การเมืองวันนี้น่าสลดใจ
และยิ่งอนาถในความรู้สึกมากเป็นทวีคูณเมื่อมีคนกล่าวคำที่ว่า "1 คน 1 เสียง ยังใช้กับไทยไม่ได้" และยังมีคนสนับสนุนวาทกรรมนี้อีกจำนวนหนึ่ง
นั่นหมายความว่าประชาธิปไตยที่สถาปนามากว่าเจ็ดสิบปี ผู้คนมากมายต้องล้มหายตายจาก ฝ่าฟันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนต้องเป็นโมฆะไปเพราะลมปากของคนบางกลุ่ม
น่าสมเพชที่หลักการที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นหลักการพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ถูกบิดเบือนแค่เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะและสนองตัณหาทางการเมือง
เพียงเพราะต้องการเอาชนะ เพียงแค่ไม่มีปัญญาสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน เพียงแค่ไม่มีสมองคิดนโยบาย เพียงแค่คิดเห็นแก่ตัว กลับทำให้เศษมนุษย์กลุ่มหนึ่งคิดเอาเปรียบเพื่อนร่ีวมชาติด้วยกันถึงขนาดนี้
ด้วยหลักการแห่งการไม่เท่าเทียมกันของหนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์
อย่างนั้นมันจะต่างอะไรกับระบบวรรณะในสมัยโบราณ หรือระบบชนชั้น ระบบทาส การแบ่งแยกคนชั้นสูงชั้นต่ำที่ประเทศต่าง ๆ พยายามดิ้นรนเพื่อปลดแอก
อังกฤษ ฝรั่งเศธ อเมริกา ฯลน อารยะประเทศทั้งหลายต่างผ่านประวัติศาสตร์การดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อหลุดพ้นจากการแบ่งแยก และความไ่ม่เท่าเทียบกัน แต่คนไทยบางกลุ่มกลีบกระเหี้ยนกระหือรือที่จะถอยหลังเข้าคลอง บัดซบสิ้นดี !!
มีคำกล่าวที่ว่า ชนชั้นใดก็ออกกฏหมายเพื่อชนชั้นนั้น
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน ใครจะรับประกันได้ว่าตัวแทนที่เข้าไปจะทำเพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ฺของกลุ่มตนมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่มีระบบคัดเลือกกลั่นกรองที่ต้องแคร์เสียงประชาชน
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน วันนี้เราคงไม่เห็นนโยบายรัฐสวัสดิการอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรคหรือนโยบายที่เอื้อต่อชนชั้นหาเช้ากินค่ำอย่างปัจจุบัน
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน โอกาสของคนก็อาจไม่เท่ีาเทียมกัน ดร. นักวิชาการ ข้าราชการ ที่ดูถูกประชาชนอย่างทุกวันนี้อาจไม่มีหน้าเผยอ ชูคอ อย่างทุกวันนี้ อาจไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา หรือโอกาสในการทำงาน เพราะถ้าเอาตามระบบแบ่งชนชั้น สมุยก่อนก็มีแต่คนชั้นบนเท่านั้นที่จะรับตำแหน่งสูง ๆ
ถ้าคนไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ลูกจีนโพ้นทะเลที่สร้างฐานะจนร่ำรวยบางกลุ่ม อาจไม่มีหน้าเป็นผู้ดีรุ่นใหม่ดูถูกคนอย่างทุกวันนี้
หรือจะเอาอย่างมาเลเซีย ที่ภูมิบุตรามีสิทธิ์มากกว่าลูกจีนอพยพ แบ่งโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยตามสัดส่วนเชื้อชาติ นี่ไงคือตัวอย่างของความไม่เท่าเทียมของหนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์
ไม่น่าเชื่อว่าอยากชนะจนสิ้นคิดถึงกับเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ... น่าขยะแขยง
อ้างปฏิรูป
อะไรคือปฏิรูป ?... ถ้าหากการปฏิรูปไม่ได้มาจากประชามติประเทศไม่ีมีวันสงบ
เพราะไม่ได้มาจากการยินยอมพร้อมใจของทุกฝ่าย ไม่ได้มาจากกติกาของการอยู่ร่วมกัน
การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นเพียงข้ออ้างทางการเมืองที่จะจำกัดสิทธิ์ปิดปากผู้คิดต่าง
ไม่ใช่คำตอบและไม่มีทางเป็นทางออกที่ดี มีแต่จะทำให้แตกแยก สร้างความร้าวฉาน ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส
ถ้าคิดขึ้นสู่อำนาจด้วยวิธีการนี้ก็รังแต่จะสร้างบาดแผลให้กับคนอีกกลุ่ม และฝังความเกลียดชังกันและกันให้ลึกลงอย่างน่ากลัว
ถ้ารักประเทศจริง คิดถึงส่วนรวมให้มาก อย่าคิดแค่ชัยชนะระยะสั้น อย่าอำมหิตจนเอาอนาคตของชาติเป็นเดิมพัน
ถ้าโดยการเลือกตั้งจะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดเป็นที่ชื่นชอบตลอดไป
ถ้าอยากชนะต้องพิสูจน์ตนเอง อดทน คิดพัฒนาโยบายเพื่อรับใช้ประชาชน ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรร วันหนึ่งประชาชนต้องให้โอกาส
และถ้ามีความจริงใจอยากปฏิรูป ต้องยึดหลักการประชาธิปไตย หลักการแห่งความเสมอภาค เสนอความคิดและอุดมการณ์เพื่อให้เป็นที่ยอมรุบของทุกภาคส่วน ไม่ใช่มาหักหาญน้ำใจคนและหักด้ามพร้าด้วยเข่า
นี่จึงเป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างยั่งยืน
"1 คน 1 เสียง ยังใช้กับไทยไม่ได้" วาทกรรมอัปยศแห่งการถอยหลังเข้าคลอง สนองตัณหาและเอาเปรียบเพื่อนร่วมชาติอย่างน่าละอาย
และยิ่งอนาถในความรู้สึกมากเป็นทวีคูณเมื่อมีคนกล่าวคำที่ว่า "1 คน 1 เสียง ยังใช้กับไทยไม่ได้" และยังมีคนสนับสนุนวาทกรรมนี้อีกจำนวนหนึ่ง
นั่นหมายความว่าประชาธิปไตยที่สถาปนามากว่าเจ็ดสิบปี ผู้คนมากมายต้องล้มหายตายจาก ฝ่าฟันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนต้องเป็นโมฆะไปเพราะลมปากของคนบางกลุ่ม
น่าสมเพชที่หลักการที่พิสูจน์แล้วว่า เป็นหลักการพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ถูกบิดเบือนแค่เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะและสนองตัณหาทางการเมือง
เพียงเพราะต้องการเอาชนะ เพียงแค่ไม่มีปัญญาสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน เพียงแค่ไม่มีสมองคิดนโยบาย เพียงแค่คิดเห็นแก่ตัว กลับทำให้เศษมนุษย์กลุ่มหนึ่งคิดเอาเปรียบเพื่อนร่ีวมชาติด้วยกันถึงขนาดนี้
ด้วยหลักการแห่งการไม่เท่าเทียมกันของหนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์
อย่างนั้นมันจะต่างอะไรกับระบบวรรณะในสมัยโบราณ หรือระบบชนชั้น ระบบทาส การแบ่งแยกคนชั้นสูงชั้นต่ำที่ประเทศต่าง ๆ พยายามดิ้นรนเพื่อปลดแอก
อังกฤษ ฝรั่งเศธ อเมริกา ฯลน อารยะประเทศทั้งหลายต่างผ่านประวัติศาสตร์การดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อหลุดพ้นจากการแบ่งแยก และความไ่ม่เท่าเทียบกัน แต่คนไทยบางกลุ่มกลีบกระเหี้ยนกระหือรือที่จะถอยหลังเข้าคลอง บัดซบสิ้นดี !!
มีคำกล่าวที่ว่า ชนชั้นใดก็ออกกฏหมายเพื่อชนชั้นนั้น
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน ใครจะรับประกันได้ว่าตัวแทนที่เข้าไปจะทำเพื่อประชาชน ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ฺของกลุ่มตนมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่มีระบบคัดเลือกกลั่นกรองที่ต้องแคร์เสียงประชาชน
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน วันนี้เราคงไม่เห็นนโยบายรัฐสวัสดิการอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรคหรือนโยบายที่เอื้อต่อชนชั้นหาเช้ากินค่ำอย่างปัจจุบัน
ถ้าตัวแทนไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน โอกาสของคนก็อาจไม่เท่ีาเทียมกัน ดร. นักวิชาการ ข้าราชการ ที่ดูถูกประชาชนอย่างทุกวันนี้อาจไม่มีหน้าเผยอ ชูคอ อย่างทุกวันนี้ อาจไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา หรือโอกาสในการทำงาน เพราะถ้าเอาตามระบบแบ่งชนชั้น สมุยก่อนก็มีแต่คนชั้นบนเท่านั้นที่จะรับตำแหน่งสูง ๆ
ถ้าคนไม่มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ลูกจีนโพ้นทะเลที่สร้างฐานะจนร่ำรวยบางกลุ่ม อาจไม่มีหน้าเป็นผู้ดีรุ่นใหม่ดูถูกคนอย่างทุกวันนี้
หรือจะเอาอย่างมาเลเซีย ที่ภูมิบุตรามีสิทธิ์มากกว่าลูกจีนอพยพ แบ่งโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยตามสัดส่วนเชื้อชาติ นี่ไงคือตัวอย่างของความไม่เท่าเทียมของหนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์
ไม่น่าเชื่อว่าอยากชนะจนสิ้นคิดถึงกับเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ... น่าขยะแขยง
อ้างปฏิรูป
อะไรคือปฏิรูป ?... ถ้าหากการปฏิรูปไม่ได้มาจากประชามติประเทศไม่ีมีวันสงบ
เพราะไม่ได้มาจากการยินยอมพร้อมใจของทุกฝ่าย ไม่ได้มาจากกติกาของการอยู่ร่วมกัน
การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นเพียงข้ออ้างทางการเมืองที่จะจำกัดสิทธิ์ปิดปากผู้คิดต่าง
ไม่ใช่คำตอบและไม่มีทางเป็นทางออกที่ดี มีแต่จะทำให้แตกแยก สร้างความร้าวฉาน ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส
ถ้าคิดขึ้นสู่อำนาจด้วยวิธีการนี้ก็รังแต่จะสร้างบาดแผลให้กับคนอีกกลุ่ม และฝังความเกลียดชังกันและกันให้ลึกลงอย่างน่ากลัว
ถ้ารักประเทศจริง คิดถึงส่วนรวมให้มาก อย่าคิดแค่ชัยชนะระยะสั้น อย่าอำมหิตจนเอาอนาคตของชาติเป็นเดิมพัน
ถ้าโดยการเลือกตั้งจะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดเป็นที่ชื่นชอบตลอดไป
ถ้าอยากชนะต้องพิสูจน์ตนเอง อดทน คิดพัฒนาโยบายเพื่อรับใช้ประชาชน ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรร วันหนึ่งประชาชนต้องให้โอกาส
และถ้ามีความจริงใจอยากปฏิรูป ต้องยึดหลักการประชาธิปไตย หลักการแห่งความเสมอภาค เสนอความคิดและอุดมการณ์เพื่อให้เป็นที่ยอมรุบของทุกภาคส่วน ไม่ใช่มาหักหาญน้ำใจคนและหักด้ามพร้าด้วยเข่า
นี่จึงเป็นการปฏิรูปการเมืองอย่างยั่งยืน