สำหรับคนที่รักแมว และชอบเลี้ยงแมว อาจจะทนได้กับการกัด จิก ข่วน  ของแมวจนทำให้เกิดบาดแผล
แต่นิสัยการกัด จิก ข่วน นั้น เป็นนิสัยที่ไม่ดี ยิ่งเป็นแมวที่ไม่ได้รับความรัก ความเอาใจใส่ อย่างแมวไม่มีบ้าน
แมวจรจัด สัญชาตญาณเอาตัวรอด ทำให้แมวใช้กรงเล็บ เพื่อป้องกันภัย

ในธรรมชาติ เมื่อแมวเกิดมา แม่แมวจะคอยสอนลูกๆ ในครอก ให้รู้จักเล่น งับ กัด จิก ข่วน อย่างระมัดระวัง
ยิ่งในช่วงอายุลูกแมวสามเดือนขึ้นไป การเล่นของลูกแมวจะรุนแรงมากขึ้น แม่แมวจะคอยดูแล ถ้าลูกๆ ในครอก
เล่นกัด จิก ข่วนที่รุนแรง แม่แมวจะจิก กัด ข่วน ที่รุนแรงกว่า เพื่อสอนให้ลูกรู้จักระมัดระวังการใช้กรงเล็บ

แต่ในแมวที่ไม่มีบ้าน ไม่มีแม่แมวดูแล ถ้าคนเลี้ยงนำไปเลี้ยง ต้องรับภาระในการสอนให้แมวรู้จักเล่น และไม่เล่น
รุนแรงเกินไป สิ่งสำคัญในการสอนคือ อย่านำนิ้วของเราไปให้แมวกัดเล่น เพราะนิ้วของเราไม่ใช่ของเล่นของแมว
ควรหาของเล่นที่เหมาะสมในการสอนแมว

การเล่นกับแมวมีสองแบบ แบบแรก การเล่นกับแมวแบบเจ้าของแมวมีส่วนร่วม โดยใช้เบ็ดตกแมว หรือไม้ล่อแมว
เป็นไม้ขนาดพอเหมาะ ผูกสายเชีอกไว้ปลายไม้ แล้วอีกปลายผูกไหมพรม ตุ๊กตาตัวเล็กๆ มีเสียง มีสีสดใส
ล่อแมวให้ไล่ ข่วน ตะปบโดยไม่ทำให้ผู้เลี้ยงแมวบาดเจ็บ





แบบที่สอง คือ ปล่อยให้แมวเล่นเองตามลำพัง   ตบ ไล่ กัด จิก แทะ ตามลำพัง ของเล่นประเภทนี้ เจ้าของไม่ควร
ล่อแมวกับมือ เพียงโยนลงพื้น ให้แมวใช้สัญชาตญาณดิบของตัวเองเล่นตามสบาย


  




ถ้าฝึกแมวให้รู้จัก กัด จิก ตบ ข่วน แล้วแมวยังไม่หยุดพฤติกรรมก้าวร้าวตามสัญชาตญาณ ให้เราหยุดเล่น หยุดใส่ใจ
เดินหนี รอจนแมวสงบ แล้วค่อยเริ่มฝึกใหม่ ไม่ควร ดุ ด่า ตบ ตี เพราะแมวอาจจะหนีแล้วจำไม่กล้ายุ่งกับเรา หรือ
ในทางร้าย แมวอาจต่อสู้กลับ ทำให้เราบาดเจ็บได้  อย่างไร แมวก็เป็นสัตว์เดรัจฉานชนิดหนึ่ง ที่มีสัญชาตญาณ
ระวังภัยให้ตัวเอง คนเลี้ยงต้องระมัดระวัง อย่างที่โบราณว่า อย่าไว้ใจสัตว์หน้าขน การอดทน เสียเวลาฝึกแมว
ให้มีนิสัยดี ดีกว่า ต้องมาแก้ไขนิสัยแมวเมื่อทำให้เกิดการบาดเจ็บไปแล้ว ป้องกัน ดีกว่า แก้ไข ค่ะ

อยากเห็นแมว เป็นสัตว์เลี้ยงนิสัยดีๆ  มีไว้ในบ้าน ไม่ใช่ ก้าวร้าว จนต้องนำไปปล่อยตามสถานที่ต่างๆ เลี้ยงเขา
ก็ต้องรู้จักฝึกให้เขา ไม่ใช้สัญชาตญาณในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร  

อย่างน้อย ก็น่าจะดีกว่า นิทานอิสป เรื่องนางแมวมีรัก ( The Cat and Venus )