< < < ลับ - ลวง - พราง ตลาดซื้อขายเดือนมกราของ Liverool FC [ BY Legend_7 ] > > >


คอลัมนี้เป็นข่าวโดยรวมที่เชื่อถือได้  เป็นคอลัมของ  " คุณเอ"   นักข่าวของเว็บทางการ  LFC THAI
ผมเห็นว่าข่าวเชื่อถือได้ เเละน่าสนใจดีเลยเอามาฝาก  เพื่อนๆหงส์เเดงครับ

สวัสดีครับ



และแล้วฤดูแห่งความปวดหัว    ปนกับความตื่นเต้นก็กลับมาอีกครั้ง   ตลาดซื้อขายหน้าหนาวกำลังจะกลับมาทำให้เราได้ลุ้นกันอีกครั้ง  ซึ่งในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่เรียกว่าชี้ชะตาอนาคตของทีม   ในปลายฤดูกาลนี้เลยว่าจะได้อันดับที่เท่าไหร่   ซึ่งด้วยฟอร์มครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา ก็พอจะมองได้ว่าเราน่าจะติด   top 4  ได้ไม่ยาก  แต่ถ้าได้ตัวเจ๋งๆเข้ามาเสริมซัก  2-3  ตำแหน่ง  ก็อาจจะมีลุ้นได้มากกว่านั้นก็เป็นได้ครับ



ผมไม่ได้มั่นใจ และบอกว่าเราได้ลุ้นแชมป์นะครับ สำหรับความคิดผม แค่โฟกัสกันไปทีละเกมๆหนะดีที่สุดครับ แต่แค่จะชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่จะเป็นไปได้ และความสำคัญในการซื้อตัวช่วงนี้มากกว่าครับ



ในฤดูกาลนี้ Liverpool นั้นมีระบบการเล่นที่ชัดเจน  และมีประสิทธิภาพเป็นอันดับต้นๆใน PL ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลขสถิติต่างๆ ไม่ว่าจะยิงได้มากที่สุดในรอบปีปฏิทิน 2013 (LFC 82 ลูก, Man City 79 ลูก, AFC 66 ลูก) หรือทำคะแนนได้เป็นอันดับที่ 2 ในรอบปีปฏิทิน เป็นรองเพียงแค่ Arsenal เท่านั้น (LFC 69 คะแนน, AFC 76 คะแนน) และสถิติเหล่านี้ ดีขึ้นเมื่อเราได้  Coutinho & Sturridge มาร่วมทีมเมื่อปีใหม่ ต้นปี 2013 ที่ผ่านมาครับ ดังนั้นถ้าเราได้ตัวเจ๋งๆที่แก้ปัญหาจุดอ่อนของเราได้อย่างตรงจุดเข้ามาเสริมทีมแล้ว ก็จะยิ่งทำให้เราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย



ถ้ามองจากสภาพของทีมในตอนนี้ จุดอ่อนที่สุดของเราก็คือแดนกลางครับ ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกเยอะแยะมากมายแต่นั่นก็เพียงเป็นขนาดของทีมที่ใหญ่โตขึ้น แต่คุณภาพนั้นยังคงด้อยกว่าคู่แข่งในตำแหน่ง top 4 ทุกทีม เพียงแต่ว่าเรามีแผงหลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและกองหน้าที่คม จึงทำให้มีผลงานที่ดีในตอนนี้ได้



มองไปที่กองหลัง การได้ตัว Toure & Sakho มาร่วมทีมนั้น ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าคุ้มค่าเพียงใด เพียงแต่ปัญหาที่เริ่มเกิดขึ้นหลังจากเปิดฤดูกาลนั้นก็คือ อาการบาดเจ็บของฟูลแบ๊กทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่ง Jonhson นั้นอาจจะเรียกได้ว่ายังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้หลังจากที่หายเจ็บกลับมา และ Enrique นั้นเจ็บยาวเลยทีเดียวทำให้ความสมดุลย์เสียไป และก็เสียประตูเกือบทุกเกม



ส่วนแผงกลางนั้น Lucas แม้ว่าจะหายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ฟอร์มการเล่นเก่าๆนั้นยังไม่กลับมาเหมือนเดิมซะทีเดียว ยังค่อนข้างช้าในหลายๆ
จังหวะ ส่วน Gerrard   นั้นก็โรยราลงไปเรื่อยๆ   ถึงแม้จะยังมีทีเด็ดให้เห็นในลูกเซ็ทพีซและการเปิดบอลยาวเปลี่ยนเกมที่แม่นยำอยู่ก็ตาม
แต่การจะให้ Gerrard มายืนคู่กับ Lucas มันก็ทำให้แผงกลางเราค่อนข้างที่จะเชื่องช้า เมื่อเจอเกมเข้าทำเร็วๆของทีมฝั่งตรงข้ามก็มักจะเสียท่าอยู่เสมอ เราจะเห็นได้ว่าผลงานในแดนกลางเริ่มดีขึ้นเมื่อ BR ดร๊อป Lucas และให้ Allen มายืนคู่ Gerrard แทน ความเร็วและความคล่องตัวก็เพิ่มขึ้นมานิดนึง แต่พอ Gerrard เจ็บและกลายเป็น Lucas จับคู่กับ Allen โดยมี Henderson ยืนอยู่ข้างหน้า แดนกลางเราสามารถเล่นเพรซซิ่งได้เต็มที่ อีกทั้งบอลยังถูกถ่ายไปมาอย่างรวดเร็ว ไม่ไปกระจุกตัวอยู่ที่ Gerrard เหมือนที่เคยเป็น ซึ่งเราเคยเห็นกันมาหลายครั้งแล้วว่าทุกครั้งที่ Gerrard เจ็บ แผงกลางเราจะจ่ายบอลกันได้ดีขึ้นเสมอๆ



นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งที่ Rodgers ต้องหาทางใช้งาน Gerrard ให้เหมาะสมกับวัยที่เพิ่มขึ้น และความคล่องตัวที่เริ่มลดลง เพราะอย่างไรเสีย Gerrard นั้นก็คือศูนย์รวมของจิตใจของผู้เล่นทุกคนในทีม และแฟนๆก็ยังอยากเห็นเขาเล่นในทีมต่อไปตราบเท่าที่สังขารจะเอื้ออำนวยครับ
ส่วนพื้นที่แดนหน้านั้น ลงตัวอยู่แล้ว Suarez, Sturridge, Sterling, Aspas นั้นสามารถผลิตประตูได้อย่างสม่ำเสมอ จึงยังไม่ใช่พื้นที่ ที่จะต้องแก้ไขอะไรมากมายนักครับ


มาดูที่เงื่อนไขของตลาดซื้อขายหน้าหนาวกันซักนิด



อย่างที่ทราบกันว่า ในเดือนมกราคมนี้ จะเป็นการซื้อขายแบบแก้ปัญหาเสียมากกว่า ซึ่งโดยปกติที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยจะมีการย้ายทีมกันโครมครามเหมือนกับตอนซัมเมอร์อยู่แล้ว ทีมที่ลงตัวอยู่แล้วก็ไม่อยากขายครับ พวกที่ขายก็มักจะเป็นพวกที่มีปัญหาเช่น เล่นเข้ากับทีมไม่ได้ ฟอร์มตก ไม่อยากนั่งเป็นสำรองต่อไป หรือกำลังจะหมดสัญญา หรือถ้าพวกที่กำลังฟอร์มดี ก็มักจะมีค่าตัวมโหฬาร ดังนั้นการซื้อตัวในเดือนนี้ เราก็จำเป็นต้องเลือกให้ดี และรักษาระดับของงบประมาณให้เหมาะสมด้วยครับ



สำหรับทีมที่ไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรปนั้น โดยปกติแล้วก็คงมีงบประมาณไม่มากนัก เมื่อปิดงบดุลประจำปี แล้ว งบเสริมทีมย่อมต้องไม่เกินรายได้ของทีมหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว ซึ่งประมาณกันไว้ว่า น่าจะอยู่ราวๆ 20-30 ลปต่อปีครับ ในปีนี้เราใช้งบในช่วงซัมเมอร์ไปประมาณ 10 ลป (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ดังนั้นเราน่าจะมีงบเหลืออีก 10-20 ลป และบวกกับค่าตัวของนักเตะที่จะถูกขายออกไปอีกด้วย



ผมได้ข่าวมาว่า งบประมาณที่จะได้รับก็คือ 20-25 ลป ส่วนเงินจากการขายจะได้อยู่ที่ประมาณ 25 ลป ดังนั้น งบเสริมทีมที่เราจะได้ในเดือนหน้านี้คือ 45-50 ลป ครับ

ทีนี้ ใครจะโดนขายหละ?



ในขณะนี้เรามีทีมชุดใหญ่อยู่เพียงแค่ 23 คนไม่นับพวกดาวรุ่ง แบ่งเป็น
ผู้รักษาประตู 2 คน คือ Jones & Mignolet
กองหลัง 10 คน คือ Johnson, Enrique, Skrtel, Toure, Agger, Coates, Sakho, Cissokho, Kelly, Flanagan
กองกลาง 7 คน คือ Alberto, Gerrard, Coutinho, Moses, Henderson, Lucas, Allen
กองหน้า 4 คน คือ Suarez, Sturridge, Aspas, Sterling


ที่ผมให้ Sterling อยู่ในส่วนของกองหน้า เพราะเขามักจะได้รับคำสั่งให้เล่นเป็นกองหน้ากึ่งปีกเป็นประจำ ดังนั้นจึงควรจัดให้อยู่ในหมวดของกองหน้าถึงจะถูกครับ ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็น Ilori, Ibe, Ward นั้นถือว่าเป็นเยาวชนที่ยังไม่ขึ้นมาชุดใหญ่เต็มตัวครับ
ตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรแน่นอนครับ ดังนั้นจึงผ่านไป



ตำแหน่งกองหลังนั้น Coates เจ็บยาว ตัดออกไปก่อนเพื่อน แต่ก็ยังเหลืออีก 9 คน สำหรับ 4 ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าเยอะเกินไป RB นั้นคงยังไม่มีปัญหาอะไร ยังสามารถใช้งานต่อไปได้จนถึงซัมเมอร์ และได้ Kelly กลับมาก็ถือว่าเป็น backup ที่ดีครับ ส่วน LB นั้น Flanagan ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด น่าจะสามารถทดแทนการขาดหายไปของ Enrique ได้พอสมควร แต่ตัวที่ดูแล้วน่าจะต้องกลับที่เก่าก็คือ Cissokho ที่คาดว่าจะมีการส่งตัวคืนครับในช่วงปลายๆมกราคมครับ หรืออาจจะเร็วกว่านั้นถ้าเราได้ LB ตัวใหม่เข้ามา และก็ขึ้นอยู่กับว่า Valencia จะรับคืนหรือไม่ด้วยครับ



ส่วน CB นั้น การมีผู้เล่นระดับตัวจริงถึง 4 คนในตำแหน่งนี้ดูจะเยอะเกินความจำเป็น เพราะโดยหลักทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วย ตัวจริง 2 สำรอง 1 และดาวรุ่ง 1 และนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไม Ilori ถึงไม่เคยติดทีมเลยแม้กระทั่งตัวสำรอง ก็เพราะยังไม่มีพื้นที่ว่างให้สอดแทรกขึ้นมาครับ



เมื่อตอนปิดฤดูกาลที่ผ่านมา Rodgers ได้วางแผนสร้างทีมไว้โดยมีคู่ CB คือ Toure+Agger โดยมี Skrtel เป็นสำรอง และ Ilori เป็นดาวรุ่ง CB คนที่ 4 ครับ โดยที่ไม่ได้วางแผนสำหรับ Sakho เลย และ Rodgers ก็ได้แต่งตั้ง Agger เป็นรองกัปตันทีม หลังจากนั้นแผนการซื้อขาย ได้เกิดความเปลี่ยนแปลง เราพลาดตัว LB ที่เป็นเป้าหมาย และอีกหลายต่อหลายคน ทำให้มีงบเหลือไปซื้อ Sakho มาร่วมทีมได้ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของเรื่องราวต่างๆครับ เมื่อ Sakho เข้ามาร่วมทีม เขาก็สามารถปรับตัวได้เร็วมาก และแสดงศักยภาพที่โดดเด่นออกมา จนสามารถเบียด Agger ให้หลุดไปเป็นตัวสำรองได้ ถึงแม้จะมีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆมากมาย และ BR ก็ได้ให้โอกาส Agger กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าฟอร์มการเล่นกลับไม่โดดเด่นเท่า จน BR กลับไปใช้บริการของ Sakho อีกรอบจนถึงปัจจุบัน



อีกทั้ง Skrtel เองก็สามารถรีดฟอร์มเก่งกลับมาได้ จนทำให้คู่ CB ตัวจริงตอนนี้กลายเป็น Skrtel+Sakho ไปเสียแล้ว โดยมีทั้ง Toure และ Agger เป็นตัวสำรอง ทีนี้จะทำยังไงดีหละ? สำหรับ Toure คงไม่มีปัญหาเพราะเจ้าตัวนั้นยอมรับกับอายุที่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพแล้ว แต่ Agger ที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพครับซึ่งคงไม่ดีแน่ถ้าต้องมานั่งสำรองแบบนี้ จึงมีข่าวออกมาหนาหูว่า เขากำลังจะเดินออกจากทีมไปในเดือนหน้านี้ ถ้ามองตามเรื่องราวที่ผมเล่าให้อ่านทั้งหมด มันก็มีความเป็นไปได้สูงอยู่ทีเดียวเลยครับ และผมก็เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

แล้วทีมไหนจะเป็นจุดหมายหละ?




แรกเริ่มทีเดียว Barca เป็นทีมที่ให้ความสนใจ Agger มากที่สุด และสนใจมาตลอด เพียงแต่ว่าเป้าหมายอันดับ 1 ของพวกเขาคือ David Luiz ครับ ถ้าพลาดก็คงหันมาหา Agger เป็นแน่ และก็มีแววพลาดมากเสียด้วย ส่วน Napoli ก็ให้ความสนใจมากเช่นกัน ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอยืมตัวไป แต่ก็น่าจะเป็นการเรียกราคาเพื่อต้องการขายขาดมากกว่า ซึ่งก็คงต้องติดตามข่าวต่อไปว่าจะย้ายจริงหรือไม่ และย้ายไปทีมไหนนะครับ


ทีนี้มาดูแดนกลางบ้าง จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งสำหรับตัวจริง 3-4 ตำแหน่ง(ขึ้นอยู่กับระบบการเล่นในแต่ละนัด) แต่มีตัวที่ต้องแข่งกันลงถึง 7 คน และยิ่งถ้าเราต้องการผู้เล่นใหม่ๆเข้ามาในพื้นที่ตรงส่วนนี้ ก็จะมีคนล้นจนเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อค่าแรงที่ต้องจ่ายออกไปโดยเปล่าประโยชน์ครับ ดังนั้นจึงมีการติดต่อไปยัง Chelsea เพื่อขอคืน Moses กลับไปเพราะไม่ต้องการใช้งานแล้ว แต่ Chelsea ก็ได้ปฏิเสธกลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เราต้องใช้ Moses ต่อไปจนจบฤดูกาลครับ (แน่นอนว่า Chelsea ก็ไม่ต้องการได้กลับไปใช้งานเช่นกัน)


คนต่อไปที่มีแววได้ย้ายออกไปแบบเซอร์ไพรซ์นั่นก็คือ Luis Alberto ครับ.... ใช่ครับ ผมเองก็ประหลาดใจเมื่อเห็นข่าวนี้ แต่เบื้อหลังก็คือ แฟนของ Alberto นั้นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในอังกฤษได้ และตัว Alberto เองก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องภาษาและแรงจูงใจด้วยเช่นกัน เริ่มจะมีอาการ homesick อีกต่างหาก ซึ่งทำให้การปรับตัวต่อการใช้ชีวิตในอังกฤษของทั้งคู่ดูจะเป็นปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆครับ


เนื้อหาของข่าวนั้น ไม่ได้ฟันธงลงไปว่าเขาจะถูกขายกลับไปสเปนแน่ๆนะครับ เพียงแต่บอกว่า Alberto นั้นอยู่ในลำดับต้นๆ ของคนที่จะโดยขายออกไปครับ ข้อมูลของคนที่มีแววที่จะต้องย้ายออกไปก็มีเท่านี้ (ในตอนนี้นะครับ) ส่วนข้อมูลของคนที่จะย้ายเข้ามาเรามาว่ากันต่อในตอนต่อไปครับ....


ปล. ข้อมูลเหล่านี้คือข่าวที่ผมติดตามและได้รับมา ไม่ได้เขียนแต่งขึ้นเองนะครับ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น สถานการณ์อาจจะเป็น หรือไม่เป็นไปตามข้อมูลเหล่านี้ก็ได้ เราก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ


ขอบคุณครับ

ที่มาเพจ  / Legend_7
https://www.facebook.com/Legend7Seven?ref=ts&fref=ts
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่