พาณิชย์ จับตา สินค้าดาหน้ายื่นขอปรับราคารับปีใหม่ หลังต้นทุนขนส่งพุ่งพรวด หวั่นซ้ำเติมประชาชน ขณะที่ธุรกิจระงม ยอดขายโค้งท้ายสุดฝืด โอดปมการเมืองยืดเยื้อ ทุบมู้ดจับจ่ายนิ่งสนิท "ของขวัญ-กระเช้า" ไม่คึกคัก ท่องเที่ยวในประเทศวูบ 20-30%

นอกจากบรรยากาศการจับจ่ายในช่วง เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะซบเซาจากปัจจัยลบที่รุมเร้า โดยเฉพาะปัญหาทางการเมือง แต่ขณะนี้เริ่มมีปัญหาใหม่ที่กำลังจะแทรกเข้ามาซ้ำเติมอีก โดยสินค้าหลาย ๆ อย่างเตรียมปรับราคาใหม่ จากภาระต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น

คน.จับตาสินค้าแห่ขึ้นราคา

แหล่ง ข่าวระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย "ประชาชาติธถุรกิจ" ว่า ขณะนี้สิ่งที่กระทรวงมีความกังวลมากก็คือ เรื่องของการปรับขึ้นราคาของสินค้าหลายๆ อย่าง เพราะหากสิ้นสุดระยะตรึงราคาน้ำมันดีเซลอาจมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต การส่งสินค้า อย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าตั้งแต่ ไตรมาสแรกปีหน้า ภาระต้นทุนค่าขนส่งสินค้าของผู้ประกอบการจะมากขึ้น หากมีการขึ้นราคาสินค้าก็จะทำให้ผู้บริโภคมีค่าครองชีพ มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและกระทบกับธุรกิจหรือยอดขายผู้ประกอบการตามไปด้วย

นาย สมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมกำลังศึกษาผลจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลหลังสิ้นมาตรการลดภาษี ก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่ง และการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในปี 2557 ว่าส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและขนส่งสินค้าแต่ละรายการอย่างไร เบื้องต้น ประเมินว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2557 ภาระต้นทุนค่าขนส่งสินค้าจะมากขึ้นจนอาจกระทบต่อต้นทุนสินค้าจำพวกที่ใช้ น้ำหนักในการขนส่งมาก ๆ เช่น สินค้าก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ และสินค้าเกษตร

สำหรับ แนวทางการดูแลราคาสินค้าหลังสิ้นสุดระยะเวลาขอความร่วมมือตรึงราคาในสิ้นปี นี้ยังเป็นไปตามระบบปกติ แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าประมาณ (กกร.) ยังสามารถประชุมเพื่อทบทวนมาตรการดูแลสินค้าในรายการสินค้าและบริการควบคุม จากปัจจุบันที่มี 43 รายการ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 27 มกราคม 2557 ได้

นอก จากนี้กรมยังเตรียมจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ตามแผนปี 2557 ทั้งหมด 949 ครั้ง คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ 579.68 ล้านบาท และจัดบริการร้านอาหารธงฟ้าจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาถูกได้อีก 6,000 แห่งทั่วประเทศ

ขณะที่ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ที่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การขึ้นราคาสินค้าจะยิ่งซ้ำเติมอารมณ์จับจ่ายผู้บริโภคที่ซบเซาอยู่แล้วให้ แย่ลงอีก ที่ผ่านมาสินค้าหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะกลุ่มอุปโภคบริโภค แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน สบู่ และกลุ่มซักล้าง ใช้วิธีปรับลดขนาดให้เล็กลงแทนการขึ้นราคา หรือการออกสูตรใหม่ ราคาใหม่ และโดยภาพรวมการค้าขายช่วงนี้ไม่ดี ผู้บริโภคระวังการจับจ่าย ซึ่งคงไม่สามารถกระตุ้นอะไรได้มากนัก เพราะเหลืออีก 2 อาทิตย์ก็จะสิ้นปี ไตรมาส 1 ปีหน้ามาลุ้นกันอีกที

การเมืองทุบมู้ดจับจ่าย-ธุรกิจน่วม

ขณะ นี้แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเริ่มคลี่คลายลงบ้างในระดับหนึ่ง แต่จากความไม่แน่นอนและความยืดเยื้อที่ยังไม่มีใครตอบได้ว่าจะสิ้นสุดลง เมื่อใด จึงทำให้บรรยากาศการจับจ่ายในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีไม่คึกคักเหมือนปี ที่ผ่าน ๆ มา

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ยอมรับว่า ขณะนี้กำลังซื้อชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าไม่มีใครอยากทำอะไร หรือผลักดันธุรกิจ สำหรับบริษัททั้งปีเติบโตได้เพียง 10% ก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ เพราะได้รับผลกระทบหนักในไตรมาส 4 โดยชะลอตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ ยกตัวอย่าง ช่วงการชุมนุมทางการเมืองร้านเอเซียบุ๊คส์ปิดไปถึง 10 สาขา

ขณะที่ นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเงินผ่อนรายใหญ่เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ไม่สามารถปิดยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากกำลังซื้อที่หายไปทั้งหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นและปัญหาการ เมืองที่เกิดขึ้น เดิมซิงเกอร์ตั้งเป้าเติบโต 20-25% แต่ปีนี้น่าจะทำได้ 15% โดยช่วง 9 เดือนแรกยังมีทิศทางที่ดี แต่เริ่มเห็นกำลังซื้อที่ลดลงในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จากหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น และมาซ้ำอีกรอบโดนกระทบหนักเมื่อมีปัจจัยการเมืองเข้ามากระทบ

ค่ายค้าปลีกพลิกตำรากระตุ้น

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยเมื่อช่วงวันที่ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าหลาย ๆ แห่ง พบว่าไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยเฉพาะการเลือกซื้อของขวัญ กระเช้าของขวัญ สังเกตได้จากซุ้มบริการห่อของขวัญที่ห้างจัดไว้มีผู้ใช้บริการบางตาและไม่ ต้องเข้าคิวรอเหมือนช่วงเทศกาล

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพว่า ภาพรวมเมื่อช่วงต้นปีตลาดยังพอไปได้แต่ไม่หวือหวานัก และเริ่มเห็นสัญญาณบวกและกำลังซื้อเริ่มดีดกลับมาในช่วงเดือนสิงหาคม แต่ล่าสุดหลังจากมีเหตุการณ์ทางการเมืองเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนและ เหตุการณ์เริ่มยืดเยื้อทำให้บรรยากาศการจับจ่ายตกลงไปอีกครั้ง จริง ๆ แล้วโดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อหรือเงินในกระเป๋าอยู่ เพียงแต่มู้ดและบรรยากาศที่เกิดขึ้นจึงทำให้การจับจ่ายชะงักไปชั่วคราว

อย่าง ไรก็ตาม จากการเปิดตัวสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที โทรศัพท์มือถือ แท็บเลต เข้ามากระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีที่เป็นหน้าขายสำคัญ รวมทั้งความต้องการสินค้าที่มีมากขึ้นจะช่วยให้ตลาดกลับมาคึกคักได้บ้าง

นาง วรรณา สวัสดิกุล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ออกมาจับจ่าย ชะลอการจับจ่าย เพราะโฟกัสอยู่เพียงเรื่องการเมืองและช่วงเทศกาลปีใหม่ เชื่อว่าทุกองค์กรจะประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน

เที่ยวในประเทศตัวเลขหาย 30%

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากธุรกิจการค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมืองแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวที่เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศก็ได้รับ ผลกระทบไม่ต่างกัน โดยนายยุทธชัย

สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การชุมนุมทำให้คนไทยยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวใน ประเทศไปแล้วราว 20-30% และอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลกับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยคือนโยบายรถคันแรก ที่ทำให้คนมีค่าใช้จ่ายประจำเพิ่มขึ้น และไม่มีงบประมาณเหลือสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว

ด้านนายสราวุธ แซ่เตียว นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยอัตราการจองห้องพักในย่านธุรกิจและพื้นที่ท่องเที่ยวหลักยังอยู่ในอัตรา 90-100% ประกอบกับปัจจุบัน เมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ในต่างจังหวัดสามารถที่จะเดินทางเชื่อมโยงกันได้ง่ายขึ้น เช่น เชียงใหม่ที่มีไฟลต์บินไปยังภูเก็ต สมุย ฯลฯ ทำให้สามารถรับนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตและสมุยเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ไหลไปยังภูเก็ต สมุยได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากสมาคมธุรกิจท่อง เที่ยว จังหวัดภูเก็ต ที่กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่บินตรงเข้ามาเที่ยวที่ภูเก็ตโดยไม่ต้อง ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีสายการบินจำนวนมากทั้งที่บินประจำและชาร์เตอร์ไฟลต์เข้ามายัง ภูเก็ตมากขึ้น ทำให้บรรยากาศของการท่องเที่ยวที่ภูเก็ตคึกคักอย่างต่อเนื่อง

เครดิต http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1387515230