เหนือแม้ว
สงสัยจะกลายเป็นละครที่ดังที่สุดในรอบปี ๕๖ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ เหนือเมฆ “ เริ่มมีแววดังตั้งแต่ละครออกอากาศตอนแรก เพราะเป็นละครที่กล้าพูด เสียดสีการเมือง ในเวลาที่ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคของความตื่นตัวทางการเมืองของคนไทยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มีกระแสวิภาควิจารย์ ละครเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มออกอากาศ จนมีกระแสว่าละครเรื่องนี้ช่องเจรจาให้จบก่อนเวลาที่วางแผน ไม่มีใครเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่รู้ดีที่สุด คงเป็นเพียงแค่ “ ช่อง สาม “ กับ “ ผู้ผลิต “ อันได้แก่” บริษัทเมตตามหานิยม “ อันมี “ ตี๋ใหญ่ “ ฉัตรชัย เปร่งพานิช “และ ภรรยา“สินใจ” เป็นผู้รับผิดชอบ
เรื่องบานปลายเมื่อ มีกระแส หาว่ารัฐบาลสั่งแบน ท้งที่ยังไม่มีใครู้ว่าแท้จริงเพราะอะไร กระแส “ ด่ารัฐบาล “ ดังระงมในโลกไซเบอร์ ผูกโยงไปถึง คนที่อยู่นอกประเทศ อย่างคุณทักษิณ ทั้งทีความจริงในเวลานั้น ไม่มีใครรู้ ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร สุดท้ายส่งผลให้ แทนที่ละคร” เหนือเมฆ “จะค่อยจบแบบเนียน ๆ กลายป็นถูกตัดจบเสียห้วน ๆ
เรื่องถูกตอกย้ำด้วย ทวิตเตอร์ ของ สินใจเปร่งพานิช ซึ่งถือว่าวงในสุด ๆ
“ อย่ากลัวที่จะทำความดี “
ถึงจะเป็นประโยคกลาง ๆ แต่ ในเวลาที่ละครเรื่องนี้ถูกตีความว่า เสียดสี อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อความนี้ถูกตีความทันที ว่า “ นกสินใจ “ ในฐานะผู้จัดละคร “ ถูกรังแก “ ตามด้วยสื่อ “ แนวหน้า “ออนไลด์ ออกมาตีซ้ำ คอนเฟริมจากแหล่งข่าวอ้างว่าระดับลึก ฟังธงชี้ชัดว่า “ รัฐบาลกดดัน “
จึงเป็นการโหมกระพือไฟในกลุ่มผู้ไม่นิยมทักษิณมากขึ้น ถึงกับขึ้นกู ระบายความโกรธแค้น ผ่านโลกออนไลด์ ขึ้นขึ้นกู สัตว์ ชนิดต่าง ๆ ออกมาเพ่นพ่านเต็มไปหมด
รัฐบาลโดยคุณ วราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ค่อย ต้วมเตี้ยม ออกมาชี้แจงว่ารัฐบาลไม่รู้เรื่องไม่มีคำสั่งแบน “ เหนือเมฆ “แต่นั้นก็ ไม่ช่วยอะไรเท่าไร เพราะ ออกมาช้า จึงกลายเป็นคำแก้ตัว
จนกระทั่งมีคำชี้แจงที่ชัดเจนจาก กสทช. ยืนยันว่า ได้สอบถามไปททางช่องสามแล้ว ได้รับคำชี้แจงว่า จำเป็นต้องแบนละครเรื่องนี้ เนื่องจาก เนื้อหาหมิ่นเหม่ ที่จะกระทบกระเทือนความมั่นคงของรัฐ เข้าข่ายมาตรา ๓๗ ของ กฏหมายว่าด้วยสื่อ ตามด้วย ข่าวลือในเน็ตจากการโพสถ์ข้อความแล้วนำมาตีแผ่ โดยเนชั่น อ้างว่า เป็นคนวงในช่อง สาม อธิบายว่า ละครเรื่องนี้มีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ ต่อกรณี ม. ๑๑๒ โดยเฉพาะ “ ฉากผู้มีบารมีสูง “ อันเป็นเรื่องเสี่ยงอย่างมาก ในเวลาที่มีคนที่ต้องการ โหมกระแสคนไทยให้ฆ่ากัน เหมือน ๖ ตุลา
แม้พิจารณาแล้วว่า น่าจะตีความไปในแง่ดี ได้มากกว่าร้าย และ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับ ม. ๑๑๒ แต่ ช่องไม่อาจเสี่ยงในเวลาที่สังคม มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างรุนแรงแบบนี้ได้
ในยามที่บ้านเมืองกำลังตั้งไข่เริ่มจะฟื้นตัว ก็ยังมีผู้ที่คิดหาจังหวะสร้างความ โกลาหล เพื่อประโยชน์ของตน ต้องถือว่าช่องสามมองการณ์ไกลที่ไม่อาจเสี่ยงเป็นกรณี “ น้ำผึ้งหยดเดียว “ ที่อาจบานปลายพลิกสถานะการณ์ให้บ้านเมืองกลับมาถอยหลังเข้าคลองได้อีก
จึงตัดสินใจ “ โดนด่า “ เพราะระงับการออกอากาศดีกว่า “ โดนเผา “ เพราะเผยแพร่ภาพที่อาจเป็นชนวนเหตุ ให้มือที่สามปั่นประแส
ทำให้กระแส “ ด่าแม้ว “ ลดลงกลับสวิงไปหาข้อความ “ อย่ากลัวที่จะทำความดี “
ของนกสินใจ “
เหตุของเรื่อง มันเกิดจากภาพในละครของ “ นก “ คำถามมากมายจึงตามมา ทำไมถึงทำภาพแบบนี้ออกมา .. ภาพนี้ความหมายลึก ๆ คืออะไร.. มีเจตนาอะไร แล้วทำไมไป โพสต์ข้อความแบบนั้น ..????
เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะ คุณนกและครอบครับเก็บข้าวของบินไปต่างประเทศเสียแล้ว..
ตำบลกระสุนตก จึงข้ามหัว “ เหนือแม้ว “ ไปตกที่ “ นก “ เต็ม ๆ
ส่วนสะเก็ดระเบิด เปิดแผลไม่แพ้กันก็คือ กรณีต่ออายุสัมปทานโดยไม่ผ่านการประมูลของช่องสาม ที่ทำเอาไว้ ในปี ๕๓ ในรัฐบาลนายอภิสิทธ์ ที่นกสินใจ เคยทวีตข้อความ “ อย่าปล่อยให้คนดี อย่างอภิสิทธิ สู้อย่างเดียวดาย “
กลับมาชี้แจงให้กระจ่าง เดี๊ยว เดียวก็จบ .. จะหนีไปทำไม
..................................