เดือนตุลาคม 2556 ดิฉันกำลังเปิดทำธุรกิจซักอบรีด จึงได้สั่งเครื่องซักผ้า จำนวน 4 เครื่อง เพื่อเปิดร้านซักอบรีด ได้ติดต่อช่างต่อท่อเครื่อง
ซักผ้า และต่อไฟดวง/ปลั๊ก กับช่างโดยตรง แต่ช่างกลับไปให้เพื่อนของตัวเองทำ ซึ่งเป็นช่างไฟ พอทำเสร็จ ช่างก็กลับไป แล้วดิฉันก็ทดลองใช้เครื่องซักผ้า ปรากฎว่า น้ำซึ่งออกจากเครื่องซักผ้าที่ซักแล้ว ล้นออกจากท่อที่เสียบท่อเครื่องซักผ้า ไหลลงพื้นในบ้าน และหน้าบ้าน ซึ่งไหลไปในบ้านของเพื่อนข้างบ้าน จึงทำให้ดิฉันไม่สามารถเปิดบริการได้คล่องตัว จึงได้ติดต่อช่างที่ทำ ก็กลับบอกว่าอยู่ลพบุรีบ้าง ติดต่อเป็นสิบครั้งก็บุ้ยบ้าย หลบข้าง ๆ เคียง ๆ ให้ช่างที่ติดต่อคนเดิมทำ ดิฉันก็รอเขากลับจากลพบุรี เพื่อกลับมาแก้ให้ ก็รอไม่ไหว เขาก็คุยกัน 2 คน ว่าต้องตัดท่อทิ้ง ครึ่งหนึ่ง ดิฉันก็ทำตาม พอทำออกมาก็ไม่หาย เป็นเหมือนเดิมดิฉันก็จ่ายไปอีก 400 บาท ครั้งแรกจ่าย 6,000 - 7,000 บาท สอบถามจากเพื่อน ทำเครื่องแค่นี้ ทำไมแพงมาก ทีนี้ก็โทรเรียก โทรอีก บอกไม่ว่างบ้าง ให้พี่ชายมาดูบ้าง ให้ช่างคนโน้นมาบ้าง ตัวเองไม่มาเลย ดิฉันว่าเขาทำไม่เป็นมากกว่า เขาเป็นช่างไฟ ครั้งล่าสุดโทรบอกว่าอย่างเอาจริงเอาจัง ฝากเพื่อนเขาให้ไปบอก เขาก็รีบมา แต่เขามาดู เขาบอกว่า เจ๊ก็ใช้ทีละเครื่องซิ และถ้าทำใหม่ต้องเปลี่ยนท่อใหญ่กว่าเดิม ดิฉันก็ตอบว่า เครื่องซักผ้าใช้ทีละเครื่อง คงไม่ได้ เพราะจะซื้อมา 4 เครื่องทำไม ขนาดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นสิบเครื่อง ไม่เห็นน้ำล้นเลย จะไปห้ามลูกค้ามาใช้บริการทีละเครื่องได้อย่างไร ถึงใช้ทีละเครื่อง น้ำมันก็ล้นชนรอบกันกับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง และถ้าเปลี่ยนท่อใหญ่กว่าเดิม ก็ขอให้ช่างทำให้เสร็จดูว่าใช้ได้ไหม จึงจะจ่ายตังค์ เพราะการซื้อท่อครั้งแรก ดิฉันไม่ใช่เป็นคนบอกช่างให้เอาขนาดนี้ ดิฉันก็บอกว่า ถ้าทำท่อใช้ได้แล้ว ยินดีที่จ่ายเงินให้ในส่วนที่เกินจากท่อเล็ก เป็นท่อใหญ่ เพราะครั้งแรกไม่ใช่ความผิดของดิฉัน ทำไมจะต้องให้จ่ายเงินไปก่อน เพราะความลองผิดลองถูกของเขา เท่านั้นแหละเขาก็พูดว่า เจ๊พูดไม่รู้เรื่อง ไม่เอาผมไม่ทำแล้ว ดิฉันก็บอกว่า ลองไปถามช่างผู้มีความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ใช้ได้ ภายใน 1 อาทิตย์ ซึ่งเมื่อวานกับวันนี้ ดิฉันโทร. หาเขา เพื่อที่จะถามว่า เรียบร้อยหรือยัง เขากลับไม่รับโทรศัพท์อีกเลย ก็เลยไปบอกเพื่อนเขาซึ่งเราได้ติดต่อคนนี้ครั้งแรก เขาก็บอกว่า เขาจะบอกให้ เราก็พูดว่า ครั้งแรกพี่ติดต่อกับน้องให้ทำ ไม่ใช่ช่างไฟสักหน่อย เขาก็บอกว่า งั้นผมก็ผิดด้วยซิ ดิฉันก็ไม่ตอบ ให้คิดเอาเอง
ดิฉันก็บอกว่า ทำงานแบบนี้ไม่รับผิดชอบเลย รอมา ติดต่อตั้ง 2 เดือน ลูกค้าก็จะมาใช้บริการอยู่ ขาดรายได้ไปเยอะเหมือนกัน ดิฉันขอถามคำถามยังผู้รู้ทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้ ควรดำเนินการอย่างไร ดังนี้
- ถ้าเราฟ้องร้อง โดยแจ้งความ จะมีผลได้หรือไม่ บางคนก็บอกว่า เราไม่มีสัญญาในการทำ ดิฉันก็บอกว่ามีพยาน เขาก็บอกว่าเราก็เถียงกันตาย ดิฉันว่า งานแค่นี้ ถึงขนาดต้องทำสัญญากันเชียวหรือ แล้วประชาชนที่โดนผู้รับจ้างเอาเปรียบผู้บริโภคแบบนี้ ก็ลอยนวลไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่บ้านเขาก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งตำรวจเขาก็บอกว่าแจ้งได้ เขาจะมีหมายเรียกจับ และช่วยไกล่เกลี่ยให้ เพื่อนบางคนก็บอกว่า เราหาช่างใหม่ดีกว่า งานก็จะได้ต่อเนื่อง ทำธุรกิจจะได้ไม่มีใครมาแกล้งเรา เวลาเดินทางไปไหน ก็ไม่มีใครมาทำร้าย หรือมาแกล้งทำลายสิ่งของที่เป็นธุรกิจของเรา เพื่อนบางคนก็บอกว่าให้แจ้ง ส.ค.บ. ไม่ทราบตรงนี้จะคุ้มครองผู้บริโภคได้หรือไม่
ช่างผิดนัดการซ่อมและไม่รับผิดชอบงานที่ยังไม่เสร็จ สามารถแจ้งความหรือฟ้องร้องได้ไหมคะ
ซักผ้า และต่อไฟดวง/ปลั๊ก กับช่างโดยตรง แต่ช่างกลับไปให้เพื่อนของตัวเองทำ ซึ่งเป็นช่างไฟ พอทำเสร็จ ช่างก็กลับไป แล้วดิฉันก็ทดลองใช้เครื่องซักผ้า ปรากฎว่า น้ำซึ่งออกจากเครื่องซักผ้าที่ซักแล้ว ล้นออกจากท่อที่เสียบท่อเครื่องซักผ้า ไหลลงพื้นในบ้าน และหน้าบ้าน ซึ่งไหลไปในบ้านของเพื่อนข้างบ้าน จึงทำให้ดิฉันไม่สามารถเปิดบริการได้คล่องตัว จึงได้ติดต่อช่างที่ทำ ก็กลับบอกว่าอยู่ลพบุรีบ้าง ติดต่อเป็นสิบครั้งก็บุ้ยบ้าย หลบข้าง ๆ เคียง ๆ ให้ช่างที่ติดต่อคนเดิมทำ ดิฉันก็รอเขากลับจากลพบุรี เพื่อกลับมาแก้ให้ ก็รอไม่ไหว เขาก็คุยกัน 2 คน ว่าต้องตัดท่อทิ้ง ครึ่งหนึ่ง ดิฉันก็ทำตาม พอทำออกมาก็ไม่หาย เป็นเหมือนเดิมดิฉันก็จ่ายไปอีก 400 บาท ครั้งแรกจ่าย 6,000 - 7,000 บาท สอบถามจากเพื่อน ทำเครื่องแค่นี้ ทำไมแพงมาก ทีนี้ก็โทรเรียก โทรอีก บอกไม่ว่างบ้าง ให้พี่ชายมาดูบ้าง ให้ช่างคนโน้นมาบ้าง ตัวเองไม่มาเลย ดิฉันว่าเขาทำไม่เป็นมากกว่า เขาเป็นช่างไฟ ครั้งล่าสุดโทรบอกว่าอย่างเอาจริงเอาจัง ฝากเพื่อนเขาให้ไปบอก เขาก็รีบมา แต่เขามาดู เขาบอกว่า เจ๊ก็ใช้ทีละเครื่องซิ และถ้าทำใหม่ต้องเปลี่ยนท่อใหญ่กว่าเดิม ดิฉันก็ตอบว่า เครื่องซักผ้าใช้ทีละเครื่อง คงไม่ได้ เพราะจะซื้อมา 4 เครื่องทำไม ขนาดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นสิบเครื่อง ไม่เห็นน้ำล้นเลย จะไปห้ามลูกค้ามาใช้บริการทีละเครื่องได้อย่างไร ถึงใช้ทีละเครื่อง น้ำมันก็ล้นชนรอบกันกับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง และถ้าเปลี่ยนท่อใหญ่กว่าเดิม ก็ขอให้ช่างทำให้เสร็จดูว่าใช้ได้ไหม จึงจะจ่ายตังค์ เพราะการซื้อท่อครั้งแรก ดิฉันไม่ใช่เป็นคนบอกช่างให้เอาขนาดนี้ ดิฉันก็บอกว่า ถ้าทำท่อใช้ได้แล้ว ยินดีที่จ่ายเงินให้ในส่วนที่เกินจากท่อเล็ก เป็นท่อใหญ่ เพราะครั้งแรกไม่ใช่ความผิดของดิฉัน ทำไมจะต้องให้จ่ายเงินไปก่อน เพราะความลองผิดลองถูกของเขา เท่านั้นแหละเขาก็พูดว่า เจ๊พูดไม่รู้เรื่อง ไม่เอาผมไม่ทำแล้ว ดิฉันก็บอกว่า ลองไปถามช่างผู้มีความรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ใช้ได้ ภายใน 1 อาทิตย์ ซึ่งเมื่อวานกับวันนี้ ดิฉันโทร. หาเขา เพื่อที่จะถามว่า เรียบร้อยหรือยัง เขากลับไม่รับโทรศัพท์อีกเลย ก็เลยไปบอกเพื่อนเขาซึ่งเราได้ติดต่อคนนี้ครั้งแรก เขาก็บอกว่า เขาจะบอกให้ เราก็พูดว่า ครั้งแรกพี่ติดต่อกับน้องให้ทำ ไม่ใช่ช่างไฟสักหน่อย เขาก็บอกว่า งั้นผมก็ผิดด้วยซิ ดิฉันก็ไม่ตอบ ให้คิดเอาเอง
ดิฉันก็บอกว่า ทำงานแบบนี้ไม่รับผิดชอบเลย รอมา ติดต่อตั้ง 2 เดือน ลูกค้าก็จะมาใช้บริการอยู่ ขาดรายได้ไปเยอะเหมือนกัน ดิฉันขอถามคำถามยังผู้รู้ทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้ ควรดำเนินการอย่างไร ดังนี้
- ถ้าเราฟ้องร้อง โดยแจ้งความ จะมีผลได้หรือไม่ บางคนก็บอกว่า เราไม่มีสัญญาในการทำ ดิฉันก็บอกว่ามีพยาน เขาก็บอกว่าเราก็เถียงกันตาย ดิฉันว่า งานแค่นี้ ถึงขนาดต้องทำสัญญากันเชียวหรือ แล้วประชาชนที่โดนผู้รับจ้างเอาเปรียบผู้บริโภคแบบนี้ ก็ลอยนวลไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่บ้านเขาก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งตำรวจเขาก็บอกว่าแจ้งได้ เขาจะมีหมายเรียกจับ และช่วยไกล่เกลี่ยให้ เพื่อนบางคนก็บอกว่า เราหาช่างใหม่ดีกว่า งานก็จะได้ต่อเนื่อง ทำธุรกิจจะได้ไม่มีใครมาแกล้งเรา เวลาเดินทางไปไหน ก็ไม่มีใครมาทำร้าย หรือมาแกล้งทำลายสิ่งของที่เป็นธุรกิจของเรา เพื่อนบางคนก็บอกว่าให้แจ้ง ส.ค.บ. ไม่ทราบตรงนี้จะคุ้มครองผู้บริโภคได้หรือไม่