มันเลือกยากจริงๆนะ ช่วงเวลานี้
จะเลือกข้างนี้ เพื่อนอีกข้างก็ด่าก็ว่า
จะไม่เลือกซักข้างก็คงโดนหนักกว่าเดิม
จะเลือกทั้งสองข้างก็จะถูกหาว่านกสองหัว
เอาเป็นว่าเลือกหรือไม่เลือกอะไรก็ได้ที่ทำแล้วไม่รู้สึกผิดมโนธรรมของเรา
เพราะทั้งสองข้างก็คิดว่าตัวเองทำเพื่อประเทศชาติทั้งนั้น
เพราะทั้งสองข้างก็คิดว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายผิด
ขออัญเชิญพุทธทำนายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาให้อ่านกัน (อ่านท้ายบทความนะครับ)
ผมชอบ สอง บทสุดท้าย ที่ว่า
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
นั้นแสดงว่า ณ จุดสุดท้ายประเทศไทยก็จะมีประชาธิปไตยเต็มใบซักที
เพราะคนส่วนใหญ่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย
ดูจากแต่ละฝ่ายก็อ้างระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น (แม้ดูแล้วจะอ้างแบบมั่วๆก็ตามที อันนี้แค่ความคิดผมนะครับ)
ศรัทธานี่สำคัญ เพราะเป็นความเชื่อและยึดมั่นถือมั่นแม้มีสิ่งใดมากระทบก็ไม่เขว ไม่ทำให้ความเชื่อนั้นหายไป
และอีกบทนึง ที่ว่า
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
ถ้าจะเลือกก็ขอให้เลือกถูกข้างก็แล้วกันนะครับ แต่ไม่ว่าข้างไหนๆ
เมื่อถึงจุดสุดท้าย ก็คงจะรู้ละว่าที่เลือกมาถูกหรือผิด
ส่วนคำกลอนอื่นๆ ใครๆ ก็ดึงเข้าหาตัวเองได้ทั้งนั้น
จากพุทธทำนายผมมีคำกลอนอยู่สองบท ที่อยากจะตีความเข้าข้างตัวเองดังนี้นะครับ
แต่ก็ขอบอกนะครับว่านี่เป็นแค่การตีความของคนๆนึงที่ตีความเข้าข้างตัวเอง อาจจะผิดหรือถูกก็ได้
ในบทนี้ครับ
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ผมคิดว่า บาทนี้ "ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง" น่าจะต่อเนื่องกับบาทนี้ครับ "จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
ก็จะมีความหมายดังนี้ "คนชั่วหัวร่อร่า ทำท่าดังจะมี หนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าคงไม่มีนารีขี่ม้าขาวจริงๆหรอกครับ
และสำหรับบาทนี้ ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ก็ตรงกับเวลานี้ แต่ก็แค่ ให้ระวัง เพราะเหตุการณ์เป็นที่หวาดเสียวยิ่ง เท่านั้นครับ คิดว่าน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
จะคิดกันยังไงก็แล้วแต่ใจท่านนะครับ ผมแค่บอกความในใจของผมเท่านั้นครับ
ไม่บังคับและขืนใจใครให้เชื่อตาม
พุทธทำนาย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
สำหรับคนที่ไม่รู้จะเลือกข้างไหน
จะเลือกข้างนี้ เพื่อนอีกข้างก็ด่าก็ว่า
จะไม่เลือกซักข้างก็คงโดนหนักกว่าเดิม
จะเลือกทั้งสองข้างก็จะถูกหาว่านกสองหัว
เอาเป็นว่าเลือกหรือไม่เลือกอะไรก็ได้ที่ทำแล้วไม่รู้สึกผิดมโนธรรมของเรา
เพราะทั้งสองข้างก็คิดว่าตัวเองทำเพื่อประเทศชาติทั้งนั้น
เพราะทั้งสองข้างก็คิดว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายผิด
ขออัญเชิญพุทธทำนายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาให้อ่านกัน (อ่านท้ายบทความนะครับ)
ผมชอบ สอง บทสุดท้าย ที่ว่า
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
นั้นแสดงว่า ณ จุดสุดท้ายประเทศไทยก็จะมีประชาธิปไตยเต็มใบซักที
เพราะคนส่วนใหญ่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย
ดูจากแต่ละฝ่ายก็อ้างระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น (แม้ดูแล้วจะอ้างแบบมั่วๆก็ตามที อันนี้แค่ความคิดผมนะครับ)
ศรัทธานี่สำคัญ เพราะเป็นความเชื่อและยึดมั่นถือมั่นแม้มีสิ่งใดมากระทบก็ไม่เขว ไม่ทำให้ความเชื่อนั้นหายไป
และอีกบทนึง ที่ว่า
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
ถ้าจะเลือกก็ขอให้เลือกถูกข้างก็แล้วกันนะครับ แต่ไม่ว่าข้างไหนๆ
เมื่อถึงจุดสุดท้าย ก็คงจะรู้ละว่าที่เลือกมาถูกหรือผิด
ส่วนคำกลอนอื่นๆ ใครๆ ก็ดึงเข้าหาตัวเองได้ทั้งนั้น
จากพุทธทำนายผมมีคำกลอนอยู่สองบท ที่อยากจะตีความเข้าข้างตัวเองดังนี้นะครับ
แต่ก็ขอบอกนะครับว่านี่เป็นแค่การตีความของคนๆนึงที่ตีความเข้าข้างตัวเอง อาจจะผิดหรือถูกก็ได้
ในบทนี้ครับ
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ผมคิดว่า บาทนี้ "ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง" น่าจะต่อเนื่องกับบาทนี้ครับ "จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
ก็จะมีความหมายดังนี้ "คนชั่วหัวร่อร่า ทำท่าดังจะมี หนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง"
ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าคงไม่มีนารีขี่ม้าขาวจริงๆหรอกครับ
และสำหรับบาทนี้ ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ก็ตรงกับเวลานี้ แต่ก็แค่ ให้ระวัง เพราะเหตุการณ์เป็นที่หวาดเสียวยิ่ง เท่านั้นครับ คิดว่าน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
จะคิดกันยังไงก็แล้วแต่ใจท่านนะครับ ผมแค่บอกความในใจของผมเท่านั้นครับ
ไม่บังคับและขืนใจใครให้เชื่อตาม
พุทธทำนาย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ