เขียนช้าไปหน่อย เนื่องจากเพิ่งมีโอกาสได้ดู เลยขอนำเสนอในมุมมองผมครับ
ผมร้างลาจากการดูหนังเกาหลีไปนานมาก เท่าที่จำได้เรื่องล่าสุดก็คือ Typhoon ที่ จาง ดอง กัน แสดง (โคตะระนาน!)
คราวนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ด้วยจากการไปอ่านเนื้อเรื่องย่อ แถมมี Chris Evans แสดงนำ และโฆษณาอีกว่า เป็นการ Go to Hollywood ของ Bong Joon Ho
ตรงนี้ยอมรับก่อนเลยว่า ไม่เคยดูผลงานของเขาเลย ทำให้ครั้งนี้คงไม่ได้เจาะจงกับตัวเขามากเท่าไหร่ครับ
Snowpiercer เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคตที่มนุษย์พยายามเอาชนะภาวะโลกร้อนโดยการสร้างสารปกคลุมโลกให้เย็นลง (ลืมชื่อสาร)
แต่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้โลกเย็นลงจริง เย็นจนกลายเป็น Ice Age ไปเลย เลยทำให้เกิดขบวนรถไฟที่ไม่ต่างกับเรือโนอาห์เท่าไหร่นัก เพราะมันคือแหล่งพักพิงที่สุดท้ายของมนุษย์ สร้างโดย Willford (แสดงโดย Ed Harris)
แต่โลกมนุษย์ใช่ว่าจะเท่าเทียมกัน ยิ่งมาอยู่ในรถไฟด้วยแล้ว ก็ไม่แปลก ที่จะต้องเกิดการถ่วงระหว่างคนรวย กับคนจน
จะว่าไป ไม่ต้องไปถึงหนังหรอก รถไฟไทยก็พอแล้ว ใครมีเงินก็ได้นั่งแอร์ ตู้นอนสบายๆ ใครงบน้อยหรือไม่มี ก็ไปแออัดเป็นปลากระป๋องท้ายขบวนชั้น 3 เอา
(ผมประสบมาทั้งสองแบบแล้ว ผมสัมผัสได้!)
กลับมาที่ขบวนรถไฟ ท้ายขบวนคือส่วนของคนที่ขึ้นฟรีเพื่อความอยู่รอด ต่างกับหน้าขบวนที่ใช้เงินจ่ายครั้งสุดท้าย เพื่อดำรงชีวิตอย่างสุขสบาย
การแบ่งแยกชนชั้นจึงเกิดขึ้น แถมอยู่ในสถานที่แคบท่ามกลางภาวะโลกที่ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่นัก
กระทาชายอย่าง Curtis (แสดงโดย Chris Evans) ก็อดทนไม่ไหว เลยไปหา Howard Stark เอ้ย!!! เลยคิดพยายามก่อจลาจล
เพื่อปฏิวัติรถไฟทั้งขบวน เพราะตัวเองไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ที่ต้องถูกกดขี่จากพวกหัวขบวน
Snowpiercer โลกยุคใหม่ แต่คนเรายังเหมือนเดิม (Spoil บางฉาก)
ผมร้างลาจากการดูหนังเกาหลีไปนานมาก เท่าที่จำได้เรื่องล่าสุดก็คือ Typhoon ที่ จาง ดอง กัน แสดง (โคตะระนาน!)
คราวนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ด้วยจากการไปอ่านเนื้อเรื่องย่อ แถมมี Chris Evans แสดงนำ และโฆษณาอีกว่า เป็นการ Go to Hollywood ของ Bong Joon Ho
ตรงนี้ยอมรับก่อนเลยว่า ไม่เคยดูผลงานของเขาเลย ทำให้ครั้งนี้คงไม่ได้เจาะจงกับตัวเขามากเท่าไหร่ครับ
Snowpiercer เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคตที่มนุษย์พยายามเอาชนะภาวะโลกร้อนโดยการสร้างสารปกคลุมโลกให้เย็นลง (ลืมชื่อสาร)
แต่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้โลกเย็นลงจริง เย็นจนกลายเป็น Ice Age ไปเลย เลยทำให้เกิดขบวนรถไฟที่ไม่ต่างกับเรือโนอาห์เท่าไหร่นัก เพราะมันคือแหล่งพักพิงที่สุดท้ายของมนุษย์ สร้างโดย Willford (แสดงโดย Ed Harris)
แต่โลกมนุษย์ใช่ว่าจะเท่าเทียมกัน ยิ่งมาอยู่ในรถไฟด้วยแล้ว ก็ไม่แปลก ที่จะต้องเกิดการถ่วงระหว่างคนรวย กับคนจน
จะว่าไป ไม่ต้องไปถึงหนังหรอก รถไฟไทยก็พอแล้ว ใครมีเงินก็ได้นั่งแอร์ ตู้นอนสบายๆ ใครงบน้อยหรือไม่มี ก็ไปแออัดเป็นปลากระป๋องท้ายขบวนชั้น 3 เอา
(ผมประสบมาทั้งสองแบบแล้ว ผมสัมผัสได้!)
กลับมาที่ขบวนรถไฟ ท้ายขบวนคือส่วนของคนที่ขึ้นฟรีเพื่อความอยู่รอด ต่างกับหน้าขบวนที่ใช้เงินจ่ายครั้งสุดท้าย เพื่อดำรงชีวิตอย่างสุขสบาย
การแบ่งแยกชนชั้นจึงเกิดขึ้น แถมอยู่ในสถานที่แคบท่ามกลางภาวะโลกที่ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่นัก
กระทาชายอย่าง Curtis (แสดงโดย Chris Evans) ก็อดทนไม่ไหว เลยไปหา Howard Stark เอ้ย!!! เลยคิดพยายามก่อจลาจล
เพื่อปฏิวัติรถไฟทั้งขบวน เพราะตัวเองไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ที่ต้องถูกกดขี่จากพวกหัวขบวน