พงพาเพลิน เที่ยวสิงคโปร์ โตๆ มันๆ ตอนที่ 2 เข้าเมืองสิงคโปร์

กระทู้สนทนา
สิงคโปร์ ตอนที่ 1 ภาคข้อมูล http://ppantip.com/topic/31344947

เอาละมาเริ่มสิงคโปร์ตอนที่ 2 กันดีกว่าตอนนี้จะมี Route ดังนี้  กทม. (สุวรรณภูมิ) > เข้าเมืองสิงคโปร์ > ซื้อบัตร Ez-link > นั่งรถไฟฟ้าไปที่พัก > ออกมาเดินเล่นกินข้าวที่ ห้าง Suntec และ ถ่ายรูป Fountain of Wealth น้ำพุแห่งความมั่นคง พร้อมแนะนำที่พักสำหรับท่านๆ ที่ต้องการจะประหยัดค่าเดินทางที่พักมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ค่าเดินทางของท่านถูกลง ตามไปอ่านข้อมูลกันเลย

เริ่มเดินทางโดยการนำรถมาจอดที่ สถานีมักกะสัน ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ล๊อครถให้ดีๆเท่านั้นเองครับ  หลังจากนั้นนั่ง Airport link Cityline ราคา 35 บาทจาก สถานีมักกะสัน ไปยังสถานีสุวรรณภูมิ  Check-in ไม่ได้โหลดกระเป๋า (อย่าลืมสำหรับคนที่ไม่ได้โหลดกระเป๋าห้ามพกของเหลวต่อชิ้นเกิน 100 มล. นะครับ) เดินเข้าไปรอขึ้นเครื่องตอน 7  โมงเช้า ของวันที่ 25 ตุลาคม 56  ถ่ายรูปเครื่องบินมาด้วยไม่แตกต่างกับหางแดงเท่าไร (กระจกสุวรรณภูมิ ไม่เช็ดกันเลย)


อยู่บนเครื่องบิน พนักงานจะแจกใบ immigration form สำหรับการเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ให้ หน้าตาแบบนี้


บินประมาณ 2 ชม.ก็ถึงที่หมายสนามบิน ชางงี (Changi airport)


หลังจากนั้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้โหลดกระเป๋าคุณสามารถเดินทางจาก Terminal1 ไปยัง Terminal2 ได้ทันทีโดยใช้รถไฟภายในสนามบิน เดินตามป้าย Skytrain ไปเลยครับ ที่ต้องไป Terminal2 เนื่องจากรถไฟฟ้าที่จะเข้าตัวเมืองสิงคโปร์ อยู่ที่ Terminal 2 ครับ


จุดรอ Skytrain หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ


หลังจากเดินทางด้วยรถไฟไปที่ Terminal 2  เราก็ผ่าน immigration ของสิงคโปร์ด้วย form ที่เรากรอกบนเครื่องบิน (ถ่ายรูปตรงจุด immigration ไม่ได้นะครับ) หลังจากหลุด immigration ออกมาแล้ว  เราจะเดินทางเข้าเมืองด้วย รถไฟฟ้า (MRT&LRT) โดยเราจะเดินตามป้ายTrain To City ไปครับ


เดินตามมาเรื่อยๆ จนเจอบันไดเลื่อน  เป็นทางลงตามป้ายนี้


ลงบันไดเลื่อนไปจะถึงที่ซื้อบัตร Ez-link อยู่ทางซ้ายมือครับ คนเยอะมาก ต่อคิวประมาณ 15 นาที


ราคาบัตร 12 ดอลล่าร์สิงคโปร์ เป็นค่าบัตรกินเปล่า 5$ และใช้ได้ 7$ สำหรับบัตรวันอื่นๆผมไม่แนะนำนะครับ iventure 10$ ต่อวันแพงมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยหลงรถไฟฟ้าและขยันเดินแบบผม หน้าตาบัตรครับ Ez-link ครับ


ได้บัตรมาแล้วก็เดินหันหลังกลับเข้าสถานีได้เลย หน้าตารถไฟฟ้าเป็นแบบนี้


ก่อนจะไปไหนต่อเอาแผนที่รถไฟฟ้าไปดูอีกซักรอบเพื่อทำความเข้าใจได้มากขึ้น


เราจะนั่งรถไฟฟ้าจาก Changi Airport  ไปลงที่ Tanah Merah สำหรับผู้ที่จะเข้าไปใจกลางเมืองให้ออกประตูรถไฟฟ้าทางด้านซ้ายมือ  ย้ำอีกครั้งต้านซ้ายมือ ที่พักผมอยู่ China Town ออกทางด้านซ้ายมือเช่นกัน ทุกคนที่เดินทางมาจาก Changi Airport จะต้องลงที่สถานี Tanah Merah เพื่อต่อรถไฟฟ้าที่จะแยกกันออก 2 สายซ้าย และ ขวา สำหรับท่านที่ไม่ลงก็จะนั่งกลับ Changi Airport อีกครั้ง ถ้าเวลาเหลือก็นั่งเล่นดูครับ  ลงรถไฟด้านซ้ายมือจะเจอป้ายนี้ครับ


นั่งรถไฟต่อไป China Town กันเลยผมนั่งรถไฟสายสีเขียว จาก Tanah Merah ไปลง Outram Park และเปลี่ยนนั่งสายสีม่วงไปลง China Town
ผมเข้าพักที่ Royal Hostel นะครับอยู่ใน China Town ถนน Smith Street  หาไม่ยากครับ เพราะมีป้ายบอกจากรถไฟฟ้าเลยครับ ออก Exit A นั้นเอง


สำหรับผู้ที่ต้องการพักที่ China Town เหมือนผมข้อดีคือสามารถซื้อบัตรเครื่องเล่นต่างๆได้สะดวกเพราะบัตรเครื่องเล่นอยู่ที่อาคาร People's Park Centre ผู้ที่ต้องการไปอาคารนี้แต่ไม่ได้พัก China Town ก็ลง China Town ทางออก NE4 ครับ แล้วก็ยังมีสถานที่เที่ยวคือ วัดแขก (Sri Mariamman) , วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple and Museum) , พิพิธภัณฑ์ไชน่าทาว์น (chinatown heritage center), ของฝากราคาถูก และ ยังมี ข้าวมันไก่ในตำนาน เทียน เทียน(Tian Tian) ใน Maxwell Food Centre

สำหรับบางท่านที่ไม่ต้องการพัก China Town ผมแนะนำให้พักโรงแรมแถว สถานี Clarke Quay หรือ City Hall หรือ Raffle Place เนื่องจากมีที่พักราคาไม่แพงมากและ ยังสามารถเดินไปยังสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ได้ทั้งหมดครับ (จริงๆ ถ้าผมไปอีกจะเลือกพักย่าน Clarke Quay เพราะผมชอบเที่ยวโดยการเดิน)

ไปที่ข้อมูลการเดินทางของผมกันต่อนะครับ พอขึ้นมาจากสถานีรถไฟฟ้า China Town เวลาซักบ่าย 3 โมงได้แล้ว ก็จะเจอกับโคมจีนและตึกดังรูปครับ มีของฝากขายเยอะแยะและราคาถูก


เดินถัดมาอีกหน่อยจะเจอ พิพิธภัณฑ์ไชน่าทาว์น (chinatown heritage center)


หลังจากพิพิธภัณฑ์นี้ เดินตรงไปจนสุดถนนจะไปเจอ วัดแขก (Sri Mariamman) อยู่ทางด้าน ขวามือ ครับ


ผมเดินเลี้ยวขวาผ่านวันแขกไป  และ ถัดไป 2 ซอย ก็จะเจอ Smith Street


ตกใจครับเพราะ Smith Street ทำถนนอยู่ทั้งเส้นเลย (ปรับปรุงเพื่อทำเป็นแหล่งช๊อปปิ้งเพิ่มเติม) แต่ผมก็เดินเรียบซอยเข้าไปด้านขวาและก็เจอ Royal Hostel ที่พักตลอดทริปนี้ของผม ทางขึ้นจะเป็นบันไดแคบๆ ครับห้องเป็นเตียงเรียงๆกันและมี Locker ให้เตียงละ 1 ตู้ (อย่าลืมกุญแจเล็กๆ เพื่อใช้ล๊อคด้วยผมลืม ต้องไปซื้อ 2$ ย้ำว่าดอกเล็กๆ นะครับสำหรับผู้ที่ต้องการจะพักแบบ Backpack แบบผม )


หลังจากเก็บของผมไม่รอช้า ออกไปเที่ยวต่อทันที โดยไปเที่ยว  วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple and Museum) อยู่ถัดจาก Smith Street ไปไม่ไกลก็จะเจอกับวัดครับ


แถมภายในวัดอีกซักรูป ตอนไปนั้นไม่ทราบว่ามีพิธีกรรมอะไรอยู่เหมือนกัน แต่ก็ถ่ายรูปออกมา ในวัดสวยงามมากครับ


ผ่านวัดนี้ออกไปที่ถนนฝั่งตรงกันข้ามกับวัดก็จะเป็น Maxwell Food Centre ที่อยู่ของข้าวมันไก่ในตำนาน เทียน เทียน(Tian Tian) นั้นเองครับ

เอาละหลังจากนั้นผมออกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจาก China Town ไป ลง Esplanade  ทางออก A เดินทะลุห้าง Suntec เพื่อไปชม น้ำพุแห่งความมั่งคง (Fountain of wealth) ดูตามแผนที่นะครับ (เทคนิคอีกอย่างสำหรับไปประเทศที่เจริญแล้วคืออยากพึ่งรีบเดินออกจากสถานีให้เดินไปดูแผนที่ก่อนมันจะทำให้ท่านไม่หลงทางครับ)


หลังจากนั้นผมก็เดินไปทางออก A เมื่อขึ้นมาจะเจอห้าง Suntec


เดินเข้าห้างไปเลยครับ และเดินตามป้ายนี้ต่อครับ


เมื่อเดินมาซักพักทุกท่านก็จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า น้ำพุแห่งความมั่งคง (Fountain of wealth) อยู่ใจกลางห้าง Suntec นั้นเองรอบนี้ผมไปถึงช่วงเย็นๆประมาณ 6 โมงแล้วครับตามข้อมูลที่ได้มาจะมีการเปิดให้สัมผัสน้ำพุ ช่วงในเวลา 9.00-12.00 น, 14.00-18.00 น, 19.00-19.50 น, 21.30-22.00 น. และ มีโชว์แสง Laser พร้อมกับเสียงดนตรีที่น้ำพุ มีอยู่ด้วยกัน 3 รอบครับ 20.00 น, 20.30 น, 21.00 น แต่ตอนที่ผมไป ถึงประมาณ 18.00 น. ผมรอจนถึง 20.00 น. ก็ยังไม่เปิดให้เข้าไปสัมผัสครับ (ในใจคิดว่าแห้วแน่ๆ วันนี้ สรุปว่าไม่ได้สัมผัสจริงๆ แต่ผมไม่ยอมแพ้ผมไปอีกวันสุดท้ายก่อนกลับแล้วจะเล่าให้ฟังครับ) เอารูปน้ำพุมาฝากก่อนแล้วกันนะ


เรื่องเล่าเกี่ยวกับน้ำพุ  
น้ำพุแห่งความมั่งคง (Fountain Of Wealth) นั้นเป็นหลักทางฮวงจุ้ย คือ จะมีตึกล้อมรอบน้ำพุอยู่จำนวน 5 ตึก(ตึก one,two,three,four,five) เปรียบเสมือนนิ้วมือทั้ง 5 และ จุดอุ้งมือหรือฝ่ามือจะเป็นน้ำพุแห่งความมั่งคง มีความเชื่อกันว่าใครในแตะน้ำพุ และเดินวนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบและ อธิฐาน คำอธิฐานนั้นจะเป็นจริงครับ (ท่านผู้อ่านอย่าลืมไปลองกันนะ)

หลังจากนั้นผมก็ใช้ รถไฟฟ้าจาก Esplanade กลับที่พักที่ China Town เป็นอันจบวันแรกของการเดินทางมาสิงคโปร์ครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ตอนที่ 3 ผมจะพาไปลุย Littel India, Raffle Place, Marina Bay  เที่ยวไปทั่วๆเกาะhttp://ppantip.com/topic/31396237

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่แฟนเพจ พงพาเพลิน https://www.facebook.com/pages/Pongpaplearn/190423861061180
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่