คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คิดว่าน่าจะแยกทีละเรื่องค่ะ
- ความผิดเรื่องผู้เยาว์ ถึงอายุจะเกิน แต่ความผิดเกิดตอนยังเป็นผู้เยาว์ มีอายุความ 10 ปี
ก็หนักอยู่ค่ะ เพราะเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โทษจะหนักกว่าพรากเด็กอายุเกิน 15 แต่ไม่เกิน 18
ก็เท่ากับว่า แม้จะบรรลุนิติภาวะกันไปแล้ว แต่คดีก็ยังไม่หมดอายุความ เขาก็สามารถฟ้องร้องได้อยู่ค่ะ
- เรื่องของหมั้น ฝ่ายหญิงผิดสัญญาก่อน ก็คงขอคืนได้ ถ้าไม่ยอมคืนก็คงต้องฟ้องร้อง
แต่ถ้าให้แนะนำนะ ประนีประนอมกันไว้ดีที่สุด เรื่องของปล่อยมันไปเหอะ พยายามจากกันโดยดี คุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจ
ถึงตอนนี้ไม่ได้รักกันแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ ถ้าหากยังฝืนแต่งงานกันไปสุดท้ายก็คงต้องหย่าเลิกรากัน
สถานะเป็นรองเยอะน่ะ พรากผู้เยาว์เป็นอาญา หนักกว่า ผิดสัญญาหมั้นเยอะ แลกหมัดกันไม่คุ้มหรอก
- ความผิดเรื่องผู้เยาว์ ถึงอายุจะเกิน แต่ความผิดเกิดตอนยังเป็นผู้เยาว์ มีอายุความ 10 ปี
ก็หนักอยู่ค่ะ เพราะเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โทษจะหนักกว่าพรากเด็กอายุเกิน 15 แต่ไม่เกิน 18
ก็เท่ากับว่า แม้จะบรรลุนิติภาวะกันไปแล้ว แต่คดีก็ยังไม่หมดอายุความ เขาก็สามารถฟ้องร้องได้อยู่ค่ะ
- เรื่องของหมั้น ฝ่ายหญิงผิดสัญญาก่อน ก็คงขอคืนได้ ถ้าไม่ยอมคืนก็คงต้องฟ้องร้อง
แต่ถ้าให้แนะนำนะ ประนีประนอมกันไว้ดีที่สุด เรื่องของปล่อยมันไปเหอะ พยายามจากกันโดยดี คุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจ
ถึงตอนนี้ไม่ได้รักกันแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ ถ้าหากยังฝืนแต่งงานกันไปสุดท้ายก็คงต้องหย่าเลิกรากัน
สถานะเป็นรองเยอะน่ะ พรากผู้เยาว์เป็นอาญา หนักกว่า ผิดสัญญาหมั้นเยอะ แลกหมัดกันไม่คุ้มหรอก
แสดงความคิดเห็น
เป็นคู่หมั้นกันอยู่ในช่วงวัยเยาว์ พออายุครบ 17 สามารถถอนหมั้นได้เลยไหม ?
ในตอนแรกผมมั่นใจว่าผมจะผ่านมันไปได้ จนเกิดเรื่องที่ผมไม่คาดคิด จึงอยากจะขอคำปรึกษาครับ..
เริ่มเรื่องโดยที่ ผมอายุ 17 และแฟนสาวของผมอายุ 15 ซึ่งแน่นอนว่าเราสองคนคบกันอยุ่ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นผู้เยาว์ครับ
ผมและน้องเขารักกันมาก จนถึงขึ้นมีอะไรกันบนเตียงมาแล้ว แต่ก็ยังปิดเรื่องนี้ไม่ให้ผู้ปกครองรับรู้ครับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง.. ผมโดนผู้ปกครองทางฝ่ายแฟนสาวของผมเรียกให้ไปคุย เรื่องการคบหาของผมกับแฟนสาวครับ
คนจากบ้านนั้นเขาจับได้ว่าผมกับน้องเขามีอะไรกันเพราะไปพบยาคุมในกระเป๋าน้องเขาครับ ก็เลยเป็นเรื่องหน่ะสิ..
ซึ่งตอนนั้นผมอายุ 18 แล้ว เป็นช่วงที่ประจวบเหมาะมากสำหรับการที่ผมจะโดนฟ้องข้อหาพรากผู้เยาว์เลยหล่ะครับ
ทางบ้านนั้นบอกผมให้เรียกพ่อแม่ของผมไปคุย และมีการตกลงกันว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้
โชคดีที่เรื่องจบโดยที่เรื่องของผมไม่ถึงตำรวจ แต่จบที่ผมและแฟนสาวต้องหมั้นกันครับ
โดยที่ทางบ้านของผมต้องมอบสินสอดให้แก่ทางบ้านเขาครับ เป็นทอง มูลค่าสูงอยุ่เหมื่อนกัน
ตอนนั้นผมมั่นใจว่าผมจะสามารถอยู่ดูแลน้องเขาได้ เราก็คบหากันเหมื่อนเดิมและหลังจากที่ผมแฟนสาวบรรลุนิติภาวะแล้ว มีการมีงานทำที่มั่นคงแล้ว เราจะแต่งงานกันแน่นอนครับ
แต่.. นั้นก็เป็นความคิดของเด็กที่คิดว่าอะไรก็เป็นไปได้ จนวันหนึ่งแฟนสาวของผมไม่ยอมคุยกับผมครับ
เป็นเดือนเลย และก็จบลงที่แฟนสาวบอกเลิกกับผมครับ และผมก็เข้าใจ โดยเหตุผลที่เธอให้มาก็คือเธอหมดรักผมแล้วครับ
โดยที่ผมยังรักเธออยุ่และไม่ใช่ฝ่ายที่หมดใจครับ แต่ผมยอมเดินออกมาเอง เพราะผมเคารพการตัดสินใจของเธอมาก
และเราก็ไม่คุยกันอีกเลย แยกทางใครแยกทางมัน
แต่สถานะของเรานั้นยังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ และเรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ทราบครับ
และผมก็ไม่กล้าที่จะบอกเพราะกลัว..
ซึ้งตอนนี้ผมไม่รู้ผมคิดถูกรึป่าวที่ไม่บอก ผมก็พยายามศึกษากฎหมายในเรื่องนี้ไปในตัวด้วย..
แต่ผมก็มีจุดที่อยากถามและปรึกษาครับว่า..
- เมื่อน้องเขาอายุ 17 หรือ 20 หรือบรรลุนิติภาวะแล้วผมสามารถไปถอนหมั้นเองได้หรือไม่ครับ
- และเมื่อถอนหมั้นไปแล้ว แต่เป็นฝ่ายหญิงที่บอกเลิกหรือผิดสัญญาก่อน ผมจะสามารถนำของหมั้นหรือสินสอดคืนได้ไหมครับ
- หากเหตุของการหมั้นเกิดจากกฎหมายพรากผู้เยาว์ แต่ทางผู้ปกครองตกลงกันมาก่อนว่าจะหมั้น แล้วในขณะที่ผมและน้องเขาถอนหมั้นกันแล้ว ผมยังจะโดนฟ้องกฎหมายพรากผู้เยาว์อยู่ไหมครับถ้าในตอนนั้นน้องเขาอายุ 17 หรือ 20 หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว
ผมกลัวเรื่องนี้มากครับ เพราะทางผู้ปกครองทางบ้านผมและบ้านทางฝั่งนั้นก้ไปมาหาสู่กันอยุ่ และสนิทกันด้วย
แต่ผมกับแฟนเก่าของผมกลับไม่สู้หน้ากันครับ เลยอยากจะมาปรึกษาเรื่องนี้
หรือใครมีคำแนะนำ หรือแนวทางที่จะชี้แนะ ก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ