เอเอฟพี -
ผลชันสูตรศพ "พอล วอล์คเกอร์" ชี้ว่านักแสดงหนุ่มจากหนัง Fast and Furious เสียชีวิตจากพิษบาดแผล และบาดแผลจากไฟไหม้ ซึ่งสื่อเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ชี้ชัดว่า "วอล์คเกอร์" ไม่ได้เสียชีวิตทันทีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่สิ้นลมลงเพราะระเบิด และไฟที่ลุกท่วมขึ้นมาหลังจากนั้น
ผลการชันสูตรศพ พอล วอล์คเกอร์ เผยแพร่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยในช่วงของวันพุธ (4 ธ.ค.) ที่ผ่านมา เป็นเวลาเดียวกับที่สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious ได้ประกาศพักการถ่ายทำหนังภาค 7 ออกไปแบบไม่มีกำหนด
โดยผลการชันสูตรเบื้องต้นได้ยืนยันว่า วอล์คเกอร์ ไม่ได้เป็นคนขับรถ Porsche Carrera GT สีแดงเอง แต่เป็น โรเจอร์ โรดาส เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นคนขับรถด้วยความเร็ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในวันเสาร์ ที่ซานตา แคลริต้า ซึ่งอยู่ที่ตอนเหนือของ ลอส แอนเจลิส
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของ โรดาส เจ้าหน้าที่ชันสูตรให้ความเห็นว่าเขาสิ้นลมลงจาก "บาดแผลรุนแรงหลายจุด" ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของ พอล วอล์คเกอร์ เจ้าหน้าที่บอกว่าเกิดขึ้นจากพิษของบาดแผลจากอุบัติเหตุ และแผลไหม้จากความร้อน โดยเอกสารของเจ้าหน้าที่ชันสูตรที่มีความยาวประมาณ 1 หน้า ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ มากไปกว่านี้
อย่างไรก็ตามโฆษกของหน่วยงานชันสูตรศพยังขอปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงเรื่องที่ว่า สาเหตุการเสียชีวิตจาก "แผลไหม้จากความร้อน" นั้นเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า วอล์คเกอร์ อาจจะยังมีชีวิตอยู่หลังอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก่อนจะสิ้นลมลงจากการถูกไฟคลอกในเวลาต่อมาหรือไม่
ซึ่งจากคลิปภาพที่กล้องวิดีโอในบริเวณเก็บภาพเอาไว้ได้ ก่อนทาง CNN จะได้มานำเสนอ ได้ชี้ให้เห็นว่าหลังเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว มีช่วงเวลาประมาณ 1 นาทีเลยทีเดียวกว่าที่รถจะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ซึ่งสื่อเชื่อว่าแม้ผู้คนจากงานการกุศลในบริเวณใกล้เคียงกันที่ วอล์คเกอร์ มีส่วนร่วมด้วย จะรีบพยายามเข้ามาช่วยเหลือเขากับเพื่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็มาช้าเกินไป จนไม่สามารถช่วยชีวิตของ วอล์คเกอร์ ออกมาจากรถได้ เพราะเมื่อทุกคนมาถึง รถก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น และเผาร่างของทั้งสองไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลพิษวิทยาคงต้องใช้เวลาประมาณ 6 - 8 สัปดาห์จึงจะสามารถสรุปออกมาได้ อย่างไรก็ตามสำนักงานชันสูตรศพลอสแอนเจลิสได้ชี้ชัดแล้วว่า การเสียชีวิตของ วอล์คเกอร์ และเพื่อนเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
ที่มา:
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150514
เสียดายจริงๆ ถ้ามีคนมาช่วยเร็วกว่านี้ละก็ อาจจะรอดก็ได้นะ
ผลชันสูตรศพ "พอล วอล์คเกอร์" พระเอกดัง Fast&Furious
เอเอฟพี - ผลชันสูตรศพ "พอล วอล์คเกอร์" ชี้ว่านักแสดงหนุ่มจากหนัง Fast and Furious เสียชีวิตจากพิษบาดแผล และบาดแผลจากไฟไหม้ ซึ่งสื่อเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ชี้ชัดว่า "วอล์คเกอร์" ไม่ได้เสียชีวิตทันทีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่สิ้นลมลงเพราะระเบิด และไฟที่ลุกท่วมขึ้นมาหลังจากนั้น
ผลการชันสูตรศพ พอล วอล์คเกอร์ เผยแพร่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยในช่วงของวันพุธ (4 ธ.ค.) ที่ผ่านมา เป็นเวลาเดียวกับที่สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious ได้ประกาศพักการถ่ายทำหนังภาค 7 ออกไปแบบไม่มีกำหนด
โดยผลการชันสูตรเบื้องต้นได้ยืนยันว่า วอล์คเกอร์ ไม่ได้เป็นคนขับรถ Porsche Carrera GT สีแดงเอง แต่เป็น โรเจอร์ โรดาส เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นคนขับรถด้วยความเร็ว ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในวันเสาร์ ที่ซานตา แคลริต้า ซึ่งอยู่ที่ตอนเหนือของ ลอส แอนเจลิส
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของ โรดาส เจ้าหน้าที่ชันสูตรให้ความเห็นว่าเขาสิ้นลมลงจาก "บาดแผลรุนแรงหลายจุด" ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของ พอล วอล์คเกอร์ เจ้าหน้าที่บอกว่าเกิดขึ้นจากพิษของบาดแผลจากอุบัติเหตุ และแผลไหม้จากความร้อน โดยเอกสารของเจ้าหน้าที่ชันสูตรที่มีความยาวประมาณ 1 หน้า ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ มากไปกว่านี้
อย่างไรก็ตามโฆษกของหน่วยงานชันสูตรศพยังขอปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงเรื่องที่ว่า สาเหตุการเสียชีวิตจาก "แผลไหม้จากความร้อน" นั้นเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า วอล์คเกอร์ อาจจะยังมีชีวิตอยู่หลังอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก่อนจะสิ้นลมลงจากการถูกไฟคลอกในเวลาต่อมาหรือไม่
ซึ่งจากคลิปภาพที่กล้องวิดีโอในบริเวณเก็บภาพเอาไว้ได้ ก่อนทาง CNN จะได้มานำเสนอ ได้ชี้ให้เห็นว่าหลังเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว มีช่วงเวลาประมาณ 1 นาทีเลยทีเดียวกว่าที่รถจะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ซึ่งสื่อเชื่อว่าแม้ผู้คนจากงานการกุศลในบริเวณใกล้เคียงกันที่ วอล์คเกอร์ มีส่วนร่วมด้วย จะรีบพยายามเข้ามาช่วยเหลือเขากับเพื่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็มาช้าเกินไป จนไม่สามารถช่วยชีวิตของ วอล์คเกอร์ ออกมาจากรถได้ เพราะเมื่อทุกคนมาถึง รถก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น และเผาร่างของทั้งสองไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลพิษวิทยาคงต้องใช้เวลาประมาณ 6 - 8 สัปดาห์จึงจะสามารถสรุปออกมาได้ อย่างไรก็ตามสำนักงานชันสูตรศพลอสแอนเจลิสได้ชี้ชัดแล้วว่า การเสียชีวิตของ วอล์คเกอร์ และเพื่อนเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
ที่มา:http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150514
เสียดายจริงๆ ถ้ามีคนมาช่วยเร็วกว่านี้ละก็ อาจจะรอดก็ได้นะ