“อาร์เจนตินา”ป่วน!! เกิดปล้นสะดมทั่วประเทศ หลังตำรวจ “สไตรค์” เรียกร้องค่าแรงเพิ่ม - หนี “เงินเฟ้อสูงกว่า 25%”

>>>ทำไม อาร์เจนตินาอัตราว่างงานต่ำ แต่ อัตราเงินเฟ้อสูงครับ <<<<




เอเจนซีส์ - สื่อไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า ในขณะนี้อาร์เจนตินาประสบปัญหากับคลื่นของประชาชนที่เข้าปล้นสะดมธุรกิจร้านค้าอย่างต่อเนื่องและมียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 รายและบาดเจ็บนับหลายร้อยรายในจลาจลครั้งนี้ หลังจากที่ตำรวจอาร์เจนตินากว่า80 % ทั่วประเทศได้ทำการผละงานเพื่อเรียกร้องให้มีการปรับอัตราเงินเดือนให้สูงขึ้นเนื่องจากประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงมากกว่า 25%
       
       มีผู้เสียชีวิต 9 รายและบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนในจลาจลบุกปล้นร้านค้าทั่วอาร์เจนตินาท่ามกลางการประท้วงผละงานของตำรวจท้องถิ่นภายในประเทศได้ขยายวงกว้างไปถึง19 จังหวัดจากจำนวนทั้งหมด 23 จังหวัด เพื่อเรียกร้องการจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยนักวิจารณ์ได้ให้ความเห็นว่ารากเหง้าของปัญหาเกิดจากอัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 25% และส่งผลทำให้ระดับความยากจนในประเทศสูงขึ้น
       
       การสไตรค์เกิดขึ้นมาหลังจากในวันจันทร์(9)ซึ่ง IMFได้ประกาศให้โอกาสอาร์เจนตินาแค่เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ในการปรับปรุงข้อมูลอัตราเงินเฟ้อให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งนักวิจารณ์ต่างอ้างว่ารัฐบาลอาร์เจนตินาได้พยายามที่จะกดให้ตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อที่หน่วยงานรัฐประกาศออกมาแค่ 10.3%
       
       ด้านประธานาธิบดีอาร์เจนตินา กริสตีนา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ยังคงนิ่งเงียบอยู่สำหรับการประท้วงผละงานของตำรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลอาร์เจนตินากลับปฎิเสธที่ว่า สภาพเศรษฐกิจนั้นเป็นปัจจัยหลักอยู่เบื้องหลังการปล้นสะดมในครั้งนี้ โดยอ้างตัวเลขการว่างงานที่ต่ำ และยังกล่าวหา “การเมืองแทรกแซง” ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียปลุกปั่นให้ไม่มีความสงบเกิดขึ้น
       
       นอกจากนี้ จอร์จ คาปิตานิช หัวหน้าคณะครม.คนใหม่ของเฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ ได้ออกมาประนามว่าเป็นการ “ทรยศต่อชาติ” ที่มีเป้าหมายเพื่อบ่อนทำลายการเฉลิมฉลองครบรอบ 30ปีที่อาร์เจนตินาได้กลับมาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคม 1983 และเขายังได้วิพากษ์ถึง “การขาดวินัยทางการคลัง” ของจังหวัดที่เกิดปัญหาหนี้สินซึ่งส่งผลให้ต้องมีการเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้น
       
       อย่างไรก็ตาม โฮเซ เดอร์ ลา โซตา ผู้ว่าราชการจังหวัดกอร์โดบา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการเริ่มการผละงานขึ้นครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แสดงความเห็นว่า การผละงานที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากตัวเขาได้สั่งปิดซ่องโสเภณีจำนวน 140 แห่ง ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับการค้ายาเสพติดและคอรัปชันในวงราชการ
       
       โดยการผละงานของตำรวจที่เกิดขึ้นในจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศอย่าง กอร์โดบา นั้นได้ถูกยกเลิกไปหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นราว 33% และในกรุงบัวโนสไอเรส แดเนียล ไซโอลี ผู้ว่าราชการจังหวัดประสบความสำเร็จที่สามารถทำให้ไม่มีการผละงานเกิดขึ้นด้วยการสัญญาเพิ่มค่าตอบแทนเป็น 2 เท่าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
       
       และในภาคส่วนอื่นๆของเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุขจนถึงกองทัพต่างคาดหวังว่าจะมีการปรับอัตราเงินเดือนให้สูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการกลัวว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศนั้นวิกฤติมากกว่าเดิม ในขณะที่ราคาเครื่องอุปโภคและบริโภคในตลาดภายในประเทศได้ปรับสูงขึ้นไปแล้วกว่า 20% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อ้างจากการคาดการณ์ขององค์กรอิสระ
       
       สื่อท้องถินอาร์เจนตินาได้พากันรายงานถึงร้านค้าที่ถูกปล้นสะดม กระจกร้านถูกทุบแตกกระจาย มีประชาชนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกแตก และพวกเขาพากันกรูเข้าไปหยิบสิ่งของทุกอย่างภายในร้านเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่เบาะที่นอนไปจนถึงเครื่องใช้ของทารกและเบียร์ อ้างจากเอพี มีชายคนหนึ่งถึงเผาหลังจากม็อบชาวอาร์เจนตินาได้บุกเข้าปล้นร้านของเขา และมีชายอีกคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อตในขณะที่พยายามขโมยเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า
       
       เหตุการณ์จราจลและม็อบที่ปล้นอุกอาจทำให้ธุรกิจร้านค้าหลายพันแห่งปิดร้านค้าเร็วกว่าปกติในหลายๆเมืองด้วยกัน เพราะกลัวการบุกเข้าปล้นทรัพย์สินในร้าน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000152688
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่