เนื่องในวันพ่อ ขอแบ่งปันเรื่องราวที่น่ารักและซาบซึ้งของ "พ่อของแผ่นดิน" เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ค่ะ เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เคยได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านนะคะ







เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๙ คุณอัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ได้มีโอกาสเข้าพบและสัมภาษณ์ ท่านผู้หญิงพัว อนุรักษ์ราชมณเฑียร ข้าหลวงในสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นสมเด็จย่าของในหลวง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเยาว์  เมื่อครั้งเสด็จกลับมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ความส่วนหนึ่งว่า...




ท่านผู้หญิงพัว: …เมื่อเจ้านายเสด็จเข้ามาจากอเมริกา พร้อมทั้งสมเด็จพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนี พระพี่นางและพระเชษฐา ในเวลานั้นพระชนมพรรษาได้ขวบเศษ ได้เฝ้าครั้งแรกเห็นอนามัยดี แข็งแรง ร่าเริง แจ่มใส พระฉวีผ่อง พระโอษฐ์แดง ไม่ทรงแปลกหน้าใครเลย

เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนกประชวร ดิฉันได้เข้าไปถวายการพยาบาลเป็นเวรกลางวัน เพราะดิฉันมีลูกอ่อน จึงได้เห็นว่าสมเด็จพระศรีนครินทรทรงอบรมเลี้ยงดูพระโอรสพระธิดาอย่างไร

ผู้สัมภาษณ์: ธรรมชาติของเด็กๆ เวลาเล่นกันก็มักจะรังแกกัน เจ้านายทรงรังแกกันเองหรือรังแกคนอื่นบ้างไหม

ท่านผู้หญิงพัว: ธรรมดาของเด็กชอบรังแกคน เพราะสมเด็จย่าทรงมีข้าหลวงเล็กๆ มากๆ สมเด็จท่านทรงแก้ไขด้วยวิธีสอนให้ผู้ที่ถูกรังแกทำตอบ เลยทรงเข็ดไปเอง




ผู้สัมภาษณ์: เสด็จออกไปเมืองนอกพระชันษาเท่าใด

ท่านผู้หญิงพัว: เสด็จออกไปนอกเมื่อสมเด็จพระบรมราชชนกทิวงคตแล้ว พระชันษาได้ ๖ พรรษา ในพ.ศ.๒๔๗๖

ผู้สัมภาษณ์: เคยเสด็จกลับมาเมืองไทยบ้างหรือไม่

ท่านผู้หญิงพัว: เสด็จกลับครั้งแรกเมื่อพระชันษาประมาณ ๑๒ พรรษา พร้อมกับพระเชษฐาเมื่อทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วประทับอยู่ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน




ผู้สัมภาษณ์: เสด็จกลับตอนนั้นทรงทำอะไรเป็นพิเศษ

ท่านผู้หญิงพัว: ตามเสด็จพระเชษฐาไปทุกๆ แห่งที่เสด็จ เช่น เปิดงานรัฐธรรมนูญ ทรงซื้อรถไฟฟ้าหรือใครถวาย ดิฉันจำไม่ได้ แต่เป็นที่โปรดปรานมาก ทรงขับทั่วๆ ไปในบริเวณสวนจิตรลดา เวลามีคนมาเฝ้าสมเด็จพระบรมราชชนนี ถ้าทรงรู้จักและคุ้นเคยจะทรงเรียกให้ขึ้นรถด้วย และทรงเก็บสตางค์เป็นราคา ๕ สตางค์ จากประตูชั้นใน แล้วนำมาส่งถึงตัวพระตำหนัก

มีผู้ขึ้นนั่งแล้วไม่มีเศษสตางค์จะถวายให้ จึงถวายไป ๑๐ สตางค์ แล้วไม่ยอมรับทอน ทั้งทูลว่าสตางค์ทอนนั้นถวายเป็นรางวัล ท่านรีบหยิบเงินทอนประทานแล้วอบรมผู้นั้นต่อไปว่า ๕ สตางค์นี้ตั้งตัวได้ ผู้ถูกอบรมทูลถามว่า "ตั้งตัวได้อย่างไร" ท่านทรงสอนว่า "ให้ไปซื้อพันธุ์ถั่วมาปลูกขาย แล้วจะมั่งมีเอง"




ผู้สัมภาษณ์: พระองค์ท่านทรงประพฤติและทรงปฏิบัติต่อพระเชษฐาอย่างไร

ท่านผู้หญิงพัว: ทรงเคารพเชื่อฟังพระเชษฐามาก แนะนำอะไรก็เชื่อ ไม่รังแกกันเลย เพราะทรงแข็งแรงกว่าพระเชษฐามาก เพราะทรงกำพร้าจำพระพักตร์ทูลกระหม่อมสมเด็จพระบรมราชชนกไม่ได้ จึงมีความรู้สึกต่อพระเชษฐานั้นว่าทรงเป็นทั้งพ่อ ทั้งพี่ และทั้งเพื่อน

ผู้สัมภาษณ์: เสด็จไปอยู่เมืองนอกประมาณกี่ปี

ท่านผู้หญิงพัว: เสด็จไปอยู่เมืองนอกรวมเวลาทั้งหมดประมาณ ๒๐ ปี แต่ไม่ได้ประทับอยู่ตลอดเวลา เสด็จกลับไปกลับมาหลายเที่ยว




ผู้สัมภาษณ์: หลังจากกลับจากเมืองนอกใหม่ๆ พระราชจริยวัตรทรงถืออย่างแบบฝรั่ง หรืออย่างแบบไทย

ท่านผู้หญิงพัว: เรื่องนี้ขอตอบถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระบรมราชชนนี เพราะตลอดเวลาทรงอบรมสั่งสอนพระโอรส พระธิดา ให้ทรงรักษามารยาทและขนบธรรมเนียมประเพณีไทยทุกอย่าง แม้แต่คำรับสั่งจะไม่มีภาษาฝรั่งปนเลย




ผู้สัมภาษณ์: ทรงโปรดของเล่นอะไรบ้าง

ท่านผู้หญิงพัว: เอ อันนี้จะเรียกว่าเล่นหรือจริงอะไรก็ได้แล้วแต่คุณ แต่ทรงโปรดเล่นเครื่องกลไกเครื่องยนต์มาก เครื่องเล่นอะไรของใครเสียแล้วมาถวายให้ทรงแก้ให้ บางทีก็กลับเป็นของดีใช้ได้ดังเก่า คุณไม่เคยได้ยินหรืออ่านในหน้าหนังสือพิมพ์นานมาแล้วหรือว่า ได้ทรงช่วยแก้ปืนทหารที่เสียแล้วกลับใช้ได้อีก




ผู้สัมภาษณ์: แล้วเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทรงโปรดสัตว์อะไร

ท่านผู้หญิงพัว: ทรงโปรดสัตว์ทุกชนิด แม้พระเสวตที่น้อมเกล้าถวายฯ มา ยังทรงเลี้ยงไว้ในสวนจิตรลดา พร้อมทั้งสุนัขบริวารด้วย แต่ที่ทรงโปรดและห่วงใยมากที่สุดคือสัตว์มนุษย์


* หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์ข้างต้นคัดมาจากหนังสือ "หนึ่งในโลก จอมกษัตริย์มหาราชผู้ยิ่งใหญ่" ซึ่งเป็นการรวบรวมคำสัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญผู้ที่ได้ถวายงานใกล้เบื้องพระยุคลบาททั้งที่ยังมีชีวิตอยู่หรือที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นการสัมภาษณ์และรวบรวมโดยคุณอัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์

คำสัมภาษณ์เหล่านี้เคยตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ "ในหลวงของเรา" มาแล้วในปี พ.ศ.๒๕๑๙ แต่เพื่อเป็นการร่วมฉลอง ๖๐ ปีการครองราชย์ คุณอัครวัฒน์ได้เพิ่มเติมบทสัมภาษณ์ชิ้นใหม่เพื่อให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และได้เปลี่ยนชื่อหนังสือใหม่เพื่อให้สื่อความหมายที่ยิ่งใหญ่ในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้