(เล่า) รักออนไลน์ของจขกท.กับหนุ่ม(จีน)มาเลย์

สวัสดีค่ะ วันนี้จู่ๆก็รู้สึกคันมืออยากเล่าซะงั้น เลยมาตั้งกระทู้เล่าเรื่อง (ออกแนวระบาย) เผื่อว่าจะมีใครหลงเข้ามาอ่าน พอให้คำปรึกษามั่ง 5555
เรื่องนี้ไม่แฮปปี้เอนดิ้งนะค้าา

(ชื่อกระทู้เสี่ยวจัง เพิ่งมาตั้งหลังพิมเสร็จ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นนิยายหวานกุ๊กกิ๊กนะคะ นึกไม่ออกจริงๆค่ะ555 )

ก็คือ เรื่องเกิดเมื่อ2ปีที่แล้วค่ะ เดือนตุลาปี2554 ช่วงนั้นน้ำกำลังท่วมเลยได้ปิดเทอมยาว (ไม่อยากบอกอายุจขกท.เลย เดี๋ยวโดนหาว่าแก่แดด555)
ช่วงนั้นเลยว่างๆค่ะ เพราะเลื่อนเปิดเทอม ก็เล่นเว็บไปตามประสา (เฟสบุ๊คไม่ค่อยมีคนคุยค่ะ 555) ก็เห็นเว็บบอร์ดเว็บนึงเค้าแนะนำ
เว็บแชทกับคนตปท.ค่ะ ชื่อเว็บ omegle หลายคนเห็นชื่อนี้อาจจะตกใจได้ เพราะชื่อเสียงเว็บนี้ไม่ค่อยดีเลยค่ะ 5555
ในเว็บบอร์ดที่จขกท.เล่นเนี่ย ก็จะเป็นประมาณว่าพวกเด็กวัยรุ่นเล่นกัน ก็หวังจะเจอหนุ่มฝรั่งหล่อๆ (แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกหื่นค่ะ)
แล้วก็มามโนเรื่องกันว่าคุยกับคนนี้ๆ แล้วเอาบทสนทนาไปลงพร้อมรูปให้คนอื่นอิจฉาเล่นๆ
ในตอนแรกเนี่ย จขกท.ไม่ได้หวังเลยว่าจะมาหาแฟนเป็นคนตปท.อะไรงี้ เพราะตอนนั้นเพลงยังฟังบอดี้แสลมอยู่เลยค่ะ555 (ฟังแต่เพลงไทย)
กะจะฝึกภาษาอย่างเดียว ออกตัวก่อนนะ ว่าในชีวิตจริงจขกท.เป็นคนเงียบมาก แล้วก็ค่อนข้างเรียนค่ะ
แต่บุคลิกไม่ได้เนิร์ดนะ แค่อยากตั้งใจเรียนค่ะ ไม่เคยผ่านประสบการณ์รักๆมาก่อน เอาเป็นว่าโสดตั้งแต่เกิดค่ะ (เศร้า..)
ต่อ ทีนี้ก็เล่นเว็บโอเมเกิ้ลไปเรื่อย เพราะว่างและไม่มีคนคุยด้วย ไอตอนแรกเนี่ยก็เจอคนหลายแบบนะคะ แบบพวกฮอร์นนี่ เอะอะๆก็โป๊อย่างเดียว
พวกนี้เราจะไม่คุยด้วยเลย กดหนีอย่างเดียว แล้วก็อีกอย่างเจอคนอินเดียบ่อยมากกกก แล้วก็คนอินเดียเนี่ยตื๊อมากกกกค่ะ
แบบคุยไม่กี่คำ ก็มาบอกไอไลค์ยู วิลยูบีมายเกิร์ล เทือกๆนี้ ตอนแรกก็เกือบจะเคลิ้มนะ พอเห็นรูปเค้าแล้วไม่ไหวจริงค่ะ (อย่าว่าเรานะ T_T)
เลยต้องกดหนีตามเคย (มารู้ทีหลังว่าพวกคนอินเดียจะคุยแบบนี้กับทุกคน)
สรุปแล้วไม่ค่อยได้คุยกับใครเป็นเรื่องเป็นราวหรอกค่ะ ส่วนใหญ่เบื่อๆจะเข้าไปเกรียนๆมากกว่า
อ้อ แล้วก็ต้องบอกว่าตอนนั้นภาษาอังกฤษเรางูปลามากเลยค่ะ555 แต่พอสื่อสารได้ แต่ศัพท์ยากๆที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็จะนึกไม่ออกค่ะ
อีกอย่างนึงก็คือ เราไม่เคยให้เฟสบุ๊คใครเลย เพราะเราคิดว่าเฟสเนี่ยมันส่วนตัวม๊ากกกกก เกินกว่าที่จะให้คนแปลกหน้า แปลกถิ่นได้
บางคนพอคุยๆแล้วเราไม่ให้เฟส ก็เลิกคุยไปเลยก็มีนะ แต่เราก็ไม่มายด์อะไรเท่าไหร่ ความจริงคือในเฟสมีรูปหลุด รูปที่แท็กเรา น่าเกลียดมากกกก
เต็มไปหมด แล้วก็กลัวเค้าจะมาโพสบนวอลเราด้วยค่ะ เดี๋ยวเพื่อนเห็น (อย่างที่บอก เราค่อนข้างเรียบร้อย) ไม่อยากให้เพื่อนคิดว่า
"ในชีวิตจริงหาแฟนไม่ได้ ถึงขั้นต้องมาหาในเน็ตเลยหรอ" (เพราะเราก็เคยว่าเพื่อนบางคนไว้แบบนั้นค่ะ555)
ที่สำคัญคือ เวลาเราคุย เราจะไม่โชว์รูป ด้วย เหตุผลหรอ คือเราขี้เหร่มั้ง 5555 กลัวคนคุยด้วยหนีหมด อันนี้คิดว่าเป็นเหตุผลจริงๆนะคะ
เพราะในตอนแรกหลอกตัวเองว่า ที่ไม่โชว์รูปเพราะไม่อยากให้คนรู้จักตัวตนเรามากเกินไป และอยากเจอคนที่คุยกับเราไม่ใช่เพราะหน้าตา (โลกสวยได้อีก)
เราหน้าจีนนะ แต่ตอนนั้นอ้วน ผมสั้น สิวเขรอะ ไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้า ทั้งสิ้น (ตอนนี้รู้สึกคิดถูกที่ไม่โชว์รูป)

ต่อ วันนั้น 24 ตค. 2554 ประมาณ3ทุ่มนิดๆ เราก็ได้เจอกับคนๆนึง มาจากมาเลเซียค่ะ (อยู่ใกล้กันแท้ๆ แต่ในตอนนั้นเราไม่รู้จักประเทศนี้เลย)
คือคุยตอนแรกเนี่ย เฟลิร์ตมากกกกก แต่ตอนนั้นเราเริ่มชินแล้ว เลยคิดว่าคงปกติ คุยสนุกๆไม่เสียหายอะไร (ปกติเวลาเราเจอคนคุยดีๆ
แบบพอจะเป็นเพื่อนได้ หรือเค้าขอ ก็จะให้เมลล์ไปคุยต่อใน msn) เค้าก็บอกว่ามันจะเป็นไปได้มั้ย ถ้าเราจะรู้จักกันมากขึ้นในชีวิตจริง
เค้าก็ขอเมลล์เรา ซึ่งเมลล์เราเนี่ยเป็นเมลล์ที่สมัครใหม่เพื่อเอาไว้แชทกับคนตปท.โดยเฉพาะเลย (ไม่อยากให้ใครรู้ตัวตน)
เราก็ไปคุยกันต่อ เค้าก็ออกแนวจีบๆ หยอดๆ ค่ะ แบบชอบส่งอีโมหัวใจๆมา5555
ตอนนั้นเราก็ค่อนข้างซีเรียสกับสังคมออนไลน์นิดนึง แบบกลัวโดนหลอกไปฆ่า (เห็นข่าวบ่อย) เราก็จะพูดขัดๆไว้ เช่น เรายังรู้จักกันไม่ถึง2ชม.เลยนะ -*-
พร้อมกับอีโม -*- -_- =_= = =' แสดงสีหน้าเอือมเต็มที่ 555 ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ไรงี้ เราส่งเพลงมาเล มาเล
ของเป้ไปให้เค้าด้วย 5555 อันนี้คือที่เราก็อปเนื้อหาเพลงไปให้เค้า

This one Msian girl, Chinese-Malaysian to be specific, went to Bangkok and coincidentally met this Thai guy. She asked him where to go shopping and asked him for his number in case she needs help later on. He offered to take her places around Bkk. They fell for each other. However, she had to go back to Malaysia. He missed her, so he flew to KL to see her. They met again and had a great time. After all, she went back to her ex and forgot about him. He's heart-broken. The End.

เค้าก็บอกก horrible ending it should be good start good ending ไรงี้ เราก็ถามเค้าว่าไม่มีแฟนหรอ? (สงสัยว่ามาคุยงี้แฟนไม่ว่าหรอ)
เค้าก็บอกว่า เคยมีแต่เลิกไปแล้ว เราก็บอกเออเศร้าเลยดิ เค้าบอกไม่หรอกนานแล้ว โนวอรี่ แล้วก็เค้าก็ขอเฟสเรา แต่เราไม่ให้5555
แล้วถามอีกว่าถ้าไปbkk will u come out? ตอนนั้นเราเริ่มกลัวละ มันจะจิตมั้ยเนี่ยยย555 เราก็ no way
will u visit malaysia? เราก็โนนนนอีก  เค้าก็ส่งตัวร้องไห้มา 5555
คุยไปเรื่อยๆสักพักเค้าก็บอกว่าปกตินอนกี่โมง เราบอกประมาณ5ทุ่ม เค้าก็บอกว่า เนี่ยเกือบจะหลับแล้ว เราก็พูดไปตามมารยาทนะว่า
ง่วงหรอ งั้นก็ไปนอนสิ เค้าก็บอกว่า u asking me go bed now ? sweet เราก็ส่งตัวนี้ไป -____- เค้าก็บอก  i know u care me i reali happy
ตอนนั้นเราก็นิ่งเต็มที่ บอกว่า อะไร นี่เราไม่ได้รู้จักกันเลยนะ เค้าก็ส่งมาว่า
but i happy that there still ppl who cares me
i been long time i never be ask to do something that benefit me
but u did it to me
so i m happy
(นี่ก็อปมาจากบทสนทนาเลยนะคะ ภาษาอังกฤษเค้าแปลกๆนิดนึง)
คือตอนนั้นที่อ่านรู้สึกหวิวเลย เหมือนเค้าว้าเหว่มาก อยากมีเพื่อนไรงี้ เราก็เริ่มเปิดใจนิดนึงละ
เราก็บอกว่า if i have someone who care me i will happy too (ภาษาอังกฤษอนุบาลมากอย่าสนใจ555)
เค้าบอกมาว่า i wish i could พอมาถึงประโยคนี้แล้ว เราก็หวิวอีกแล้ว (หวิวของเรานี่คือแบบรู้สึกเสียวไส้วาบๆ หัวใจเต้นเร็วตึกๆ อะไรงี้อะค่ะ)
คือรู้สึกดีมากๆ (ใจง่ายไปมั้ย) เพราะไม่เคยมีใครมาพูดอะไรแบบนี้มาก่อน สักพัก ชื่อเราก็ไปขึ้นตรงรองเอ็มเค้าซะงั้น
แล้วเค้าก็ถามว่าเราชื่ออะไร เอิ่ม คุยมาตั้งนานเพิ่งถาม แต่เราคิดว่าเค้าคงรู้จากชื่อเอ็มเราแล้วมั้ง เหมือนถามย้ำๆ
ตอนนั้นรุ้สึกดีนะ ที่ชื่อเราอยู่บนรองเอ็มเค้า คือมั่นใจว่าเค้าคงไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นๆ (หญิงไทยใจมโน)
พอก่อนไปเค้าก็เฟลิร์ตทิ้งท้ายไว้ว่า
how about we sleep together
then we dream each other
nice
เราก็เห้ยชวนหลับนอนเรอะ มันโรคจิตป่าวหว่า เผลอใจไปครึ่งนึงละ เราเลยบอกว่า นี่เป็นโรคจิตหรอ? (ขรรม ตอนนั้นถามไปโต้งๆงี้เลย)
เค้าก็บอกว่า
i m normal
i m happy to meet u
thanks dear
meet u tml
we already met for 2hours
เราติดใจตรงประโยคสุดท้ายอะค่ะ แบบเหมือนเค้าใส่ใจนะ เหมือนอยากรับประกัน รึป่าวไม่รู้ อาจจะมโนเอง 5555+
เราก็ อ้อหรอ อือๆ คือตอบแบบนี้ไปเพราะตอนนั้นเขินอะ เค้าก็บอก
go sleep
u also bed earlier la
be blanket
บอกเลยว่า ตอนนั้นรู้สึกอบอุ่นมากๆ เนื่องจากไม่เคยมีใครทำอะไรให้มาก่อน เลยนั่งทบทวนกับตัวเองสักพัก เลยถามเค้าว่า
ปกติพูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนมะ? (ใครจะโง่ตอบถถถ) เค้าก็โนๆไปตามเรื่อง แล้วก็ไปนอนกัน
คืนนั้นตอนนอนนี่ ใจเต้นมากรู้สึกได้เลย พอจะหลับตาทีไร พอนึกถึงเรื่องเมื่อกี๊แล้วยิ้มขึ้นมาเลย (เว่อมะ เป็นแบบนั้นจริงๆ)

จบวันแรกที่คุยกันจ้า

ถ้าเราอ่านถึงตรงนี้เราก็คิดนะว่าอิจขกท.มันใจง่ายไปมั้ย คุยกันแค่2ชม. จะไปรู้สึกดีด้วยได้ไง เค้าก็หยอดไปตามประสาโลกออนไลน์ล่ะย่ะ
หรืออิจขกท.มันมโนเองล้วนๆเลยนะเท้อออ เค้าก็พูดกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
คือไม่รู้ความรักมันบังตาหรืออะไรนะ เราคิดว่าเค้าต้องมีส่วนนึงอะที่จะมีใจให้จขกท.มั่งแหละ อันนี้วิเคราะห์จากที่คุยกันมาเรื่อยๆนะ
แม้จะเป็นเวลาไม่นาน แต่มันก็ฝังใจเราไปมากกว่า2ปีเลยแหละ และอาจจะต่อๆไป ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย

เดี๋ยวมาต่อ

ปล. ถ้ามีคนเข้ามาอ่าน อยากรู้ว่าอยากฟังเรื่องแบบไหนคะ เอาแบบเล่ารวบรัดทีเดียว ไม่เอาบทสนทนา
หรือจะเอาบทสนทนาด้วย ก็อปมาวางเลย รู้สึกเราย้ำคิดย้ำทำกับคำพูดเค้าแต่ละประโยคมาก เพราะตอนนี้รู้สึกว่าคำพูดเค้ามีค่ามากค่ะ
ปลล. ขออนุญาตตั้งเป็นกระทู้คำถามนะคะ พอดียังไม่ได้ยืนยันตัวตน แต่อยากตั้งกระทู้เลย แหะๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ขอบคุณที่อัพให้อ่านครับ
ผมคิดว่าถ้าเรายังนึกถึงเขาอยู่ ก็ลองทักไปคุยเลยตรงๆครับ จะได้เคลียร์กัน
ถ้าเขายังคบกับแฟนอยู่เราก็คงต้องถอยออกมา
ยังไงก็ไม่อยากให้ปล่อยไปแบบนี้มันก็อาจจะติดค้างในใจเราไปตลอดก็ได้นะฮะ

อาจจะแนะนำไม่ดีมาก จขกท. ลองๆคิดพิจารณาดูฮะ สู้ๆครับ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ความรักวัยรุ่น ชีวิตวัยรุ่น หาเพื่อน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่