เพลง : ไม่ว่าใครจะชนะ เราแพ้
ศิลปิน : ฟักกลิ้งฮีโร่ ตระกูล๖๖๒ ไอซ์ซี่แมน และ มิสเลิฟ
อัลบั้ม : รัก ณ สยาม
***(ฮุค)***
มิสเลิฟ:
ธงไตรรงค์ยังคงโบกต่อไป...
จิระ:
เมื่อมหาสงครามถือกำเนิด
จากความขัดแย้งที่จุดจบคือเสียงปืนเสียงระเบิด
เสียงหัวเราะที่คละเคล้าน้ำตา
เสียงถากถาง เสียงความเศร้าดังกึกก้องลั่นนภา
ปัญญาชนหรือผู้ก่อจราจล
ผลสุดท้ายผู้แพ้มีจำนวน ๖๐ ล้านกว่าคน
ที่จนอยู่ในตรอกเดียวกัน หาทางออกเดียวกัน
แต่ทำไมคำตอบไม่ตรงกัน
ไอซ์ซี่แมน:
ฉันเห็นแลนด์ออฟสไมล์ปกคลุมด้วยควันไฟ
ฉันได้กลิ่นความเศร้าเคล้าความบรรลัย
ฉันได้ยินเสียงกระสุนปะทะกระโหลกใคร
เห็นเพียงชาวไทยโบกธง ขอความช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะฝ่ายไหน คนอีสาน คนกรุง คนใต้ หรือคนเหนือ
เพราะที่เหลือคือน้ำตา
ที่ไหลนองทั่วประเทศในเดือนพฤษภา
เจ้าพระยา:
ดูข่าวออกโทรทัศน์ ว่าบ้านเมืองพังทลาย
โทรศัพท์ที่ได้รับ บอกผู้คนล้มตาย
เห็นภาพพี่น้องเพื่อน นอนเกลื่อนไม่หายใจ
ที่เป็นญาติทางชาติเชื้อ ของพวกเราที่ชื่อไทย
สยามเมืองยิ้ม กลายเป็นคำแค่พูดไป
ไม่เหลือสิ้นคนใจจริง มีแต่ซากฟืนไฟ
สงครามพวกเดียวกัน เราจะฆ่ากันทำไม
ให้ลูกหลานอยู่ที่บ้าน ต้องร่ำร้องว่าเพื่อใคร
***(ฮุค)***
กินหมี่:
ถามใจคิดย้อนเมื่อขับร้องเพลงชาติไทย
๘ นาฬิกาไตรรงค์สะบัดขึ้นเสาธง
การสร้างชาติแลกเลือดเนื้อบรรพชน
แต่ผืนดินที่ยืนกลับไปแลกความสากล
การปกครองควรอยู่ที่ใจคน
หาใช่รูปแบบที่เป็นบาดแผลกลางใจตน
ก่อนเพลงชาติไทยประโยคสุดท้ายจะจบลง
ก่อนไตรรงค์ที่เคยพัดจะปลิวหายไปกลางสายลม
ฟักกลิ้งฮีโร่:
เราต่างดับไฟด้วยการใช้ดุ้นฟืน
เราผลักคนล้มด้วยคำว่าจุดยืน
เอาหมึกพิมพ์สีดำ สาดใส่ฟ้ากลางคืน
แล้วยิงเสียงปืนให้ดังกว่า เพื่อที่จะกลบเสียงปืน
เอาวันมะรืนที่ยังมองไม่เห็น
ตัดสินพรุ่งนี้ว่ากำลังจะเน่าเหม็น
แล้วเอาเมื่อวานซืนที่ลำบากทุกข์เข็ญ
มารวมกับเมื่อวานนี้ตัดสินวันนี้ว่าคนละความคิดเห็น
เกิดความแตกต่างคนละสีเสื้อเดียวกัน
ทั้งๆที่สีเลือดเดียวกัน ทั้งสีธงชาติและสีสถาบัน
สงครามที่ฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน
แค่หนึ่งชีวิตก็มากเกินกว่าจะสูญเสียไปให้เดือนพฤษภา
ซากเซ็นทรัลเวิลด์หรือการไม่ยุบสภา
สีลมราชประสงค์หรือเลือดที่โชกพระประธาน
สงครามที่รบกันระหว่างพี่น้องแท้ๆ
จึงเป็นสงครามที่ไม่ว่าใครชนะ เราแพ้
***(ฮุค)***
วับแวบแวววาว:
อยากให้คุณคิดให้ดี
ว่าประชาธิปไตยของพวกคุณได้แต่ใดมา
มันแลกมาด้วยกายาหรือสติปัญญา
มันเริ่มเป็นปัญหาทำให้คนสิ้นชีวา
อย่าได้แต่รอเวลา อย่ายอมให้ใครมาปิดตา
บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร
ในสุดท้ายคุณก็คือคนไทย
เกล้าจุก:
กรุงเทพมหานคร ๒ ช่วงอายุคน
มานะลำบากอดทนดิ้นรนหลุดพ้นจากทาสแลกความเป็นคน
นับวันเหมือนกับจับมือปิดตาพากันลงเหว
ย้อนนึกจิตใจบรรพบุรุษที่ลุกเปลว
บางระจันปืนใหญ่ยังแตกพ่าย
ไร้สึ่งสามัคคีปรองดองชาติมลาย
วัฒนธรรมสืบสานความเป็นไทย
ขวานทองอยากสืบทอดให้ใคร
ปาโนชช่า:
หากธงไทยยังดำรงให้ชนไทยโบกสะบัด แถบสามสีที่ต่างกัน
เหตุใดสำคัญมาแบ่งสีกัน ใต้แผ่นฟ้าผืนน้ำบนแผ่นดินเดียวกัน
กับเม็ดข้าวที่เรากินกันร่วมสาบาน ที่จะก้าวไปด้วยกัน
และดั่งคำสาปกระหน่ำลงทั้งสองฟากฝั่งพื้น
วันที่ไทยถือธงอยู่คนละฟากฝั่งปืน
และน้ำตาที่นองหน้าก็ไม่อาจดับกองไฟฟืน
เหมียววิฬาร:
ไม่ได้อยู่ที่ระบอบแต่มันอยู่ที่ระบบ
ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ด้วยกันอย่างสงบ
ไม่ต้องจบที่ใครหรือจะอยู่ฝ่ายไหน
ที่รู้กันอยู่คุณนั้นเป็นคนไทย
มิได้เป็นเครื่องมือหรือเครื่องต่อรอง
อธิปไตยของชาติคือสิ่งที่ต้องประคอง
ตามครรลองคลองธรรมหรือแล้วแต่เวรแต่กรรม
ผลสรุปสุดท้าย ไทยนั้นถูกกระทำ
" ไม่ว่าใครชนะประเทศไทยนั้นถูกกระทำ"
Pray for thailand
ศิลปิน : ฟักกลิ้งฮีโร่ ตระกูล๖๖๒ ไอซ์ซี่แมน และ มิสเลิฟ
อัลบั้ม : รัก ณ สยาม
***(ฮุค)***
มิสเลิฟ:
ธงไตรรงค์ยังคงโบกต่อไป...
จิระ:
เมื่อมหาสงครามถือกำเนิด
จากความขัดแย้งที่จุดจบคือเสียงปืนเสียงระเบิด
เสียงหัวเราะที่คละเคล้าน้ำตา
เสียงถากถาง เสียงความเศร้าดังกึกก้องลั่นนภา
ปัญญาชนหรือผู้ก่อจราจล
ผลสุดท้ายผู้แพ้มีจำนวน ๖๐ ล้านกว่าคน
ที่จนอยู่ในตรอกเดียวกัน หาทางออกเดียวกัน
แต่ทำไมคำตอบไม่ตรงกัน
ไอซ์ซี่แมน:
ฉันเห็นแลนด์ออฟสไมล์ปกคลุมด้วยควันไฟ
ฉันได้กลิ่นความเศร้าเคล้าความบรรลัย
ฉันได้ยินเสียงกระสุนปะทะกระโหลกใคร
เห็นเพียงชาวไทยโบกธง ขอความช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะฝ่ายไหน คนอีสาน คนกรุง คนใต้ หรือคนเหนือ
เพราะที่เหลือคือน้ำตา
ที่ไหลนองทั่วประเทศในเดือนพฤษภา
เจ้าพระยา:
ดูข่าวออกโทรทัศน์ ว่าบ้านเมืองพังทลาย
โทรศัพท์ที่ได้รับ บอกผู้คนล้มตาย
เห็นภาพพี่น้องเพื่อน นอนเกลื่อนไม่หายใจ
ที่เป็นญาติทางชาติเชื้อ ของพวกเราที่ชื่อไทย
สยามเมืองยิ้ม กลายเป็นคำแค่พูดไป
ไม่เหลือสิ้นคนใจจริง มีแต่ซากฟืนไฟ
สงครามพวกเดียวกัน เราจะฆ่ากันทำไม
ให้ลูกหลานอยู่ที่บ้าน ต้องร่ำร้องว่าเพื่อใคร
***(ฮุค)***
กินหมี่:
ถามใจคิดย้อนเมื่อขับร้องเพลงชาติไทย
๘ นาฬิกาไตรรงค์สะบัดขึ้นเสาธง
การสร้างชาติแลกเลือดเนื้อบรรพชน
แต่ผืนดินที่ยืนกลับไปแลกความสากล
การปกครองควรอยู่ที่ใจคน
หาใช่รูปแบบที่เป็นบาดแผลกลางใจตน
ก่อนเพลงชาติไทยประโยคสุดท้ายจะจบลง
ก่อนไตรรงค์ที่เคยพัดจะปลิวหายไปกลางสายลม
ฟักกลิ้งฮีโร่:
เราต่างดับไฟด้วยการใช้ดุ้นฟืน
เราผลักคนล้มด้วยคำว่าจุดยืน
เอาหมึกพิมพ์สีดำ สาดใส่ฟ้ากลางคืน
แล้วยิงเสียงปืนให้ดังกว่า เพื่อที่จะกลบเสียงปืน
เอาวันมะรืนที่ยังมองไม่เห็น
ตัดสินพรุ่งนี้ว่ากำลังจะเน่าเหม็น
แล้วเอาเมื่อวานซืนที่ลำบากทุกข์เข็ญ
มารวมกับเมื่อวานนี้ตัดสินวันนี้ว่าคนละความคิดเห็น
เกิดความแตกต่างคนละสีเสื้อเดียวกัน
ทั้งๆที่สีเลือดเดียวกัน ทั้งสีธงชาติและสีสถาบัน
สงครามที่ฆ่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน
แค่หนึ่งชีวิตก็มากเกินกว่าจะสูญเสียไปให้เดือนพฤษภา
ซากเซ็นทรัลเวิลด์หรือการไม่ยุบสภา
สีลมราชประสงค์หรือเลือดที่โชกพระประธาน
สงครามที่รบกันระหว่างพี่น้องแท้ๆ
จึงเป็นสงครามที่ไม่ว่าใครชนะ เราแพ้
***(ฮุค)***
วับแวบแวววาว:
อยากให้คุณคิดให้ดี
ว่าประชาธิปไตยของพวกคุณได้แต่ใดมา
มันแลกมาด้วยกายาหรือสติปัญญา
มันเริ่มเป็นปัญหาทำให้คนสิ้นชีวา
อย่าได้แต่รอเวลา อย่ายอมให้ใครมาปิดตา
บนผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร
ในสุดท้ายคุณก็คือคนไทย
เกล้าจุก:
กรุงเทพมหานคร ๒ ช่วงอายุคน
มานะลำบากอดทนดิ้นรนหลุดพ้นจากทาสแลกความเป็นคน
นับวันเหมือนกับจับมือปิดตาพากันลงเหว
ย้อนนึกจิตใจบรรพบุรุษที่ลุกเปลว
บางระจันปืนใหญ่ยังแตกพ่าย
ไร้สึ่งสามัคคีปรองดองชาติมลาย
วัฒนธรรมสืบสานความเป็นไทย
ขวานทองอยากสืบทอดให้ใคร
ปาโนชช่า:
หากธงไทยยังดำรงให้ชนไทยโบกสะบัด แถบสามสีที่ต่างกัน
เหตุใดสำคัญมาแบ่งสีกัน ใต้แผ่นฟ้าผืนน้ำบนแผ่นดินเดียวกัน
กับเม็ดข้าวที่เรากินกันร่วมสาบาน ที่จะก้าวไปด้วยกัน
และดั่งคำสาปกระหน่ำลงทั้งสองฟากฝั่งพื้น
วันที่ไทยถือธงอยู่คนละฟากฝั่งปืน
และน้ำตาที่นองหน้าก็ไม่อาจดับกองไฟฟืน
เหมียววิฬาร:
ไม่ได้อยู่ที่ระบอบแต่มันอยู่ที่ระบบ
ทำอย่างไรก็ได้ให้อยู่ด้วยกันอย่างสงบ
ไม่ต้องจบที่ใครหรือจะอยู่ฝ่ายไหน
ที่รู้กันอยู่คุณนั้นเป็นคนไทย
มิได้เป็นเครื่องมือหรือเครื่องต่อรอง
อธิปไตยของชาติคือสิ่งที่ต้องประคอง
ตามครรลองคลองธรรมหรือแล้วแต่เวรแต่กรรม
ผลสรุปสุดท้าย ไทยนั้นถูกกระทำ