ในเดือนมิถุนายน ปี 1990 มีก๊วนเด็กหนุ่มห้าคนได้เฉลิมฉลองวันเรียนจบด้วยการพยายามที่จะสร้างตำนานการตะลุยผับทั้ง 12 แห่งในเมือง โดยพวกเขาก็ต้องดื่มเบียร์อย่างน้อยหนึ่งไพน์ต่อหนึ่งผับ และลุยไปให้ถึงเดอะ เวิลด์ส เอนด์ ซึ่งเป็นผับสุดท้ายในรายการให้ได้ แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามกันมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไปไม่ถึงจุดหมายสุดท้าย จนกระทั่งต่างคนต่างต้องแยกย้ายไปใช้ชีวิตกันในที่สุด
20 ปีให้หลัง เพื่อนซี้ทั้งห้าที่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายจากบ้านเกิดไปคนละทิศคนละทาง และต่างก็ประสบความสำเร็จในชีวิตกันได้ด้วยดี เว้นแต่แกรี่ คิง อดีตหัวโจกของพวกเขา ที่ยังคงยึดติดกับอดีตครั้งตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งๆที่อายุตัวเองก็ปาเข้าไป 40 แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะชวนเพื่อนร่วมก๊วนในอดีตกลับมาพิชิตภารกิจเมื่อ 20 ปีก่อนที่พวกเขายังทำไม่สำเร็จอีกครั้ง
ในที่สุด บ่ายวันศุกร์วันหนึ่ง พวกเขาทั้ง 5 ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่เมืองบ้านเกิดของพวกเขา แต่เริ่มภารกิจเดิมอีกรอบ โดยไล่ตะลุยดื่มตั้งแต่ผับแรก เพื่อไปให้ถึงผับสุดท้ายปลายทางให้จงได้ แต่ในขณะที่พวกเขากำลังดำเนินภารกิจอยู่นั้น พวกเขาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่า เมืองนี้เปลี่ยนไป หรือพวกเขากันแน่ที่ไม่เหมือนเดิม
เป็นหนังที่ดูแล้วแอบเหวอ เพราะพล็อตเรื่องแหวกแนวหลุดโลกแบบคาดไม่ถึงเลยครับ เล่นเอาอึ้งกลางโรงหนังเลยหละ (โดนเพื่อนลากไปดู โดยที่ไม่ได้อ่านเรื่องย่อ หรือดูตัวอย่างหนังไปก่อน) แต่ก็ถือว่าสนุกใช้ได้ เน้นมุขฮาๆป่วนๆกับความบ้าๆบอๆของผู้ใหญ่วัยกลับ เลยดูได้เพลินๆ ไม่น่าเบื่อ
ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ค่อยมีอะไรมาก จนอาจจะดูไร้สาระ (บางคนอาจจะไม่ชอบ) แต่จุดที่เด่นและเจ๋งของเรื่องนี้ก็คือ มุมกล้องและการตัดต่อที่ทำได้โคตรเท่ ดูดีมีสไตล์มากๆ หลงเสน่ห์ผู้กำกับเพราะสไตล์การตัดต่อเลยอ่ะ ^ ^
ส่วนวิธีการเล่าเรื่องผมว่าโอเคเลยนะ เล่าได้น่าสนใจและชวนให้ติดตามตลอด ทั้งๆที่เนื้อเรื่องจริงๆไม่ค่อยมีอะไรเลย ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่แอบเข้าโรง และกำลังจะออกไปเงียบๆ แต่ถ้ามีเวลาแล้วอยากเจอดูอะไรแหวกแนวต้องเรื่องนี้เลยครับ (แนะนำ ใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ อย่าได้เปิดตัวอย่างหนัง หรืออ่านเรื่องย่อจากที่ไหนเลยนะ แล้วจะอึ้งมาก 55+)
7/10
[CR] The World's End : ก๊วนรั่วกู้โลก (ไม่สปอยล์)
ในเดือนมิถุนายน ปี 1990 มีก๊วนเด็กหนุ่มห้าคนได้เฉลิมฉลองวันเรียนจบด้วยการพยายามที่จะสร้างตำนานการตะลุยผับทั้ง 12 แห่งในเมือง โดยพวกเขาก็ต้องดื่มเบียร์อย่างน้อยหนึ่งไพน์ต่อหนึ่งผับ และลุยไปให้ถึงเดอะ เวิลด์ส เอนด์ ซึ่งเป็นผับสุดท้ายในรายการให้ได้ แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามกันมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไปไม่ถึงจุดหมายสุดท้าย จนกระทั่งต่างคนต่างต้องแยกย้ายไปใช้ชีวิตกันในที่สุด
20 ปีให้หลัง เพื่อนซี้ทั้งห้าที่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายจากบ้านเกิดไปคนละทิศคนละทาง และต่างก็ประสบความสำเร็จในชีวิตกันได้ด้วยดี เว้นแต่แกรี่ คิง อดีตหัวโจกของพวกเขา ที่ยังคงยึดติดกับอดีตครั้งตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งๆที่อายุตัวเองก็ปาเข้าไป 40 แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะชวนเพื่อนร่วมก๊วนในอดีตกลับมาพิชิตภารกิจเมื่อ 20 ปีก่อนที่พวกเขายังทำไม่สำเร็จอีกครั้ง
ในที่สุด บ่ายวันศุกร์วันหนึ่ง พวกเขาทั้ง 5 ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งที่เมืองบ้านเกิดของพวกเขา แต่เริ่มภารกิจเดิมอีกรอบ โดยไล่ตะลุยดื่มตั้งแต่ผับแรก เพื่อไปให้ถึงผับสุดท้ายปลายทางให้จงได้ แต่ในขณะที่พวกเขากำลังดำเนินภารกิจอยู่นั้น พวกเขาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่า เมืองนี้เปลี่ยนไป หรือพวกเขากันแน่ที่ไม่เหมือนเดิม
เป็นหนังที่ดูแล้วแอบเหวอ เพราะพล็อตเรื่องแหวกแนวหลุดโลกแบบคาดไม่ถึงเลยครับ เล่นเอาอึ้งกลางโรงหนังเลยหละ (โดนเพื่อนลากไปดู โดยที่ไม่ได้อ่านเรื่องย่อ หรือดูตัวอย่างหนังไปก่อน) แต่ก็ถือว่าสนุกใช้ได้ เน้นมุขฮาๆป่วนๆกับความบ้าๆบอๆของผู้ใหญ่วัยกลับ เลยดูได้เพลินๆ ไม่น่าเบื่อ
ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ค่อยมีอะไรมาก จนอาจจะดูไร้สาระ (บางคนอาจจะไม่ชอบ) แต่จุดที่เด่นและเจ๋งของเรื่องนี้ก็คือ มุมกล้องและการตัดต่อที่ทำได้โคตรเท่ ดูดีมีสไตล์มากๆ หลงเสน่ห์ผู้กำกับเพราะสไตล์การตัดต่อเลยอ่ะ ^ ^
ส่วนวิธีการเล่าเรื่องผมว่าโอเคเลยนะ เล่าได้น่าสนใจและชวนให้ติดตามตลอด ทั้งๆที่เนื้อเรื่องจริงๆไม่ค่อยมีอะไรเลย ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่แอบเข้าโรง และกำลังจะออกไปเงียบๆ แต่ถ้ามีเวลาแล้วอยากเจอดูอะไรแหวกแนวต้องเรื่องนี้เลยครับ (แนะนำ ใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ อย่าได้เปิดตัวอย่างหนัง หรืออ่านเรื่องย่อจากที่ไหนเลยนะ แล้วจะอึ้งมาก 55+)