เมื่อ 'จินตนาการสำคัญกว่าความรู้' และเหนือจินตนาการ ยังมี 'อุปทานหมู่' นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ยังหล่อเลี้ยงให้ม็อบของ 'มวลมหาประชาชน' ยังคงปักหลักกันต่อไป และพยายามจะลากยาวให้ถึงวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ก่อนจะถึงวันรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 23-27 ธ.ค.56
อุปทานหมู่ (Collective Hysteria) เป็นปรากฎการณ์ทางจิตสังคมอย่างหนึ่ง เกิดจากการที่คนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า ตนกำลังประสบภาวะเจ็บป่วยด้วยอาการอย่างเดียวกัน จากที่เราเคยเห็นข่าวปรากฎเป็นบางช่วง นักเรียนบางโรงเรียนเป็นลมล้มพับ ผีเข้า หรือกรีดร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันหลายคน จนต้องหามส่งโรงพยาบาล น่าจะเห็นภาพชัดขึ้นจากการเมืองไทยร้อนๆ ณ ขณะนี้
กลุ่มก้อนของ 'มวลมหาประชาชน' จำนวนถึง 5 ล้านคน (จัดว่ามากสำหรับจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ 48 ล้านคนหรือไม่?) มีภาวะร่วมกันของอุปทานหมู่ จากการปลุกระดมของแกนนำ ที่พยายามปลุกผีศัตรู (ผีทักษิณ) เพื่อสร้างมายาคติ ทำให้เกิด 'ความสามัคคีจากพื้นฐานของความเกลียดชังร่วมกัน' ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งของ ลัทธิฟาสซิสต์ อันเป็นชื่อสากล และ กปปส.พยายามตั้งชื่อใหม่ ให้เข้ากับบริบทแบบไทยๆ ว่าระบอบ 'ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์'
กลุ่มคนที่เกิดอาการอุปทานเหล่านี้ มีความรู้สึกร่วมว่า ประเทศถูกคุกคามและครอบงำโดย 'ระบอบทักษิณ' ซึ่งก็ยังหาคำนิยามที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ การโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ที่ยกระดับเป็น การสะกดจิตหมู่ (Mass Hypnosis) ผ่านทางสื่อเลือกข้างบางสื้อ ได้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และแพร่เชื้อโรคชนิดใหม่ที่เรียกว่า 'Thaksinophobia' ระบาดไปทั่วม็อบ รวมทั้งกลายพันธุ์เป็นเชื้อตัวใหม่คือ 'Election Phobia' อีกด้วย
จะอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเหล่านี้อย่างไรในสังคม ?
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เราคงต้องพยายามกู้ชีวิตพวกเขาคืนมา ก่อนจะกลายเป็นซอมบี้ ที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไร้ซึ่งความคิดของตัวเอง รอฟังเพียงคำสั่งของท่านผู้นำ ทางที่ดี น่าจะค่อยๆ ทยอยป้อนข้อมูลทีละน้อย ในรูปแบบสั้นๆ กระชับ เพื่อป้องกันอาการสำลักข้อมูล หลังจากปรับสมดุลทางร่างกายและจิตใจได้สักระยะหนึ่ง ก็จะเริ่มหายจากอาการอุปทานหมู่ กลับมาสู่โลกความจริงได้อีกครั้ง...
'จินตนาการสำคัญกว่าความรู้' แต่ เหนือจินตนาการ ยังมี 'อุปทานหมู่'
อุปทานหมู่ (Collective Hysteria) เป็นปรากฎการณ์ทางจิตสังคมอย่างหนึ่ง เกิดจากการที่คนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า ตนกำลังประสบภาวะเจ็บป่วยด้วยอาการอย่างเดียวกัน จากที่เราเคยเห็นข่าวปรากฎเป็นบางช่วง นักเรียนบางโรงเรียนเป็นลมล้มพับ ผีเข้า หรือกรีดร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันหลายคน จนต้องหามส่งโรงพยาบาล น่าจะเห็นภาพชัดขึ้นจากการเมืองไทยร้อนๆ ณ ขณะนี้
กลุ่มก้อนของ 'มวลมหาประชาชน' จำนวนถึง 5 ล้านคน (จัดว่ามากสำหรับจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ 48 ล้านคนหรือไม่?) มีภาวะร่วมกันของอุปทานหมู่ จากการปลุกระดมของแกนนำ ที่พยายามปลุกผีศัตรู (ผีทักษิณ) เพื่อสร้างมายาคติ ทำให้เกิด 'ความสามัคคีจากพื้นฐานของความเกลียดชังร่วมกัน' ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งของ ลัทธิฟาสซิสต์ อันเป็นชื่อสากล และ กปปส.พยายามตั้งชื่อใหม่ ให้เข้ากับบริบทแบบไทยๆ ว่าระบอบ 'ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์'
กลุ่มคนที่เกิดอาการอุปทานเหล่านี้ มีความรู้สึกร่วมว่า ประเทศถูกคุกคามและครอบงำโดย 'ระบอบทักษิณ' ซึ่งก็ยังหาคำนิยามที่ชัดเจนไม่ได้ แต่ การโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ที่ยกระดับเป็น การสะกดจิตหมู่ (Mass Hypnosis) ผ่านทางสื่อเลือกข้างบางสื้อ ได้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และแพร่เชื้อโรคชนิดใหม่ที่เรียกว่า 'Thaksinophobia' ระบาดไปทั่วม็อบ รวมทั้งกลายพันธุ์เป็นเชื้อตัวใหม่คือ 'Election Phobia' อีกด้วย
จะอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเหล่านี้อย่างไรในสังคม ?
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เราคงต้องพยายามกู้ชีวิตพวกเขาคืนมา ก่อนจะกลายเป็นซอมบี้ ที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไร้ซึ่งความคิดของตัวเอง รอฟังเพียงคำสั่งของท่านผู้นำ ทางที่ดี น่าจะค่อยๆ ทยอยป้อนข้อมูลทีละน้อย ในรูปแบบสั้นๆ กระชับ เพื่อป้องกันอาการสำลักข้อมูล หลังจากปรับสมดุลทางร่างกายและจิตใจได้สักระยะหนึ่ง ก็จะเริ่มหายจากอาการอุปทานหมู่ กลับมาสู่โลกความจริงได้อีกครั้ง...