ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา เปิดใจ ขึ้นเวทีบริจาคเงินสด 1 ล้าน ให้ ม็อบ กปปส.

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา เปิดใจ ขึ้นเวทีบริจาคเงินสด 1 ล้าน ให้ ม็อบ กปปส. เพื่อกระตุ้นคนไทย ที่มีความรู้สึกอึดอัดในใจแต่ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อประเทศ

          หลังถูกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) ออกคำสั่งอายัดบัญชีครัวราชดำเนิน และบัญชีของแกนนำการชุมนุมอีก 40 ราย เพื่อหวังตัดท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มผู้ชุมนุม ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)  อ่อนกำลังลง แต่ก็มีประชาชนที่เห็นด้วยกับ ม็อบ กปปส. นำเงินมาบริจาคให้กับ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปปส. หนึงในนั้นคือ สำหรับ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด ( มหาชน ) ที่ขึ้นเวทีราชดำเนิน เพื่อมอบเงินสดๆ จำนวน 1 ล้านบาท ให้นายสุเทพ เพื่อนำไปใช้เป็นทุนในการต่อต้านรัฐบาล

          หลังจากนั้นก็ทำให้หลายคนอยากรู้ว่า ทำไม ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ถึงบริจาคเงินจำนวนมากให้กับม็อบ กปปส. ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม  2556 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานบทสัมภาษณ์ ศ.ดร.พิเชษฐ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวทั้งหมด ดังนี้

          ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจนำเงินสดๆ จำนวน 1 ล้านบาท ขึ้นไปบริจาคบนเวทีราชดำเนินให้กับ ม็อบ กปปส. ว่า เป็นเพราะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของคนไทย งานที่ กปปส.ทำอยู่ในขณะนี้ เป็นหน้าที่ของคนไทย ที่รักชาติรักแผ่นดิน และที่ผ่านมาตนไม่สามารถไปร่วมชุมนุมได้ทุกวัน วันที่ไปไม่ได้ ตนก็บริจาคเงินผ่านบัญชีครัวราชดำเนิน แต่พอทราบเรื่องคำสั่งอายัดของดีเอสไอ ตนได้ติดต่อผ่านไปยัง ดร.เสรี วงษ์มณฑา  ว่าจะฝากเงินไปบริจาคด้วยได้ไหม ดร.เสรีบอกว่าได้เลย บริจาคมาเลย จึงไปทำเรื่องเบิกเงินมาที่ธนาคารพอจะเอาไปให้ ดร.เสรี ท่านก็บอกว่า ขึ้นมาบนเวทีเลยดีกว่า ตนก็เลยขึ้นไปบริจาคเงินด้วยตัวเอง  

          ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่เคยคิดอยากจะดัง จากการขึ้นเวทีบริจาคเงินครั้งนี้  คิดแค่ว่ามันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำความดีเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ ถ้าเราช่วยกันทำกันคนละนิด งานของ กปปส. คงสำเร็จ

          "เรื่องเงินหนึ่งล้านสำหรับผมมันจิ๊บจ้อยมาก และสิ่งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นคือ อยากจะใช้จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น กระตุ้นคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มข้าราชการที่มีเป็นแสนเป็นล้านคน ที่มีความรู้สึกอึดอัดในใจแต่ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำอะไร ให้กล้าที่จะออกมาทำอะไรเพื่อบ้านเมืองของเราได้แล้ว ซึ่งสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากำลังของข้าราชการ เพื่อร่วมกันผลักดันงานของประเทศให้เกิดความสำเร็จลุล่วงไปข้างหน้า ซึ่งเรื่องนี้ผมคิดแบบนักวิทยาศาสตร์นะ ไม่ได้คิดแบบนักการเมือง" ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หลังลงจากเวทีกังวลการถูกตรวจสอบเรื่องการเงินจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือไม่ ศ.ดร.พิเชษฐ์ ตอบว่า ตนไม่กลัวว่าจะถูกตรวจสอบอะไรจากการขึ้นบริจาคเงินครั้งนี้ เพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ตนเป็นข้าราชการมาก่อน ตอนนี้ก็เป็นข้าราชการบำนาญ ใครจะมาตรวจสอบก็มาได้เลย ไม่มีปัญหาเพราะทุกอย่างทำโปร่งใส ไม่ได้อยู่ในที่มืด มีโอกาสที่จะแสดงจุดยืนอะไรตนก็จะทำ และที่สำคัญเงินที่ผมนำไปบริจาคก็เป็นเงินส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินบริษัทของ ซึ่งก็หวังว่าทางผู้ถือหุ้นจะเข้าใจเรื่องนี้ด้วย

          ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่นักธุรกิจ หรือข้าราชการทั้งหมด จะต้องออกมาช่วยกัน ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ตรงนี้สำคัญกว่าเรื่องเงิน ผมอยากให้สิ่งที่ผมทำเป็นการจุดกระแส ไปปลุกจิตสำนึกของพวกเรา ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว ถ้าเราช่วยกันทำได้ บ้านเมืองเราคงเจริญกว่านี้เยอะ" ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว



   "เรื่องเงินหนึ่งล้านสำหรับผมมันจิ๊บจ้อยมาก"   จ้าพ่อคนรวย เทพมันโดนอายัดเงินบัญชีแล้ว ระวังมันจะไถเรื่อย ๆ นะ     http://www.asianlife.co.th/aboutus.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่