"เพื่อน"ที่เป็นมากกว่า"แฟน"

ต้องขอออกตัวว่าพิมพ์จากมือถือ จึงเรียงบรรทัดมิสวยเท่าไหร่ค่ะ ..                                                                                                                                          เราเป็นผู้หญิง สมมติว่าชื่อ "อิม" นะคะ  เรามีเพื่อนสนิทหลายคน ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงไม่ก็กระเทยค่ะ. แต่!!  เรามีเพื่อนที่สนิทมากกกกเว่อร์อยู่อีกหนึ่งคน คนๆนี้เป็นผู้ชาสมมติว่าชื่อ "โอม" ค่ะ  ความเป็นเพื่อนของเรานับจากอดีตจนปัจจุบัน เป็นเวลา 7 ปีแล้ว แต่ที่สนิทกันแบบจริงๆจังๆก็ประมาณ 4 ปีค่ะ ตลอดระยะเวลา 4 ปีนี้ เราจะช่วยเหลือกันในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเรียน และงาน ต่างคนก็ต่างมีแฟน ทำให้เราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันบ่อย ส่วนมากจะอยู่ด้วยกันแค่ในมหาวิทยาลัย อิมเป็นคนติดแฟนมาก ถ้าว่างก็มักจะอยู่แต่กับแฟน แต่โอมเค้าไม่ใช่คนแบบนั้น โอมเป็นผู้ชายที่ รัก เพื่อนมากกว่าแฟน บางครั้งเวลาอิมอยากไปทำธุระที่ไหนแล้วบังเอิญแฟนไม่ว่าง อิมจะนึกถึงโอมทันที หลายครั่งที่โอมต้องเลิกนัดแฟน เพื่อไปกับอิม (อิมเห็นแก่ตัว ยอมรับ!!) ด้วยความที่โอมเป็นคนพูดน้อยมาก ทำให้อิมไม่ค่อยรู้ว่าเค้ารู้สึกอะไรอยู่ ขนาดโอมเลิกกับแฟน โอมเสียใจมาก(โอมมาบอกอิมทีหลัง) อิมยังไม่รู้เลย โอมเก็บอาการอยู่จริงๆ  อิมจะเห็นค่าโอมก็ต่อเมื่อมีปัญหา อย่างเวลาเลิกกับแฟน โดนแฟนทิ้ง มีเรื่องไม่สบายใจ อิมก็จะไปร้องไห้กับโอม พอสบายใจ ดีกับแฟน มีแฟนใหม่ อิมจะหายหัวตลอด เอาเป็นว่า หันกลับไป อิมจะเห็นโอมเสมอ โอมไม่เคยหายไปไหน จนเมื่อ 1 ปีก่อน อิมมีเหตุต้องเลิกกับแฟน อิมช๊อคมาก ก็ได้โอมคอยให้กำลังใจ อยู่เป็นเพื่อน (อันที่จริงมันก็ว่างแหละ) ถึงเวลานี้ เราเลยมีเวลาอยู่ด้วยกันแทบจะ 24 ชม. เป็นคู่โปรเจ็คด้วยกัน ไปไหนไปกันตลอดเวลา ทีนี้เลยไม่มีใครมาจีบเราทั้งคู่ เพราะเค้าคิดว่าเป็นแฟนกัน คิดไปยันอาจารย์ บุคคลากรในม.  ก็ยังคิด  แต่เรามั้งคู่ไม่ได้คิดอะไรหรอก ต่างคนต่างยังรักแฟนเก่าอยู่เล๊ย จนเราต้องมาทำงาน อิมได้งานก่อน เลยชวนโอมไปลองสมัครดู ดันได้งานทั้งคู่ เรา 2 คนก็เลยต้องทำงานด้วยกันอีก แต่มันคงเป็นความไม่รู้จักคิดของเราทั้งคู่   ถึงทำให้เรามาเช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน  ตอนนั้นคิดแค่ว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย มีเพื่อนคอยดูแลกัน  ตอนแรกๆเราก็เกร็งๆกัน พออยู่ๆกันไปสักพักก็เริ่มชิน พฤติกรรมของเรา 2 คนเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เมื่อก่อนไม่เคยทำพอถึงตอนนี้ก็ทำซะงั้น  เราเริ่มกอดกัน. สักพักก็หอมแก้มกัน  ไปๆมาๆเริ่มจูบกัน  จากที่นอนคนละที่ ก็มานอนเตียงเดียวกัน นอนกอดกันทุกคืน บางทีเวลาเราแกล้งหลับ โอมก็จะมาหอมเรา กอดเรา ลูบผมเราแบบเอ็นดู (แต่เราไม่มีอะไรกันนะ สาบานว่าไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย ) โอมบอกว่า เค้าไม่คิดจะทำอะไรเราตั้งแต่แรกแล้วสบายใจได้ หลังจากนั้นเราก็เดินจูงมือกัน เริ่มเรียกชื่อที่ตั้งกันเอง เดินโป๊ๆไปทั่วห้องโดยไม่อายกันแล้ว  โอมดูแลเราดีทุกอย่าง ซักเสื้อผ้า จัดห้อง เรามีหน้าที่ทำกับข้าวอย่างเดียว เงินทองก็ให้ใช้ เวลากลับบ้าน ก็จะคุยโทสับกันเป็น ชม. บางทีเราก็คิดนะว่าโอมมันคิดไรรึปล่าว แต่พออิมถาม โอมก็บอกว่ารักแบบเพื่อน ไม่ได้รักแบบชู้สาว เราก็โอเคนะ ถ้ามีเพื่อนที่ดีกว่าแฟนขนาดนี้ จะมีใครในโลกนี้ ที่เจอสถานการณ์เหมือนอิมบ้างมั้ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
*****เพื่อนสนิท คิดไม่ซั่ม*****

              นำแสดงโดย

               อิม ทำ หลับ
               โอม ลูบ หัว


            ฉายไปแล้วข้างบน
ความคิดเห็นที่ 3
เหลือแค่สอดใส่ ก็เข้าใกล้เป็นผัวเมียแล้วนะครับ....แหม่
อมยิ้ม34
ความคิดเห็นที่ 75
ผมนั่งอ่านดูแล้ว มันดูคุ้นๆครับ
ผมขอแชร์ประสบการ์ณในมุมของผู้ชายของตัวเองนะครับ คุณโอมอาจจะไม่ได้คิดแบบผมก็ได้ ^^'

มีน้องคนนึงเราสนิทกัน เราเริ่มจากการหาร้านสวยๆชิวๆอาหารอร่อยๆไปไหนมาไหนด้วยกันแบบไม่คิดอะไร น้องเค้าก็มาหาผมบ่อยๆ มาทำกับข้าวให้กิน กวาดบ้านถูบ้าน ผมก็งงๆนะ ไม่ได้คิดอะไร ก็มาบ่อยๆ จนผมบอกว่า มาอยู่นี่ก็ได้เพราะบ้านผมใกล้ที่ทำงานน้องเค้า อยู่ด้วยกัน ก็ทำทุกอย่างนะ อาบน้ำด้วยกัน แก้ผ้าเดินในบ้าน แต่ไม่ได้มีอะไรกัน ผมก็ดูแลน้องเค้า ก่อนนอนก็นวดให้ ตัดเล็บให้  เวลาจูบกัน ความรู้สึกก็คืออยากจูบ เวลาจะจับอะไร ความแค่อยากจับ เวลานอนก็นอนกอดกัน ในใจผมไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแค่เป็นห่วงอยากดูแลน้องเค้าเท่านั้นเอง เวลาอยู่ไกลกันก็โทรศัพท์หากันคุยกันนานๆ ผมไม่ได้จีบหรือมีผู้หญิงที่ไหน ผมพอใจกับชีวิตตอนนั้น มีคนดีอยู่ข้างๆดูแลกันและกัน  ส่วนน้องเค้ามีคนจีบเยอะ แรกๆก็มีคนโทรหาบ่อยๆ ผมก็ไม่อะไร เพราะไม่ได้คิดอะไร  แต่พออยู่กันไปครึ่งปี ไม่ได้มีอะไรกันเลยนะครับ ผมเริ่มรู้สึกว่าน้องเค้ารักผม เริ่มบอกรัก เริ่มทำตาหวานๆใส่ ผมก็รู้สึกดีนะ แต่มันไม่สุด เพราะผมไม่ได้รักน้องเค้าแบบนั้น บางคืนหื่นมากๆก็เกือบๆมีอะไรกับน้องเค้า แต่ก็หยุดไว้ได้ ทุกอย่างก็ดำเนินไปเรื่อยๆนะครับ จนผมเริ่มรู้สึกผิด ถึงแม้เรายังไม่ได้มีอะไรกัน แต่ผมก็ทำอะไรๆกับน้องเค้าไปมากมาย เค้าเป็นผู้หญิง มันไม่ดี ผมพยายามจะบอกน้องเค้าว่าผมไม่ได้คิดอะไร แต่บอกไม่ได้เพราะสิ่งที่น้องเค้าทำดีกับผม ดูแลผม เห็นรอยยิ้มเค้าแล้วไม่อยากทำให้เค้าเสียใจ ก็พยายามคิดนะ ว่าเป็นแฟนกันเลยดีมั้ย แต่อีกใจก็คิดว่า ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ชอบน้องเค้า ถ้าคบเป็นแฟนกัน วันนึงผมเจอคนถูกใจ ผมจะทำยังไง ผมไม่อยากทำร้ายเค้า ก็เลยพยายามจะบอกน้องเค้าว่าคิดแค่พี่น้อง แต่ก็อย่างที่บอก มันบอกไม่ได้ จนวันนึงผมวางแผนที่จะบอกเค้า ผมให้น้องเค้าชวนเพื่อนไปเที่ยวไปดื่ม กะว่าพอบอกน้องเค้า น้องเค้าเสียใจจะได้มีเพื่อนดูแล แต่ระหว่างรอ ผมบังเอิญผมไปเจอรุ่นน้อง เปิดร้านเหล้า ก็เลยไปนั่งดื่มฆ่าเวลา แต่แล้วก็ติดลม ^^; ไม่ได้ไปหาน้องเค้า จนน้องเค้ามาหาผม ผมก็เมา ละก็กลับบ้านด้วยกัน คืนนั้นผมก็นัวกับน้องเค้าทำอะไรไปมากมาย เกือบจะถึงขั้นนั้น แต่สติดึงผมกลับมาได้ ก็หยุด แต่ก็ทำให้น้องมีความสุข แล้วก็นอนต่อ ตื่นมาก็นะ เมาๆค้างๆก็ให้น้องเค้าจัดการให้ ทีนี้รู้สึกผิดมากเลย เลยบอกตัวเองว่าพอแล้ว ผมเลยใส่เสื้อผ้า บอกน้องว่ามีงานด่วน จะอยู่ต่อหรือกลับบ้านก็ได้ แล้วผมก็ไปลาออกจากงาน ไปอยู่เชียงใหม่ น้องเค้าก็ถามว่าเมื่อไรจะกลับ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวกลับๆ พอผมกลับมาก็ไม่ได้บอกน้องเค้า จากที่เค้าโทรมาทุกวัน น้องเค้าก็เริ่มเกรงใจไม่ค่อยโทร ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง สงสารน้องเค้า แต่จำเป็นต้องตัด ผมเลยตัดสินใจบวช ผมบวชได้ 1 ปี แต่ไม่ได้บอกน้องเค้าว่าบวชที่ไหน  พอเห็นน้องเค้ามีแฟน ผมก็สึก ละกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ได้นัดไปกินข้าวคุยกัน น้องเค้าก็ถามว่า ทำไมถึงหายไป ผมก็บอกความจริงว่าผมไม่ได้คิดอะไร เท่านั้นล่ะ น้องเค้าร้องไห้เลย ผมก็ปลอบเค้านะ ขอโทษเค้า เค้าเป็นคนดีมากๆเลย น่ารักมากๆ แคร์ผมกลัวผมจะห่วง เค้าก็ยิ้มทั้งน้ำตา บอกว่า ดูสิคนมองทั้งร้านละ คนเค้าจะคิดยังไง ผู้หญิงน่ารักน่าตาดีมานั่งร้องไห้ให้ผู้ชายน้ำตาธรรมดาๆ น้องเค้าพูดจบ ผมก็ลุกขึ้นไปกอดเค้าหอมเค้าแล้วก็ขอโทษเค้า
1 คืนก่อนน้องเค้าจะแต่งงาน น้องเค้ามาเคาะประตูห้องผมตอนสี่ทุ่ม มาขอกอดและจูบผมเป็นครั้งสุดท้าย ผมร้องไห้นะ ผมดีใจ ที่เค้าได้เจอผู้ชายที่คิดจะดูแลเค้าไปได้ตลอด หลังจากวันนั้นเราก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย เก็บไว้แต่ช่วงเวลาดีๆ

ตอนอยู่ด้วยกัน มันเป็นความรู้สึก ก้ำๆกึงๆ จะสุขก็ไม่สุด จะทุกก็ไม่ทุก จะแฟนก็ไม่ใช่ จะเพื่อนก็ไม่เชิง
ถึงแม้เราจะทำอะไรผิดพลาดไป แต่สุดท้าย เราต้องกลับมายืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องที่ควรจะเป็น
และนั่นคือประสบการ์ณผู้ชายแบบผม ที่ผ่านประสบการ์ณคล้ายๆกันนี้มา ^^'
ความคิดเห็นที่ 100
หลังจากอ่านที่เจ้าของกระทู้เล่ามาทั้งหมดผมวิเคราะห์แบบนี้ครับ
ที่คุณโอมเค้าไม่ยอมมีอะไรกับคุณเพราะตัวคุณเองมากกว่าครับ เพราะคุณก็บอกเองว่าถ้าคุณเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ก็พร้อมจะไปและความรู้สึกของคุณเป็นแบบไม่มีใครมากกว่า แถมจากที่คุณเล่ามาโอมก็เลยพูดว่า "โอมเคยพูดทำนองว่า ถ้าวันนึง อิมไปมีแฟน อิมก็จะทิ้งเราไปใช่มั้ย เพราะอิมเป็นแบบนั้นตลอดเลย" จากข้อความนี้ก็บอกได้แล้วครับว่าโอมเค้าคิดยังไง เค้ารู้ใจคุณมากแค่ไหน เค้าเจ็บทุกครั้งที่คุณทิ้งเค้าไป ที่เค้าหยุดอยู่แค่นี้เพราะเมื่อเกินเลยไปถึงขั้นนั้นมันจะยิ่งรู้สึกผูกพันกันมากขึ้นรู้สึกว่าคุณเป็นของเค้า แต่แล้วสักวันนึงยังไงคุณก็ต้องทิ้งเค้าไปอยู่ดีเมื่อเจอคนที่ใช่ เมื่อถึงตอนนั้นเค้าจะยิ่งเจ็บมากกว่านี้ครับ เค้าเลยหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นี้ดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 5
จริงๆคุณทั้งคู่ก็เป็นแฟนกันแหละ เพียงแต่ปากแข็งไม่ยอมรับกันก็แค่นั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่