การตรวจ LH และ hCG (การตั้งครรภ์) ใช้หลักปฏิกิริยาแอนติเจนกับแอนตี้บอดี้ ( antigen-antibody reaction) โดยวิธี ELISA
ที่จริงไม่น่าจะแทนกันได้ เพราะแอนตี้บอดี้ที่ทำมาเพื่อเทสต์คนละตัวกัน
แต่ฮอร์โมน LH และ hCG เป็นฮอร์โมนที่เป็นโปรตีน ประกอบด้วยเส้นแอลฟ่า และเบต้า
เส้นแอลฟ่าของฮอร์โมน 2 อย่างนี้เหมือนกัน และเข้าใจว่าแอนตี้บอดี้ใน LH test ที่ จขกทใช้ ไม่จำเพาะต่อสายเบต้า ของ LH เท่านั้น มีต่อสายแอลฟ่าด้วย
ดังนั้นเมื่อตั้งครรภ์ ระดับ hCG สูงขึ้น สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยากับ LH test ได้ เพราะ alpha-hCG ทำปฏิกิริยากับแอนตี้บอดี้ของ alpha-LH

ในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อน นำปัสสาวะของหญิงวัยทองมาตรวจ preg test จะได้ผลบวก เพราะหญิงวัยทองมี FSH และ LH สูงขึ้นกว่าปกติ 10 และ 3 เท่าตามลำดับ
alpha chain ของ hCG,FSH,LH เหมือนกันเป๊ะ จึงเกิดปฏิกิริยากับเทสต์ได้
แต่เทสต์การตั้งครรภ์ในปัจจุบันนี้ ไม่สามารถให้ผลบวกลวงกับ LH และ FSH ได้
เพราะแอนตี้บอดี้ ในเทสต์การตั้งครรภ์ เจาะจงทำปฏิกิริยากับ beta chain ของ hCG เท่านั้น
ดังนั้น ผลบวกลวงในการตรวจการตั้งครรภ์ในปัจจุบันแทบไม่มี

ขอทำความเข้าใจกับความเห็น 2
เป็นความจริงที่ว่า LH ผลิตและหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองทุกวัน
แต่ไม่สามารถตรวจพบด้วย LH test ได้ทุกวัน เพราะมีระดับต่ำมาก
จะตรวจพบ 2 ขีด ในระยะที่มี LH surge ก่อนตกไข่เท่านั้น
เพราะตอนนั้น LH ในเลือดจะมีระดับสูงกว่าปกติประมาณ 200 เท่า และจะสูงอยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็ลดลง