SPOILER!!! เจ้าสาวแห่งทางสายไหม ตอนที่ 35 - ผลสุดท้าย...

กลับมาพบตอนใหม่ของเจ้าสาวแห่งทางสายไหมกันอีกรอบในเดือนนี้นะครับ

งวดนี้มาเร็วขึ้นกว่าเดิมนิดนึง แต่เทียบกับที่เคยมาตามปกติก็ยังช้าอยู่ดีแฮะ

โดยตอนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายของปี 2013 นี้แล้ว ไปชมกันได้เลยครับว่าตอนสุดท้ายของปีนี้จะมีอะไรมาให้ชมกันบ้าง ยิ้ม








เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่ท่านพี่อาเซลโดนชาวเมืองที่กำลังโกรธแค้นนับสิบๆ คนรุมสกรัม โจลุคกับไบมัตสองญาติสนิทพยายามเข้าไปช่วย แต่ก็โดนลากตัวลงจากหลังม้ามาล็อคตัวไว้กับพื้นจนทำอะไรไม่ได้ ฝ่ายคาร์ลุคกับอามีร่าพยายามร้องห้ามสุดเสียง แต่ไม่อาจแข่งกับเสียงโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งของชาวเมืองที่กำลังโกรธแค้นได้

ทว่าก่อนที่ท่านพี่จะโดนรุมทึ้งจนเละไม่เหลือซากนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีทหารกองหนึ่งควบอูฐวิ่งพรวดเข้ามาในลานหน้าศาลาว่าการซึ่งกำลังชุลมุนกันอยู่ ฝ่ายชาวบ้านเห็นกองทหารจากที่ไหนไม่รู้ขี่อูฐพรวดพราดเข้ามาก็ตกใจแตกฮือหลีกทางให้ทหารกันยกใหญ่ รวมทั้งพวกที่รุมยำท่านพี่อาเซลอยู่ด้วย เหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังจับตัวท่านพี่ไว้อยู่ อามีร่าเห็นดังนั้นก็วิ่งเข้าไปจะดูบาดแผลให้ท่านพี่อย่างเป็นห่วง แต่ก็โดนท่านพี่ยกมือห้ามไว้เสียก่อน




หลังจากหายตกใจกับเหตุกะทันหันที่เกิดขึ้น ทหารหนวดเฟิ้มท่าทางเป็นหัวหน้าหน่วยคนหนึ่งก็ประกาศว่าพวกตนคือกองกำลังรักษาความสงบภายใต้บัญชาของข่าน* ผู้ปกครองดินแดนแถบนี้ ได้รู้ข่าวมาว่ามีเมืองถูกโจมตีก็เลยรุดมาเพื่อระงับเหตุ ประกาศจุดประสงค์เสร็จก็ออกปากขอคุยกับผู้ปกครองเมืองนี้ทันที

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ได้ยินแบบนั้น เจ้าเมืองก็ออกมาคุยด้วย หัวหน้าทหารเห็นเจ้าเมืองก็ถามถึงสภาพการรบและศัตรูที่มาบุกเมืองในครั้งนี้ทันที เจ้าเมืองก็เล่าให้ฟังทุกอย่าง โดยเล่าว่าพวกที่มาบุกเมืองในครั้งนี้คือกองกำลังผสมระหว่างเผ่าบาดันกับเผ่าเฮอร์กัล โดยสาเหตุที่พวกนั้นยกมาโจมตีในครั้งนี้เป็นเพราะเผ่าเฮอร์กัลเคยส่งคนมาแย่งตัวผู้หญิงของเผ่าที่แต่งงานกับคนในเมืองคืน (อามีร่า) แต่โดนชาวเมืองตีร่วงกลับไป เลยผูกใจเจ็บไปจับมือกับเผ่าบาดันพาพวกมาถล่มเมืองอีกรอบ โดยครั้งนี้มีเป้าหมายจะยึดทั้งผู้หญิงทั้งเมืองไปพร้อมๆ กันเลย หัวหน้าทหารก็ถามต่อว่า แล้วพวกเผ่าบาดันกับเผ่าเฮอร์กัลที่ว่าไปไหนหมดแล้ว ชาวเมืองก็ร้องตอบว่า พวกเราจัดการหมดแล้ว (ทำเอาอามีร่าถึงกับสะดุ้งหน้าซีด) ถึงมีบางส่วนหนีรอดไปได้ก็ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเหลืออาวุธกับม้าอยู่ไม่มาก ไม่มีกำลังมากพอจะมารบได้อีกแน่ ว่าจบก็ผายมือไปทางอาเซลกับพวกที่โดนจับตัวอยู่แล้วบอกว่า หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็ลองเค้นสอบเอากับ "พวกศัตรู" (อาเซล โจลุค กับไบมัต) ที่จับได้ดูก็ได้


สภาพท่านพี่อาเซลหลังรอดจากหน่วยสหบาทาประจำเมืองมาได้...เห็นแล้วนึกถึงเบียคุยะหลังอัดกับอิจิโกะยังไงชอบกลแฮะ




ได้ยินเจ้าเมืองเรียกอาเซลกับพวกว่า "ศัตรู" แบบนั้น คาร์ลุคก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นแย้งทันควันว่าพวกเขาไม่ใช่ศัตรูนะ ทำเอาเจ้าเมืองกับหัวหน้ากองทหารชะงักไปด้วยความงุนงง ตอนนั้นเอง พวกผู้หญิงชาวเมืองที่หลบภัยอยู่ในศาลาว่าการของเมืองก็แห่กันออกมาช่วยรับรองอีกแรงว่าอาเซลไม่ใช่ศัตรู โดยเล่าว่าพวกตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ตั้งแต่ตอนที่อามีร่ากระโดดลงไปช่วยคาร์ลุค จนถึงตอนที่อาเซลคว้าตัวอามีร่ากับคาร์ลุควิ่งหนีจนพ้นทางปืนของเผ่าบาดัน

"เขาคนนั้นช่วยเด็กสองคนนี้ไว้ อย่าได้ปฏิบัติกับผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคนของเราอย่างไม่เป็นธรรมเลยเจ้าค่ะ"


สมาคมแม่บ้านประจำเมือง...ตัวช่วยสำคัญของอาเซลประจำตอนนี้




ได้ยินพวกผู้หญิงพูดขึ้นดังนั้น ยูซุฟกับพวกผู้ชายที่ไปรบร่วมกับยูซุฟก็เอ่ยรับรองขึ้นมาอีกแรงว่าพวกตัวเองก็ได้อาเซลช่วยชีวิตไว้ในยามตกตาตายเหมือนกัน

เห็นพวกยูซุฟออกมาพูดดังนั้น ชาวเมืองคนอื่นที่เห็นพวกอาเซลรบกับเผ่าบาดันอย่างกล้าหาญไม่กลัวตาย และไม่ได้ทำร้ายคนในเมืองเลยแม้แต่คนเดียวก็เริ่มส่งเสียงร้องสนับสนุนขึ้นมาบ้าง ต่างจับกลุ่มส่งเสียงเซ็งแซ่เหมือนนกแตกรัง ฝ่ายเจ้าเมืองเห็นสภาพภายในลานเริ่มจะเอะอะก็ร้องบอกให้ทุกคนเงียบเสียง แล้วหันไปถามอาเซลที่โดนคุมตัวอยู่ว่าพวกอาเซลเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ไม่ใช่คนของเผ่าศัตรูหรอกรึ อาเซลก็นิ่งเงียบไม่ยอมตอบ โจลุคต้องเป็นฝ่ายตอบแทนว่า "ถึงเป็นเผ่าเดียวกันก็ใช่ว่าจะคิดเห็นเป็นอย่างเดียวกันไปทั้งหมดซักหน่อย ยิ่งคนเยอะมากเท่าไหร่ ความเห็นก็ยิ่งแตกแยกมากขึ้นเท่านั้นนั่นแหละ"

เจ้าเมืองได้ยินดังนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบทำหน้าใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปถามอาเซลว่าหัวหน้าเผ่าบาดันอยู่ที่ไหน อาเซลก็ตอบทันทีว่าตายแล้ว (ก็เฮียแกเป็นคนส่องเองนี่นะ) เจ้าเมืองก็ถามต่อว่า แล้วหัวหน้าเผ่าเฮอร์กัลล่ะ แต่คราวนี้อาเซลนิ่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร

เห็นอาเซลไม่ตอบเจ้าเมืองก็เลิกซักต่อ แล้วบอกให้ลูกน้องคุมตัวพวกอาเซลไปขังไว้ก่อนค่อยคุยกันต่อทีหลัง พวกลูกน้องก็กระชากตัวทั้งสามคนให้ลุกขึ้น แล้วคุมตัวเดินไปยังศาลาว่าการ โดยมีสายตาของอามีร่ากับคาร์ลุคมองตามไปอย่างเป็นห่วง

ระหว่างที่ยืนมองส่งพวกอาเซลอยู่นั้นเอง อามีร่าก็สัมผัสได้ว่ามีของเหลวเหนียวข้นบางอย่างติดอยู่บนไหล่ขวาของคาร์ลุคที่ตัวเองเอามือจับไว้ พอยกขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเลือดนั่นเอง อามีร่าตกใจรีบก้มลงมอง ก็พบว่าที่ไหล่ซ้ายของคาร์ลุคมีรอยแผลถูกฟันจนเลือดท่วมเต็มไปหมด คาร์ลุคเห็นอามีร่าหน้าซีดขนาดนั้นก็พยายามปลอบใจว่าไม่เป็นไร แค่โดนถากๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้เจ็บอะไรเลย

ทว่าพอพูดถึงตรงนั้น คาร์ลุคก็หน้ามืดล้มวูบไปดื้อๆ ทำเอาอามีร่าถึงกับร้องกรี๊ด อุ้มร่างคาร์ลุคขึ้นบ่าแล้วร้องโวยวายให้ใครก็ได้ตามหมอมาที


เทรนด์นางเอกยุคนี้...ต้องหิ้วพระเอกลอยไปลอยมาได้สินะ





ฉากตัดมายังฝั่งนอกเมือง หัวหน้าเผ่าเฮอร์กัล (พ่อของอาเซลกับอามีร่า) ที่โดนยิงพรุนไปเมื่อตอนที่แล้วกำลังเดินสโลสเลเลือดโซมกายหนีออกจากเมืองไปโดยไม่มีใครพบเห็น (คาดว่าเพราะระหว่างนั้นชาวเมืองมัวแต่สนใจการมาของกองทหารอยู่ก็เลยไม่มีใครทันเห็นตอนพ่อของอามีร่าแอบหนีไป) โดยระหว่างที่หลบหนีอยู่ก็พึมพำสาปแช่งทั้งคาร์ลุค ทั้งอามีร่า ทั้งพวกเผ่าบาดัน ทั้งพวกคนในเมืองทุกคนไปพลาง ชนิดที่เรียกว่าขุดโคตรเหง้าโองการแช่งน้ำมาด่ากันเลยก็ไม่ผิดนัก




กำลังเดินพลางด่าพลางอยู่นั้นเอง พ่ออามีร่าก็สังเกตเห็นว่ามีม้าหลังเปล่าสองตัวอยู่ใกล้บริเวณนั้น (คาดว่าน่าจะเป็นม้าศึกของเผ่าเฮอร์กัลไม่ก็เผ่าบาดันที่เจ้าของตาย) พ่ออามีร่าเห็นโอกาสเอาตัวรอดกลับถึงเผ่ามาเกยต่อหน้าดังนั้นก็แสยะยิ้มอย่างน่ากลัว แล้วเค้นเสียงอย่างผู้กำชัยออกมาว่าถ้าตัวเองรอดกลับไปถึงค่ายพักหลักของเผ่าเฮอร์กัลได้ ก็จะระดมคนกลับมาถล่มเมืองนี้อีกเมื่อไหร่ก็ได้ และกล่าวคำอาฆาตว่าเจอกันอีกเมื่อไหร่จะเผาไอ้เมืองบ้าๆ นี่ให้ราบเป็นหน้ากลองไปเลยคอยดู


ทว่า เพิ่งจะฝากคำอาฆาตได้แค่ไม่กี่คำ ลูกธนูดอกหนึ่งก็แล่นมาปักเข้ากลางหลังพ่ออามีร่าอย่างรวดเร็วและเงียบกริบ ร่างของหัวหน้าเผ่าเฮอร์กัลกระตุกเฮือกขึ้นครั้งหนึ่ง ก่อนจะล้มลงสิ้นชีวิตอยู่ ณ ตรงนั้นอย่างไร้ซุ่มเสียง

ซึ่งเจ้าของลูกธนูที่ปักหลังพ่ออามีร่านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นนายหญิงใหญ่ของบ้านไอฮาน ย่าของคาร์ลุคกับอามีร่านั่นเอง

ครั้นเห็นว่าร่างอีกฝ่ายนอนนิ่งไม่ไหวติงแล้ว หญิงชราก็ลดธนูในมือลง แล้วมองร่างไร้วิญญาณของชายชราอดีตเพื่อนร่วมเผ่าด้วยสายตาทอดถอดระคนสมเพช ก่อนจะโคลงศีรษะช้าๆ อย่างสะท้อนใจ แล้วจึงควบเจ้าแพะคู่ใจให้หันหลังกลับเมืองไป




ฉากตัดกลับมาทางฝั่งเมืองของพวกคาร์ลุคอีกครั้ง คาร์ลุคฟื้นขึ้นมาที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งจัดไว้เป็นที่สำหรับพยาบาลคนเจ็บ อามีร่าเห็นคาร์ลุคฟื้นขึ้นมาแล้วก็ร้องไห้โผเข้ามากอดคาร์ลุคไว้อย่างดีใจและโล่งใจ ทำเอาคาร์ลุคจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

ตอนนั้นเอง คุณหมอประจำหมู่บ้านก็แวะมาหา บอกว่าคาร์ลุคเสียเลือดมากไปก็เลยวูบไปเท่านั้น ไม่ได้บาดเจ็บอะไรหรอก

ได้ยินคุณหมออธิบายดังนั้น คาร์ลุคก็ยกมือขึ้นแตะแขนของอามีร่าอย่างนุ่มนวล แล้วกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาเป็นเชิงปลอบใจว่าไม่เป็นไรแล้วนะ




กำลังหวานได้ที่กันอยู่นั้นเอง ท่านย่าก็จูงแพะเดินมาหา แล้วถามอาการของคาร์ลุคว่าเป็นยังไงบ้าง คาร์ลุคก็ตอบว่าไม่เป็นไรแล้ว ท่านย่าก็เดินหยิบผ้าที่ซับห้ามเลือดตรงไหล่ดู พบว่าเลือดหยุดไหลแล้ว ก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่ารับรู้ ก่อนจะหันไปมองอามีร่าซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า

"พ่อของเจ้าตายแล้วนะ"

อามีร่าถึงกับนั่งเซ่ออยู่กับที่ แม้แต่คาร์ลุคก็ยังอดตกใจไปด้วยไม่ได้ ท่านย่าก็บอกต่อว่า หลังจากนี้ไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาพาตัวอามีร่ากลับไปอีกแล้วนะ ว่าจบก็ตบไหล่หญิงสาวเป็นเชิงให้กำลังใจครั้งหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไป


------------------------------------------------------------


ฉากตัดอีกครั้ง มายังที่คุมขังที่อาเซลถูกคุมตัวอยู่ อามีร่าเข้ามาช่วยทำแผลให้กับอาเซล แม้อีกฝ่ายย้ำแล้วย้ำอีกว่าไม่ต้องก็ได้ แต่อามีร่าก็ยังยืนยันจะทำแผลให้จนได้ อาเซลเห็นไม่มีทางเลือกก็เลยจำใจยอมให้น้องพันแผลไป

ระหว่างที่พันแผลอยู่นั้น อามีร่าก็พูดเรื่องพ่อตายแล้วขึ้นมา อาเซลก็นิ่งไปไม่พูดอะไร แต่เมื่อหันกลับไปเห็นน้องกำลังปิดปากกลั้นสะอื้นอยู่ ก็บอกน้องว่าอย่าร้องไห้สิ ก็น่าจะคิดได้ไม่ใช่เหรอว่าผลมันต้องลงเอยแบบนี้

แต่เมื่อเห็นน้องยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด อาเซลก็ได้แต่ถอนใจเฮือก แล้วยื่นมือไปช่วยปาดน้ำตาให้น้องเพียงเท่านั้น





- จบตอนที่ 35 -







ก็เป็นอันจบศึกใหญ่ทางฝั่งคาร์ลุคกับอามีร่าในตอนนี้กันแล้วนะครับ

อ่านตอนนี้ทีแรกก็เสียวไส้อยู่เหมือนกันแฮะว่าจะดราม่าอะไรกันเลยมั้ย แต่ได้เห็นว่าไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าตัวประกอบย่อยๆ ตายเป็นเบือก็โล่งใจขึ้นจมเลยครับ ยิ่งถ้านับความสะใจที่ได้เห็นตาแก่หัวหน้าเผ่าบาดันกับตาแก่พ่ออามีร่าโดนธนูสอยร่วงด้วยแล้ว ก็ยิ่งนับว่าสมใจเป็นสิบเท่าเลย

ว่าแต่อีแบบนี้ทางเผ่าเฮอร์กัลจะยิ่งเละตุ้มเป๊ะกว่าเดิมรึเปล่านะ พ่ออามีร่าก็ตาย รอดกลับไปได้แต่พวกพี่น้องของพ่อที่ส่วนใหญ่สมองมีแต่กล้ามกับขี้เลื่อยทั้งนั้น อาเซลที่สมองดีกว่าคนอื่นก็ดันต้องนอนมุ้งสายบัวอยู่ที่คุกเมืองอามีร่าซะนี่ ไม่อยากคิดเลยจริงๆ แฮะว่าทางเฮอร์กัลจะเละเทะอีท่าไหนถ้าโดนพวกพี่น้องของพ่ออามีร่ายึดอำนาจไป

ยังไงก็รอลุ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้ากันละครับว่าเนื้อเรื่องตอนใหม่จะเป็นยังไงบ้าง ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่