อย่ายอมให้เจ้าของโครงการเอาเปรียบผู้บริโภค!!! เราเป็นหนึ่งในอีกหลายล้านคนที่ไม่เคยรู้เรื่องกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคเลย จนเรามาเจอเหตุการณ์หนึ่ง เราถึงรู้ว่า เราได้รับความคุ้มครองในเรื่องนี้และต้องการเป็นกรณีศึกษาให้กับเพื่อนๆที่ไม่เคยรู้ ได้รักษาสิทธิ์ของตัวเองหากเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเรา

                ต้นปีที่ผ่านมาเราได้จองคอนโด TC Green พระราม 9 ตั้งใจอยู่เองเพราะกำลังขายบ้าน (มีคนจ่ายเงินมัดจำค่าบ้านแล้ว) เราก็จ่ายเงินดาวน์คอนโดมาเรื่อยๆทุกเดือน จนครบตามสัญญาผ่อนดาวน์ 10% ของราคาห้อง แต่สุดท้ายคนที่ซื้อบ้านกลับเปลี่ยนใจไม่ซื้อบ้านเราแล้ว หลังจากดึงเรื่องไปมาหลายเดือน ทำให้เรากู้คอนโดไม่ผ่าน เพราะติดบ้านกับธนาคารอยู่ ตอนนั้นเราเครียดมาก ถึงขนาดประกาศขายดาวน์คอนโด แบบขาดทุนเกือบแสน แต่ก็ขายไม่ออก จะเนื่องด้วยเหตุผลอะไรก็มิอาจทราบได้

                แต่เราได้อ่านกระทู้ในห้องชายคากระทู้หนึ่ง เหมือนเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ขอโทษที่จำลิงค์ไม่ได้ แต่เคยขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ว่ามีคนกู้ไม่ผ่านแล้วโครงการยึดเงินดาวน์ จากนั้นมีเพื่อนสมาชิกมาตอบว่าโครงการไม่มีสิทธิ์ยึดเงินดาวน์ (ขอบคุณพันทิพห้องชายคา,เจ้าของกระทู้ท่านนั้นและเพื่อนสมาชิกที่มาตอบ) เราเลยโทรหา สคบ. ทันทีเพื่อถามให้แน่ใจ ทาง สคบ.ก็ยืนยันว่า โครงการไม่มีสิทธิ์ยึดเงินที่เราผ่อนดาวน์ทุกเดือนไป ถ้ายึดถือว่าผิดกฏหมาย เราก็กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง คิดว่ายังไงเราต้องได้เงินคืนแน่นอน เพราะโครงการคงต้องทำตามกฏหมายแน่นอน

                เราได้ไปยังโครงการคอนโด เพื่อขอเจรจากับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ เพื่อขอคืนเงินดาวน์อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งนำหนังสือแจ้งขอคืนเงินดาวน์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และผลธนาคารว่าไม่อนุมัติไปยื่น(มี 4 ธนาคารที่ได้ยื่นไปทั้งหมด) ทางโครงการแจ้งแต่เพียงว่า ไม่มีนโยบายคืนเงินแต่จะช่วยแจ้งผู้ใหญ่ให้

                ต่อมา เราก็ส่งหนังสือไปทางไปรษณีย์ ไปหาโครงการคอนโดอีก เพื่อจะได้มีใบลงทะเบียนตอบรับเป็นหลักฐานว่าเราได้ทำเรื่องขอคืนเงิน แต่ปรากฏว่า จดหมายตีกลับ เราส่ง 3 ครั้ง ก็ตีกลับ 3 ครั้ง

                หลังจากนั้น เราโทรหา ผจก.ของโครงการ ถามเรื่อง คุยกับผู้ใหญ่ได้เรื่องอย่างไร เขาตอบว่า ผู้ใหญ่ไม่คืนเงินให้ ผู้ใหญ่จะให้กู้กับคอนโดแทน (กู้กับโครงการโดยตรง โครงการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี ให้ระยะเวลาผ่อน 5 ปี แล้วใครจะไปกู้ลง!!!) เขายืนยันว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่คืนเงิน พอเราบอกว่า สคบ. ให้สิทธิ์คุ้มครองเรื่องนี้ มีกฏหมายคุ้มครองอยู่ เขาก็ไม่สนใจ บอกแต่ว่า ยังไงก็ไม่คืนเงิน เพราะไม่มีนโยบายคืนเงินลูกค้า

                 เรารู้สึกว่า เราไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เราเลยรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมด ไปแจ้งเรื่องที่ สคบ. ทันที ทาง สคบ. รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้วพร้อมออกหมายเลขรับเรื่องให้เพื่อเรียกมาไกล่เกลี่ยในเวลาอีก 1 เดือน และยังยืนยันกับเราเหมือนเดิมว่า มีกฏหมายคุ้มครองอยู่ ว่าโครงการไม่มีสิทธิ์ยึดเงินผ่อนดาวน์หากกู้ไม่ผ่าน เพราะถือว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายทำผิดสัญญา เพียงแต่เรากู้ไม่ผ่าน หากไกล่เกลี่ยแล้วโครงการยังไม่ยอมคืนเงินอีก สคบ.สามารถเป็นตัวแทนฟ้องให้ได้

                 ตอนนี้อยู่ในขั้นตอน รอเรียกมาไกล่เกลี่ย ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไร เราจะมาเล่าให้ฟังเป็นระยะ แต่เราจะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะเป็นสิทธิ์ของเราที่สามารถทำได้ และเงินทั้งหมด ก็เงินของเรา ตั้ง 2 แสนกว่า

                 เราเลยนำเรื่องของเรามาเล่าให้ทุกคนฟัง เพราะสมัยนี้มีคนสนใจซื้อคอนโดกันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นซื้อเพื่ออยู่เอง หรือ เพื่อเก็งกำไร แต่ส่วนใหญ่จะไม่รู้สิทธิ์ของตัวเองที่ได้รับความคุ้มครองทางกฏหมาย ทำให้เสียเปรียบผู้ประกอบการเสมอ อย่างน้อยก็ให้เคสเราทำให้ทุกคนได้รู้ว่า มีกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคคุ้มครองในเรื่องนี้อยู่นะ แม้ว่ามันอาจจะกินเวลานานกว่าเรื่องจะจบ อาจหลายปีกว่าเรื่องที่ฟ้องจะเสร็จสิ้น แต่เราควรรักษาสิทธิ์ของเรา ส่วนใหญ่เท่าที่เราเห็น คือ หากคนซื้อกู้ไม่ผ่าน จะปล่อยให้โครงการยึดเงินของเราไปง่ายๆ เพราะคิดว่า โครงการมีสิทธิ์ยึดไป และไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนเพื่อขอคืนเงิน ก็เอาลำดับขั้นตอนของเราไปใช้ สู้ๆนะทุกคน สำหรับคนที่เจอกรณีเดียวกับเรา ^^

______________________________________________

                 มาอัพเดทความเคลื่อนไหวล่าสุดค่ะ เมื่อ 2 วันก่อน เราส่งเรื่องนี้ไปยังอีเมลล์ของรายการ ตู้ ปณ. ข่าว 3 ด้วยค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนได้บ้าง แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับนะคะ

                 ป.ล. ขอบคุณทุกท่านมากที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นและช่วยโหวตให้กระทู้ของเราค่ะ ^______^