราคาแพงๆส่วนใหญ่จะมาจาก winery เล็กที่มีพื้นน้อยนิด แต่เป็นที่ที่เค้าคิดว่าดีที่สุดสำหรับปลูกองุ่น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดตอนเช้าที่ส่องมาถูกองุ่น ดิน แร่ธาตุ และ slope ของพื้นที่ ทำให้องุ่นของเค้าที่ได้พิเศษกว่าของไร่ไวน์ข้างๆ
ถ้าเป็นนักชิมไวน์มือฉมัง บางคนสามารถบอกได้เลยว่า ไวน์ตัวนี้มาจากแถบไหน เพราะไวน์แต่ละตัวจะมี character พิเศษ เช่น ที่เมือง Pompeii, Italy อยู่ใกล้กับภูเขาไฟ Vesuvius ทำให้ดินแถวนั้นมีแร่ธาตุสูงมาก ไวน์ที่ได้ออกมาก็จะมีรสชาติที่มี Mineral สูง
เขียนมาแค่นี้คนเขียนยังรู้สึกเลยว่าเนื้อหามันหนักมาก อ่านต่อคงจะเบื่อน่าดู เอาไว้อีก 3-4 มาเขียนต่อเพื่อใครอยากจะติดตามเรื่องของไวน์กันต่อไปละกันนะคะ ไม่ว่าจะเรื่องกลิ่น แก้ว การชิม etc.
เรื่องของไวน์มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ ซึ่งเบนยังต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะ แต่ถ้ามีคนสนใจเรื่องนี้กันเยอะก็จะมาเขียนเล่าต่อให้ฟังกันเรื่อยๆค่ะ Happy Holiday