ดิฉันเป็นลูกค้าเก่าของดีแทคมานานกว่า 10 ปี
เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยละกัน

ดิฉันใช้ ซัมซุง note2 มาจนผ่อนเครื่องหมดแล้ว (ก็แสดงว่าหลายเดือนอยู่)
ถือเครื่องไปใช้ต่างประเทศมาก็หลายครั้งอยู่
ล่าสุด ได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งก่อนเดินทาง โชคดี เจอบูทเปลี่ยนซิม เป็นTrinet ที่โฆษณาว่า จับสัญญาณดีกว่าอย่างนั้นอย่างนี้
ก็เลยขอเปลี่ยน และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า ซิมนี้นำไปใช้ที่ต่างประเทศจะมีปัญหาไหม
ทางเจ้าหน้าที่ (ซึ่งอาจจะไม่รับการอบรมมาเพียงพอ) ตอบว่า ไม่ทราบ
ต้องกระตุ้นให้โทรถามศูนย์หน่อยสิคะ ว่าจะมีปัญหามั้ย ถึงจะสอบถามให้ และได้ความว่า
" ต้องนำ ซิมไปเปลี่ยนเป็น Dual SIM"
ก็โอเค เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ก็ยอมไปกดบัตรคิวที่ห้างแห่งหนึ่ง
(ซึ่งถ้าใครพอจะสังเกต จะเห็นว่าลูกค้าในร้านดีแทคปัจจุบันนี้ หนาแน่นมาก)
และใช้เวลาคอยคิวไป 40 นาที แล้วถอดใจไม่ไปต่อ เพราะมีธุระ คอยไม่ไหว
อีกสองวัน ไปห้างกดบัตรคิวใหม่ เพราะใกล้จะเดินทางแล้ว ต้องเปลี่ยนให้ได้
คอยไปอีก เกือบชั่วโมงในที่สุดก็ได้คิวเสียที
เจ้าหน้าที่พูดจาเรียบร้อย จัดการเปลี่ยนซิมให้
เราก็ปากเบา ถามไปว่า ทำไมต้องให้เปลี่ยนหลายทอด หลายต่อ ทำไมไม่แจกซิมที่มันสามารถใช้ได้เลยมาตั้งแต่แรก
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เป็นซิมคนละล๊อตกัน ถ้าซิมธรรมดาจะมีหมายเลขนี้ๆ ซิมDual จะมีหมายเลขแบบนี้
และได้เปลี่ยนซิมที่มีหมายเลขของDual SIM ให้แล้วนะครับ
ลูกค้าอย่างดิฉันก็จากมาอย่างสบายใจ แถมยังโทรไปเตือนเพื่อนที่จะไปด้วยกัน ใช้ดีแทคเหมือนกันว่า
ถ้าเปลี่ยนเป็น Trinet แล้วไปเปลี่ยนซิมเป็น Dual ซะนะ

ตัดมาวันเดินทาง
ถึงปลายทางเปิดเครื่องปุ๊ปใช้ไม่ได้ทั้ง 2 เครื่อง
พอมีช่วงจังหวะเวลา ก็พยายามหาทางติดต่อศูนย์
แล้วจะติดต่อได้อย่างไร ในเมื่อโทรศัพท์ ใช้ไม่ได้
ส่งข้อความไม่ได้
มีไวไฟ จึงพยายามหาช่องทางติดต่อทางหน้า WEB ไม่พบช่องทางการติดต่อ
นึกขึ้นได้ มี LINE เลยลองส่งข้อความไป
ได้รับคำตอบว่า ให้ติดต่อทาง page facebook
ก็ได้แต่นึกชื่นชมอยู่ในใจ คุณคิดว่าคนทั้งโลกเขาจะเล่น facebook หรืออย่างไร
แต่ก็เอานะ เราเล่น ก็ติดต่อทางนั้นก็แล้วกัน
แจ้งไปว่า หมายเลขนี้ๆ ขอเปิดใช้ roaming มา แต่ปรากฏว่าใช้บริการไม่ได้

ได้คำตอบมาว่า คุณใช้บริการ trinet ต้องเปลี่ยนซิมการ์ด
(ซึ่งคุณก็รู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ คุณควรแจ้ง เจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการ ให้แนะนำลูกค้ามั้ย)
ยืนยันว่าขอเปิด Roaming แล้ว และแนะนำให้หาสัญญาณด้วยการทำอย่างนี้ อย่างนั้น...

ดิฉันลองทำทุกวิธีที่ทางเขาแจ้งมา ก็ยังต่อสัญญาณไม่ได้
มีข้อความเด้งขึ้นมาแจ้งตลอดเวลาว่า
"  Your SIM card does not allow a connection to this network "
ซึ่งมันน่าจะชัดเจนว่าปัญหาเกิดจาก ซิมแน่แล้ว
(ขอย้ำอีกครั้ง มีการนำซิมไปเปลี่ยนเป็น Dual sim ตามที่ได้รับคำแนะนำ และ พนักงานยืนยันว่าเป็น Dual sim)

จึงได้พยายามติดต่อโดยการส่งข้อความผ่าน fanpage ไปเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรตอบกับมา เงียบหายไปกับสัญญาณ
ในช่วงเวลานั้น ก็ได้แต่เอาธรรมะเข้าข่ม บริษัทดีแทค คงอยู่ในวัฐฐะสงสาร เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้
เพราะดีแทคสำหรับดีฉันในตอนนั้น มันไม่มีตัวตนจริงๆ

ก็ให้บังเอิญว่ามีคนในกลุ่ม มีเบอร์ดีแทค ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนมาใช้ trinet และเปิด roaming เผื่อฉุกเฉินไว้
จึงขอยืมเครื่องเขาโทรหาศูนย์
ได้รับคำตอบมาแค่ว่า เปลี่ยนซิมหรือยัง ตั้งค่าแบบนี้ๆๆๆ หรือยัง แถมมีเรื่องใหม่ พี่ต้องตั้งค่าผ่าน app
ดีฉันก็สอบถามไปว่า ไอ้app นี่มันมาจากไหน
พนักงานแจ้งว่า มันอยู่ในเครื่อง อยู่ในเมนู  
ก็ได้แต่งง ว่า app มันจะอยู่ดีๆ มาอยู่ในเครื่องได้อย่างไร สอบถามไปมา สรุปได้ว่า พนง. ก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
บอกแต่ให้ตั้งค่าที่แอ๊บ อย่างเดียว สอบถามอะไรไปก็อ้ำอึ้งตะลึงงัน ไม่รู้ไม่เห็น
เลยจบการสนทนาข้ามประเทศแต่เพียงเท่านั้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและอารมณ์

สรุปว่า 10 วันในต่างประเทศ ไม่สามารถใช้โทรศัพท์
ที่ดิฉันได้แจ้งพนักงานแล้วว่าจอเปิด Roaming เสียเวลาไปนั่งคอยเปลี่ยนซิม เสียเวลาและอารมณ์ในการขอคำปรึกษา

พอกลับมาถึงปรเทศไทย ดิฉันได้พยายามติดต่อไป ดีแทคอีกครั้ง เพื่อขอคำชี้แจง
พนักงานที่รับสาย ก็ให้คำตอบเหมือนเดิม เปลี่ยนซิมหรือยัง ตั้งค่าหรือยัง
ดีฉันทำทุกอย่างแล้วและสอบถามไปว่า ยังมีอะไรอีกมั้งที่ ลูกค้าอย่างดิฉันยังไม่ได้ทำ
เจ้าหน้าที่ท่านนั้น จึงขอโอนสายไปยังคนที่รู้เรื่องกว่า
และเมื่อมีเจ้าหน้าที่ท่านใหม่มารับช่วงต่อ เรื่องกลับกลายเป็นว่า
ดิฉันนำเครื่องไปใช้ต่างประเทศ แล้วพอกลับมาเครื่องใช้ไม่ได้
ดิฉันเลยถามว่า แล้วไอ้ที่ดิฉันใช้โทรอยู่นี่มันอะไรกัน
แล้วก็ต้องมานั่งเกริ่นเรื่องใหม่ รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้
เจ้าหน้าที่ได้ให้คำตอบไว้หลายอย่าง เช่น
1. น้องพนักงานที่หยิบซิมให้ อาจจะหยิบผิด // โถ แม่คุณเอ้ย ก็บอกไปแล้วว่า จนท. อธิบายเสร็จสรรพว่า ซิมมันแตกต่างกันอย่างไร
2. App ต้องมีอยู่ในเครื่องสิคะ พี่ไม่พบหรือคะ // น้องคะ พี่จะทราบได้อย่างไร ว่า app เนี่ยมันมายังไง
น้องบอกว่า ตอนเปลี่ยนซิม มันต้องมี app มาด้วย // ก็อยากจะถาม  ว่าเรื่องพวกนี้ใครรู้ดีที่สุด ถ้าเจ้าหน้าที่แนะนำ ไม่ดูให้ ผู้รับบริการจะรู้ไหม
(แต่ในทางปกติ การตั้งค่าหาสัญญาณ มันก็น่าจะตั้งได้จาก setting  ในตัวเครื่องนี่นา)
เลยต่อว่าไปว่า ยังมีอะไร ที่ลูกค้าของคุณ ยังไม่ได้ทำอีก เป็นฝ่ายเสียเงิน ขอใช้บริการก็โทรขอแล้ว ให้เปลี่ยนกี่รอบ ก็เปลี่ยน ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเวลาคอยแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องทำ ทั้งติดต่อมาเมื่อเกิดปัญหา ยังมีอะไรอีกไหม ที่ลูกค้ายังไม่ได้ทำเพื่อให้ใช้โทรศัพท์ได้ในต่างประเทศ
แต่อยากจะถาม ทางดีแทคทำอะไรให้ลูกค้าบ้าง เรื่องที่ดีแทคควรจะทำ เช่นแนะนำให้คำปรึกษาที่เหมาะสม ก็ไม่มี
ขอคำปรึกษาเมื่อเดือดร้อนจากการใช้ในขณะที่อยู่ต่างประเทศ ก็ไม่มีคำตอบกลับมา
ดีแทคไม่ได้ทำอะไรที่สมควรทำเลยสักอย่าง
สุดท้ายเรื่องมาเฉลยว่า พี่ต้องเปลี่ยนซิมอีกตัวหนึง เป็น Dual Sim easy (ชื่อประมาณนี้)
ให้ดิฉันไปเปลี่ยนที่ศูนย์
ก็เลยสอบถามไปอีกรอบว่า แล้วทำไม ไม่เอาซิมที่มันสามารถใช้ได้จริง มาให้ใช้ตั้งแต่แรก มาบอกให้เปลี่ยน 2รอบ 3 รอบ มันเรื่องอะไร
ลูกค้าคุณไม่มีใครโทรมาแจ้งปัญหาแบบนี้บ้างหรือ
ได้รับคำตอบว่า " มีค่ะ แต่เป็นจำนวนไม่มาก "
อ้าว เฮ้ย ถ้ามี ไม่ว่าจะเท่าไหร่ แสดงว่า ซิมคุณมันมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ไม่ได้ แล้วลูกค้าที่คาดหวังพึ่งโทรศัพท์คุณ ทำอย่างไรหล่ะ
มีปัญหา มีเรื่องต้องติดต่อ หรือมีเรื่องฉุกเฉินจะทำอย่างไร "คุณเอาความคาดหวัง ความไว้วางใจลูกค้า มาทำอย่างนี้หรือ"
แล้วอยากจะรู้ ไอ้ที่บอกว่ามีจำนวนไม่มากนี่ เทียบกับอะไร เที่ยบกับฐานลูกค้าคุณ แค่ 1 % นี่ก็เป็นจำนวนมากแล้วนะ
แต่คุณก็ปล่อยผ่านไป

สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหานี้ให้ด้วยการ ส่งซิมมาให้ที่บ้าน
บริษัทดีแทคทำได้เพียงเท่านี้จริงๆค่ะ
และความผิดพลาดในการให้บริการ และการที่ลูกค้าต้องติดต่อมาหลายรอบ (ทั้งได้รับคำตอบบ้างไม่ได้บ้าง) ก็ไม่ได้รับแม้แต่คำขอโทษแต่อย่างใดค่ะ

ตอนนี้ก็ได้แต่สงสัย 2 ข้อ
ซิมที่ได้รับมา มันจะเอาไปใช้จริงที่ ตปท. ได้หรือเปล่า ใครจะรู้ (ก็ซิมเดิมที่บอกว่าใช้ได้ยังใช้ไม่ได้เลย)
10วัน 1ใน3 ของเดือน ที่ไม่สามารถใช้บริการได้เนื่องจากซิมของคุณ ดีแทคคิดว่าไงคะ