เชิญติดตามเนื้อความกันได้ตามนี้เลยครับ.........

สวัสดีครับผมเป็นลูกค้าของ Truemove มาเป็นเวลาเกือบสิบปีโดยที่ผ่านมาก็ไม่เคยจะมีปัญหา

เนื่องจากใช้โทรศัพท์ในระบบ Prepaid ครับ (ตังหมดก็เติมใหม่...ไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ค้างให้กวนใจแน่นอน)ปัจจุบันเบอร์นั้นไม่ได้ใช้แล้วครับ

แต่!!!! เมื่อวันเสาร์ที่ 9 พฤจิกายน 2556 ที่ผ่านมาไม่นานนี่เอง เกิดอยากจะตามกระแสไปกะเค้ามั่งโดย

ได้ไปต่อแถวซื้อสมาร์ทโฟนพ่วงด้วยโปรโมชั่นในงานที่จัดขึ้นที่ศูนย์ศิริกิตต์ต่อเป็นชั่วโมงได้บัตรคิวแล้วก็สบายใจละว่าได้ของแน่ๆ

ปรากฎว่า!!! เมื่อถึงคิวที่เรียกเจ้าหน้าที่บอกว่าชื่อของผมมียอดค้างชำระค่าโทรศัพท์ Postpaid อยู่ 6 ร้อยกว่าบาท

ให้ผมชำระยอดค้างก่อนไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้...ซึ่งมันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อผมไม่เคยใช้เบอร์ของทรูเบอร์นี้เลย

หรือแม้แต่ไปรับซิมฟรีตามที่เค้าชอบแจกกันผมก็ไม่เคย สำเนาเอกสารที่ต้องใช้ติดต่อในการทำธุรกรรมต่างๆผมก็จะเซ็นสำเนาถูกต้อง

และระบุวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้อย่างชัดเจนเสมอ...แล้วทำไม!! ชื่อของผมถึงนำไปแอบอ้างในการนำไปเปิดใช้เบอร์โทรศัพท์ได้!!!! (นี่คือประเด็นที่ 1)

หลังจากคิดสักพักผมเลยถามพนักงานว่าแล้วอย่างงี้ผมต้องทำอย่างไรต่อเนื่องจากเดินทางมาไกลพอสมควรเพื่อที่จะมาซื้อโทรศัพท์

และมาเจอปัญหาที่ผมไม่ได้เป็นคนก่อขึ้น...พนักงานกลับแจ้งว่าต้องแจ้งความเรื่องที่ถูกแอบอ้างที่สถานีตำรวจ

และนำใบแจ้งความนั้นไปยื่นต่อศูนย์ทรูเพื่อแจ้งเรื่องไปยังส่วนกลางอีกที ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไขประมาณหนึ่งเดือน

(ในใจก็คิดว่า อะไรมันจะนานขนาดนั้น ทีคนแอบอ้างเอาเอกสารไปเปิดหละไม่ตรวจเลยสักนิด) ทั้งหมดทั้งมวลที่พนักงานแจ้งมานี้สรุปได้ว่า!!

วันนี้ผมจะไม่สามารถซื้อโทรศัพท์พร้อมกับเปิดเบอร์ใหม่ได้!!! หรือไม่ก็ต้องชำระค่าใช้จ่ายของเบอร์ที่ผมถูกแอบอ้างชื่อไปใช้เปิดซิมไปถึงจะดำเนินการต่อได้!!!  

จะเห็นว่าทุกคนคงคิดว่าค่าใช้จ่าย 6 ร้อยกว่าบาทอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่สิ่งสำคัญคือ “ผมไม่ได้ใช้ทำไมผมต้องจ่าย” !!!  

เนื่องจากผมมีความจำเป็นที่จะต้องใช้โทรศัพท์หลังจากนั้นผมจึงได้ใช้ชื่อเพื่อนที่ไปด้วยในการเปิดใช้บริการเบอร์โทรศัพท์นี้ก่อน

หลังจากนั้นช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556 ผมก็ได้ไปแจ้งความที่ สน. (ตอนแจ้งความตำรวจเขียนให้เร็วมากเพราะตำรวจบอกว่ามีคนมาแจ้งความทำนองนี้กับ True บ่อยมาก….ทำให้ผมคิดว่าทั้งที่เรื่องก็เกิดบ่อยมากแต่ทำไม True ถึงไม่ได้ดำเนินการแก้ไข…นี่คือประเด็นที่ 2)

และนำใบแจ้งความตัวจริงพร้อมสำเนาไปยื่นเรื่องต่อศูนย์ True สาขา Central World ในช่วงบ่ายๆ

โดยพนักงานที่รับเรื่องไว้ผมจำชื่อไม่ได้แต่จำลักษณะและตำแหน่งการนั่งได้ (เป็นผู้หญิงผมสั้นหน้าเรียวนั่งอยู่ช่องให้บริการเกือบริมขวาสุด)

โดยที่ผมได้แจ้งเรื่องทั้งหมดให้พนักงานท่านนี้ทราบ ในระหว่างนี้ผมได้ให้พนักงานช่วยสืบหาข้อมูลว่า Sale คนไหนเป็นคนนำชื่อผมไปเปิดซิมและใช้เอกสารอะไรในการเปิดเบอร์

ทางพนักงานก็ให้ความร่วมมือในการค้นหาและแจ้งว่า เป็น Dealer เจ้าหนึ่ง (ผมเคยให้เค้าจดชื่อ Dealer มาแต่ดันทำใบหาย) ใช้สำเนาใบขับขี่ของผมในการนำไปเปิดเบอร์!!

ซึ่งทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากความประมาทของผมในการสำเนาเอกสารเพื่อติดต่อในการทำธุรกรรมต่างๆแน่ น่าจะเกิดจากการที่ผมเคยขับรถไปไวท์ลูกค้าและได้นำใบขับขี่ไปแลกไว้ (เตือนภัยให้กับผู้ที่ต้องนำบัตรไปแลกตามสถานที่ต่างๆครับ!!)

นั่นทำให้ผมสงสัยขึ้นไปอีกว่า หน้าผมนี่มันเหมือนหน้าคนที่แอบอ้างนำสำเนาเอกสารผมไปเปิดขนาดที่ว่าแยกแยะไม่ได้เลยหรอ?????

แสดงว่าขั้นตอนในการให้บริการมันมั่วมากถึงขนาด หน้าไม่ต้องเหมือน ลายเซ็นไม่ต้องมีอย่างนั้นแล้วจะมีการรณรงค์ให้จดทะเบียนซิมทำไม???

หลังจากนั้นผมจึงถามทางพนักงานท่านนี้ว่าทาง True จะรับผิดชอบกับความหละหลวมในการปฏิบัติงานของ Dealer และ True เองที่อนุมัติการเปิดซิมใหม่ให้กับบุคคลที่แอบอ้างเอาเอกสารไปใช้ และเวลาที่ผมเสียไปอย่างไร???

พนักงานท่านนี้กลับตอบว่า Case นี้ของคุณถ้าแจ้งเรื่องไปแล้วยังงัยก็ได้รับการแก้ไขแน่นอนแต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 อาทิตย์ (สรุปไม่รับผิดชอบว่างั้น??) สุดท้ายก็ได้แต่กลับบ้านไปรอ

หลังจากนั้นเย็นวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ผมต้องไปทำธุระที่ Central World พอดีเลยกะว่าเข้าไปสอบถามสักหน่อยว่าดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว

ซึ่งก็ไปกดบัตรคิวปกติ ปรากฏว่าต้องรออีก 28 คิว (พระเจ้า!! คนก็ไม่ได้เยอะนะครับ แต่ทำไมนานขนาดนั้น อันนี้คิดในใจ)

หลังจากรอไปพักใหญ่ก็เหลือบไปเห็นไฟเรียกคิวเสีย (การให้บริการกับลูกค้าช้ามาก…อันนี้ประเด็นที่ 3) แต่ทำอย่างไรได้ก็ต้องรอเรียกต่อไปสุดท้ายทางทีมงาน True แก้ไขโดยการตะโกนเรียกเบอร์แทน 

และเมื่อถึงคิวผม ผมก็ได้เข้าไปติดต่อกับโต๊ะริมขวาสุดกับพนักงานผู้ชายชื่อคุณเบิร์ด (ขออนุญาตเอ่ยชื่อนะครับ)

ผมเลยสอบถามข้อมูลไปว่าเรื่องที่ผมเคยแจ้งไว้ขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่าหลังจากที่ทางคุณเบิร์ดตรวจสอบข้อมูลในระบบ

ก็ได้ถามผมว่าคุณได้แจ้งข้อมูลไว้แล้วรึยังเพราะในระบบยังไม่มีข้อมูลว่าอยู่ในระหว่างการส่งเรื่อง…ผมงงมากว่าทั้งที่ผมเคยมาแจ้งแล้วแต่ทำไมในระบบกลับไม่มีข้อมูล

เมื่อผมมองไปโต๊ะข้างๆก็พบกับพนักงานผู้หญิงผมสั้นหน้าเรียวที่เคยรับเรื่องผมไว้เมื่อคราวที่แล้ว

ผมจึงแจ้งให้คุณเบิร์ดทราบว่าครั้งที่แล้วผมแจ้งพนักงานผู้หญิงคนข้างๆนี่แหละครับ นี่ก็แสดงถึงความไม่เอาใจใส่ลูกค้า (ประเด็นที่ 4)

คุณเบิร์ดจึงรับให้ผมแจ้งเรื่องใหม่อีกรอบโดยบอกว่าเรื่องน่าจะโอเคภายในสามวัน (ต้องรอดูผลต่อไป)

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ผมจึงขอความเห็น และความรับผิดชอบจากทาง True เพื่อไม่ให้ลูกค้าคนอื่นได้รับความเดือดร้อนเช่นผมอีกครับ…..