http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=704433
สอ.รส.จ่อเช็คบิลนายทุนหนุนกปปส.ผิดม.114ฐานสมรู้ร่วมคิดกบฏ
เมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 4 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงว่า ขณะนี้ศอ.รส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวบริษัทห้างร้านหรือกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กกปส.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ โดยผู้สนับสนุนเหล่านี้จะมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับกบฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ส่วนข้อมูลของบริษัท ห้างร้าน หรือ กลุ่มบุคคล ที่สนับสนุนนายสุเทพ มีใครบ้าง จำนวนเท่าใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าใครก็ตามที่มีส่วนสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด จะต้องถูกดำเนินคดี
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายสุเทพ พูดมาตลอดว่า จะชุมนุมด้วยความสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกยิงที่บริเวณใต้ปีกใบพัดและใต้ท้องเครื่อง รวม 2 นัด ขณะร่อนลงส่งเสบียงให้กับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้จอดอยู่ที่กองบินตำรวจ ขณะที่อีกกรณี พ.ต.ท.วิเชียร มุริจันทร์ รองผกก.ควบคุมฝูงชน2 บก.อคฝ. ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สะพานอรทัย เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสะเก็ดระเบิดได้ทำลายหลอดลม ทำให้ขณะนี้ยังคงพักอยู่ในห้องไอซียู ขณะนี้พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
"ถ้ากรณีเฮลิคคอปเตอร์ลำนี้ตกลงใส่ฝูงชน จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวน รวมทั้งอาจตกใส่อาคารสถานที่สำคัญ อยากจะถามนายสุเทพ ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องไปยังนายสุเทพ ให้ควบคุมการประท้วงให้อยู่ในกฎเกณฑ์ อย่าทำร้ายตำรวจหรือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รวมทั้งไม่ทำลายทรัพย์สินทางราชการ"รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แน่ใจได้อย่างไรว่า เหตุการณ์ที่เฮลิคคอปเตอร์ถูกยิง เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านวิถีกระสุน พบว่า เป็นการยิงจากพื้นดิน และเป็นการยิงมุมเฉียง 35 องศา เมื่อถามว่าเป็นการยิงจากจุดไหน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ทราบเพียงว่า เหตุเกิดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อถามว่าขณะนั้นมีเหตุการณ์อะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ตนได้รับรายงานมามีข้อมูลเพียงเท่านี้
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ ออกพิมพ์เขียวการตั้งสภาประชาชน โดยใช้ช่องตามมาตรา 3 และมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายสุเทพ จะต้องไปศึกษาในข้อกฎหมายให้ละเอียดรอบครอบกว่านี้ ส่วนตัวมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่นายสุเทพ จินตนาการไปเอง เกี่ยวกับมาตรา 7 นั้น หากทำได้ ทำไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนยินดีที่จะพูดคุยกับนายสุเทพ แต่การจะพูดคุยกันนั้น นายสุเทพต้องมอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน
การกวาดล้างเริ่มแล้วครับ
สอ.รส.จ่อเช็คบิลนายทุนหนุนกปปส.ผิดม.114ฐานสมรู้ร่วมคิดกบฏ
เมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 4 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงว่า ขณะนี้ศอ.รส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวบริษัทห้างร้านหรือกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กกปส.ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ โดยผู้สนับสนุนเหล่านี้จะมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับกบฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 114 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ส่วนข้อมูลของบริษัท ห้างร้าน หรือ กลุ่มบุคคล ที่สนับสนุนนายสุเทพ มีใครบ้าง จำนวนเท่าใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าใครก็ตามที่มีส่วนสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด จะต้องถูกดำเนินคดี
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายสุเทพ พูดมาตลอดว่า จะชุมนุมด้วยความสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกยิงที่บริเวณใต้ปีกใบพัดและใต้ท้องเครื่อง รวม 2 นัด ขณะร่อนลงส่งเสบียงให้กับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้จอดอยู่ที่กองบินตำรวจ ขณะที่อีกกรณี พ.ต.ท.วิเชียร มุริจันทร์ รองผกก.ควบคุมฝูงชน2 บก.อคฝ. ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สะพานอรทัย เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสะเก็ดระเบิดได้ทำลายหลอดลม ทำให้ขณะนี้ยังคงพักอยู่ในห้องไอซียู ขณะนี้พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
"ถ้ากรณีเฮลิคคอปเตอร์ลำนี้ตกลงใส่ฝูงชน จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวน รวมทั้งอาจตกใส่อาคารสถานที่สำคัญ อยากจะถามนายสุเทพ ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ จึงอยากเรียกร้องไปยังนายสุเทพ ให้ควบคุมการประท้วงให้อยู่ในกฎเกณฑ์ อย่าทำร้ายตำรวจหรือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รวมทั้งไม่ทำลายทรัพย์สินทางราชการ"รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แน่ใจได้อย่างไรว่า เหตุการณ์ที่เฮลิคคอปเตอร์ถูกยิง เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านวิถีกระสุน พบว่า เป็นการยิงจากพื้นดิน และเป็นการยิงมุมเฉียง 35 องศา เมื่อถามว่าเป็นการยิงจากจุดไหน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ทราบเพียงว่า เหตุเกิดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อถามว่าขณะนั้นมีเหตุการณ์อะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ตนได้รับรายงานมามีข้อมูลเพียงเท่านี้
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ ออกพิมพ์เขียวการตั้งสภาประชาชน โดยใช้ช่องตามมาตรา 3 และมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายสุเทพ จะต้องไปศึกษาในข้อกฎหมายให้ละเอียดรอบครอบกว่านี้ ส่วนตัวมองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่นายสุเทพ จินตนาการไปเอง เกี่ยวกับมาตรา 7 นั้น หากทำได้ ทำไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนยินดีที่จะพูดคุยกับนายสุเทพ แต่การจะพูดคุยกันนั้น นายสุเทพต้องมอบตัว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน