เลิกกับแฟน เพราะอยากแต่งงาน..

กระทู้คำถาม
ตอนนี้รู้สึกเสียใจ แต่แก้ไขและทำไรไม่ได้ เพราะได้ตัดสินใจและลงมือทำไปแล้ว
แต่อยากรู้ความรู้สึก ของผู้หญิงทุกๆคน ว่าหากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จะทำอย่างไร

ขอเข้าเรืองเลยแล้วกันน่ะค่ะ
"เราคบกับแฟนมา 2 ปีกว่า (ตั้งแต่ 01/03/2011) เรากับแฟนอายุห่างกัน 5 ปี (เรา 28 ผช.33) เริ่มต้นที่คบกันเราคุยกันว่าหากนิสัยเข้ากันได้
จะแต่งงานในปีถัดไป ซึ่งเรากับเขาคุยกันไว้เป็นประเด็นแรกที่คบกัน เนื่องจากอยากแต่งงานและมีครอบครัวทั้งคู่ ซึ่งเรากับเขาก็สามารถเข้ากันได้ดี ทั้งนิสัยใจคอ และไลฟ์สไตน์ ความชอบหลายๆอย่างเข้ากันได้ดี เพราะเป็นคนที่เยอะเหมือนกัน
++ พอครบ 1 (01/03/2012) ปีที่เราคุยกันไว้ เราก็รู้ว่าเขาและเราต่างก็ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน เพราะหน้าที่การงาน และอีกหลายๆอย่าง
แต่มา ณ ปีนี้ 2013 เราเริ่มมีหน้าที่การงานที่ลงตัว และเรคิดว่า ผญ.อายุช่วงนี้เหมาะกับการแต่งงานและสมบูรณ์ที่สุดที่จะมีลูก มีครอบครัว
เราก็เลย ถาม ผช.ว่าคิดจะแต่งงานกับเราไหม
ผช. "คิดสิ แต่เขายังไม่พร้อม"
ผญ. "แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมอ่ะ"
ผช. "ก็ยังไม่มั่นคงกับหน้าที่การงานเลย "
ผญ. "ก็เปลี่ยนงานบ่อยๆ อย่างนี้แล้วจะมั่นคงได้ยังไง"
ผช. "ตอนนี้งานที่ทำอยู่ ก็ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าชอบ/ไม่ชอบ"
ผญ. เรา เหวอ !!! ไปชั่วขณะ!! แล้วก็ถามต่อไปว่า แล้วประมาณช่วงไหน เมื่อไหร่ จะให้เรารอไปอีกกี่เดือน กี่ปี
       แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าว่าที่เรารออ่ะ..สุดท้ายแล้วเทอจะแต่งงานกับฉัน
ผช. เขาบอกว่า "ไม่รู้"
ผญ. เราเลยบอกเขาว่า งั้นเรา "จบกันเถอะ" เพราะเราไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่เคยจิงจังกับชีวิตแบบนี้
ผช. เขาก็ขออโหสิกรรม ที่ทำให้เราเสียใจ ที่ทำให้เราโกรธและไม่พอใจ เพระาเขาเองที่ไม่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ไม่อดทนกับงานที่ทำ
เขาก็บอกว่าเขารักเรา แต่เขาไม่สามารถทำใรสิ่งที่เราขอตอนนี้ได้ และเราก็จบกันจิงๆ....

"สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ได้เกิดจากความผิดของผช.เลย เราทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องเจ้าชู้ไก่กา เรื่องเที่ยเตร่ (เพราะเขาไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่สูบบุหรี่) การเลิกลากันครั้งนี้ทำให้เราเสียใจมาก แต่เป็นเพราะเราอยากแต่งงานเลยทำให้เรื่องทุกอย่างมันบานปลาย
..แล้วก็ต้องจบแบบนี้..

เราเลยอยากฟังความคิดเห็นจากทุกคน ว่าจากนี้ไปเราควรทำยังไง ในเมื่อเราก็รักเขาและก็ไม่คิดที่จะไปคบคนอื่น ..
ตอนนี้สับสนมากเลยค่ะ...เราเป็นเด็ก ตจว. ไม่กล้าปรึกษาเรื่องนี้กับแม่ เพราะกลัวแม่เป็นห่วง..รบกวนช่วยให้คำแนะนำเราด้วยน่ะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆความคิดเห็นค่ะ
MissCake
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ
ในเมื่อฝ่ายชายยังไม่พร้อมจริงๆ เราว่าเค้าไม่ได้ผิดอะไร ผู้ชายจะอยากแต่งงานก็ต่อเมื่อพร้อมแล้วจริงๆ เพื่ออนาคตที่ดีของครอบครัว
คุณคิดไปเองรึเปล่าว่าเค้าไม่จริงจังกับชีวิต การที่เค้าเปลี่ยนงานบ่อยเพราะเค้าต้องการงานที่ลงตัวและทำให้ชีวิตมั่นคงขึ้นรึเปล่า?
แต่คุณกลับมองว่าเค้าเปลี่ยนงานบ่อยแบบนี้จะมั่นคงได้ยังไง ในขณะที่เค้ายังไม่มั่นใจในการงานที่ทำเลย แต่จขกท.ดันอยากแต่งงานซะแล้ว
เป็นเราๆก็ไม่พร้อมนะ เพราะงานคือตัวสร้างชีวิตที่มั่นคงในอนาคต

เป็นเรานะ เราจะให้กำลังใจเค้า เราจะรอจนกว่าเค้าจะพร้อม ถ้าเค้าเป็นผู้ชายที่ดี เป็นผู้ชายที่เรารักจริง
คบกันแล้วมีความสุข เพราะดูๆแล้วคุณกับแฟนก็ไม่ได้มีปัญหาอื่นๆอะไร

ปล. แก้ไขคำผิดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนอื่น ขอให้กำลังใจและเข้มแข็งเร็วๆนะคะ ถ้าลองคุยกันแล้ว แต่ไปกันไม่รอด
ก็อย่าฝืนค่ะ เสียเวลา แต่ถ้ายังรอไหว ก็คุยกันดีๆ ตกลงกันให้ดี


น้องรู้สึกว่า ผู้ชายสมัยนี้ไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตใคร แต่กลับอยากมีแฟน
ทั้งๆที่หลายๆอย่างยังไม่มั่นคง แต่ก็ยังอยากมีอีกคนเข้ามาในชีวิต สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด
บางคู่เขาแต่งงานกัน สร้างครอบครัวกันตั้งแต่อายุไม่เยอะ เขาก็ผ่านกันมาได้
ด้วยความเข้าใจกัน และให้กำลังใจกัน แต่กับบางคน ไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย
แต่กลับอยากมีอีกคน แต่ก็ทำอะไรไม่เป็นหลักไม่เป็นฐาน คบกันไปเรื่อยๆ
ผู้หญิงนานไปก็มีแต่จะเสียเปรียบ อายุมากขึ้นก็มีลูกยาก
เลิกกันตอนอายุ 30+ ก็เริ่มต้นใหม่กับใครลำบาก  
เห้อ....น้องหล่ะเพลียกับคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่จัง
ความคิดเห็นที่ 15
Timeline และเป่าหมายเวลาต่างกัน เลิกกันก็แฟร์ที่สุดแล้วค่ะ

ไม่มีใครผิด และไม่ต้องรอให้มี คบต่อไปหรือกลับไปคบคงฝืนใจกันเพราะใจคุณมีเป้าหมายอยากมีครอบครัวซึ่งไม่ผิดอะไรเลย หลายคนอาจมองว่าการแต่งงานไม่จำเป็นแต่ในเมื่อสำหรับคุณนั่นคือสิ่งสำคัญ คุณก็มีสิทธิ์จะยืนยันความต้องการตนเอง ส่วนแฟนคุณเขาอาจยังมีเป้าหมายอื่นที่ต้องทำ ในเมี่อความต้องการและจุดหมายคนละทาง ก็ยุติธรรมพอที่จะยุติความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมาและให้เกียรติต่อกันและกันค่ะ

ป.ล. เราเห็นด้วยกับคห. 1 ค่ะ ผู้ชายสมัยนี้ ไม่มีความพร้อมจะรับผิดชอบใคร แต่ก็ยังกระเหี้ยนกระหือรืออยากมีแฟน เอาเปรียบผู้หญิงอย่างบอกไม่ถูก บางคนก็ไม่ใช่แฟนเปล่าๆ แต่ให้ฝ่ายหญิงทำหน้าที่ภรรยาให้ แต่ไม่ยอมแต่งนะ บอกไม่พร้อม (อ้อ ไม่พร้อม แต่ร่วมหอกันอยู่ แฟนหาข้าวหาน้ำดูแลยามเจ็บไข้ นอนร่วมเตียงทำทุกๆอย่างเหมือนเมียแต่ไม่พร้อมมีเมีย ก็คือความรับผิดชอบไม่พอ กะมาใช้กรูฟรีๆว่างั้น?) เราว่ามันเกินไป ถ้าไม่พร้อมก็อย่ามีดีกว่า แต่ก็พูดยากค่ะเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงบางคนก็เต็มใจรอเพราะตัดใจไม่ได้บ้าง กลัวอยู่คนเดียวบ้าง หรือผู้หญิงเองไม่สนใจเรื่องแต่งงานก็มี ก็แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคนนะคะ ชีวิตคนเราก็ต่างกันไป

บางคนพอผู้หญิงไม่รอก็บอกไม่รักจริงไม่อดทนรอ ผู้หญิงเห็นแก่ตัว เออ แล้วพวกที่รอไปห้าปีสิบปีโดนทิ้งล่ะ ทีแบบนั้นบอกช่วยไม่ได้ ขออภัย ความรู้สึกมันเปลี่ยน ดูเอาละกันว่าใครเห็นแก่ตัว

ผู้หญิงทุกเวลาที่ผ่านไปคือความเสี่ยง ยิ่งอยากมีครอบครัวอยากมีลูก รอจนจะสี่สิบมีลูกก็ลำบาก อันตราย แทบหมดแรงเลี้ยง กว่าจะสร้างครอบครัวให้พร้อมๆอีก  ผู้ชายนานไปจะห้าหกสิบก็ยังหาเมียเด็กได้เรื่อยๆ อยากให้ผู้ชายคิดบ้าง อย่าเอาเปรียบกันนักเลย
ความคิดเห็นที่ 10
คหสต ค่ะ

หากผุ้ชาย ไม่พร้อมก็ช่วยบอกผู้ญ ตรงๆเถอะค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาคบ
จะได้เอาเวลาไปตามหาคนที่คิดจะจริงจังกับเราในอนาคตค่ะ

เพราะทำแบบนี้เหมือนกั๊กผุ้ญ ซึ่งนับวันก็อายุมากขึ้นๆ หาแฟนยากขึ้นด้วย
จขกท เลิกไปดีแล้วค่ะ  ทนเสียใจตอนนี้ดีกว่าอายุ 30+ ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
เราเห็นต่างนะคะ
ผู้ชายรักคุณน้อยไป

...
ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ลองผู้หญิงบอกแบบนี้
ต้องตาเหลือกแล้ว
ไม่พร้อม ก็ต้องต่อรอง ขอหมั้น ขอยืดเวลา
เค้าไม่ปล่อยคนที่เค้ารักไปง่ายๆอย่างงี้หรอกค่ะ

อดทนนะคะ อย่าติดต่อเค้า รอเวลา  ถ้าเขารักคุณมากพอ  เค้าจะกลับมาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่