ในที่สุดวันนี้ก็ได้ไปดู Frozen แล้ว โชคดีแม่ไปด้วยเลยตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะดูพากย์ไทย เพราะได้ยินมาหลายว่าทั้งสองเวอร์ชั่นเก๋กู๊ด ผลคือชอบเสียงหนูนามาก... นอกจากใสแล้วยังสื่ออารมณ์ได้ชัดสุดๆ อีกเสียงที่ชอบคือพระเอก เจ้าชาย โอลาฟ แล้วก็ตาแก่ใส่วิก (น่าจะบอกว่าอีกหลายเสียงมากกว่ามั้งเนี่ย) เสียงพระเอกบวกภาพตัวใหญ่ๆ น่ารักแล้วดูอบอุ่นสุดๆ โอลาฟก็ขำมาก คนดูหัวเราะฉากฝันกลางฤดูร้อนมาก แต่ด้วยเสียงแล้วทำไมเราฟังแล้วมันมีมิติเศร้าร่วมด้วยไม่รู้ ไม่รู้เพราะตัวเองสำเหนียกว่ามันเป็นฝันกลางวันที่ตอนจบเศร้าแน่นอน หรือคนพากย์ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วด้วย ถ้าตั้งใจอยู่แล้วนี่ยกนิ้วให้เลย ฟังแล้วได้อารมณ์หัวเราะขื่นๆ มาก เลยแอบดูไปลุ้นไปกับจุดจบของเจ้าตัวนี้ กลัวจะออกแนวหิ่งห้อยในเจ้าชายกบ
จากเสียงไทย เพลงที่ได้ใจไปสุดๆ คือเพลงชวนปั้นตุ๊กตาหิมะ นัยว่าฉากนี้ทั้งแม่ทั้งลูกดูแล้วนั่งน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กันเลย กินใจมาก มันทำให้ฉากไคลแมกซ์ก่อนจบมีน้ำหนักขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็น่าเสียดายเพราะอารมณ์มันดันมาพี้กตอนนี้แล้ว ฉากจบกลับดรอปลงไปยังไงไม่รู้ หรือส่วนตัวไม่ค่อยอินกะเอลซ่าก็ไม่รู้แฮะ
แต่นอกจากเพลงนี้กับเพลงฝันฤดูร้อนแล้ว เพลงอื่นเฉยๆ เมื่อกี้เพิ่งไปลองฟังเพลง First Time อะไรซักอย่างนั่น ปรากฏว่าต้นฉบับเพราะกว่า ส่วนเพลงหลักคือ Let it go ยังไม่ได้ฟังเวอร์ชั่นในเนื้อเรื่องแบบออริ ฟังแต่แบบเอ็มวี ไม่รู้สึกเพราะเท่าไหร่ รวมถึงเพลงเวอร์ชั่นไทยด้วยครับ (อันนี้ส่วนตัวนะ)
ในส่วนของภาพก็งามสุดๆ ดูสามดีแล้วน้ำแข็งแทบจะงอกมาทิ่มตากันเลยทีเดียว พระเอกจากที่เห็นภาพนิ่งกะในเทรลเลอร์นิดหน่อยไม่รู้สึกเป๊กเท่าไหร่ แต่ในหนังน่ารักมาก แต่ยังสู้อีตาฟินจากราพันเซลไม่ได้ (ก็นั่นมันถึงชื่อ ‘ฟิน’ อ่ะนะ
) จะว่าไปถ้าเทียบอารมณ์โรแมนติกแล้วราพันเซลหวานชวนจิ้นกว่าเยอะเลย
สรุปว่าเรื่องนี้โอเคและไม่เสียดายตังค์เลย (กะว่าจะเก็บดีวีดีชัวร์ๆ) แต่ถ้าเทียบกะราพันเซลแล้วยังชอบเรื่องนั้นมากกว่า (วันนี้ออกจากโรงมาเดินตามหาแผ่นเพราะกะให้แม่ดูต่อ แต่ดันหาไม่เจอ กรี๊ด...) และถ้าจะเทียบกับหนัง animation ในปีเดียวกันยังยกให้ The croods ทั้งในด้านภาพและประเด็นของเรื่อง เรื่องนั้นดูดีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลย แต่ Frozen จับเด็กมากกว่าครับ
ใครยังไม่ได้ดูรีบเข้านะ กลัวจะออกจากโรงซะก่อนครับ
เพิ่งไปดู Frozen มาครับ น่ารักมาก
จากเสียงไทย เพลงที่ได้ใจไปสุดๆ คือเพลงชวนปั้นตุ๊กตาหิมะ นัยว่าฉากนี้ทั้งแม่ทั้งลูกดูแล้วนั่งน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กันเลย กินใจมาก มันทำให้ฉากไคลแมกซ์ก่อนจบมีน้ำหนักขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็น่าเสียดายเพราะอารมณ์มันดันมาพี้กตอนนี้แล้ว ฉากจบกลับดรอปลงไปยังไงไม่รู้ หรือส่วนตัวไม่ค่อยอินกะเอลซ่าก็ไม่รู้แฮะ
แต่นอกจากเพลงนี้กับเพลงฝันฤดูร้อนแล้ว เพลงอื่นเฉยๆ เมื่อกี้เพิ่งไปลองฟังเพลง First Time อะไรซักอย่างนั่น ปรากฏว่าต้นฉบับเพราะกว่า ส่วนเพลงหลักคือ Let it go ยังไม่ได้ฟังเวอร์ชั่นในเนื้อเรื่องแบบออริ ฟังแต่แบบเอ็มวี ไม่รู้สึกเพราะเท่าไหร่ รวมถึงเพลงเวอร์ชั่นไทยด้วยครับ (อันนี้ส่วนตัวนะ)
ในส่วนของภาพก็งามสุดๆ ดูสามดีแล้วน้ำแข็งแทบจะงอกมาทิ่มตากันเลยทีเดียว พระเอกจากที่เห็นภาพนิ่งกะในเทรลเลอร์นิดหน่อยไม่รู้สึกเป๊กเท่าไหร่ แต่ในหนังน่ารักมาก แต่ยังสู้อีตาฟินจากราพันเซลไม่ได้ (ก็นั่นมันถึงชื่อ ‘ฟิน’ อ่ะนะ ) จะว่าไปถ้าเทียบอารมณ์โรแมนติกแล้วราพันเซลหวานชวนจิ้นกว่าเยอะเลย
สรุปว่าเรื่องนี้โอเคและไม่เสียดายตังค์เลย (กะว่าจะเก็บดีวีดีชัวร์ๆ) แต่ถ้าเทียบกะราพันเซลแล้วยังชอบเรื่องนั้นมากกว่า (วันนี้ออกจากโรงมาเดินตามหาแผ่นเพราะกะให้แม่ดูต่อ แต่ดันหาไม่เจอ กรี๊ด...) และถ้าจะเทียบกับหนัง animation ในปีเดียวกันยังยกให้ The croods ทั้งในด้านภาพและประเด็นของเรื่อง เรื่องนั้นดูดีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลย แต่ Frozen จับเด็กมากกว่าครับ
ใครยังไม่ได้ดูรีบเข้านะ กลัวจะออกจากโรงซะก่อนครับ