หลายปีก่อนเราได้รับคำเเนะนำจากเเพทย์ในเรื่องนี้ เเต่เราปฎิเสธเพราะมองไม่เห็นความจำเป็น (ตอนนั้นลูกอายุยังน้อย ไม่ว่าจะไปไหนก็จะมีเราไปด้วยตลอด พร้อมกับการปลูกฝังให้รู้จักรักนวลสงวนตัว เราเลยไม่ห่วงสักเท่าไหร่)
ปีนี้ลูกสาวเราอายุ 17 เรียนอยู่ชั้นมอหก ซึ่งอีกไม่นาน เค้าก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เค้ากำลังจะย้ายออกไปอยู่เองเพื่อเรียนต่อในระดับมหาลัย ซึ่งมาถึงจุดนี้ เราก็เริ่มที่จะทำใจได้เเล้วว่า สักวันเค้าก็จะมีความรัก เเละจะตามมาซึ่งเพศสัมพัน
เมื่อวานเราได้คุยกับลูกสาวอีกครั้งในเรื่องนี้ เริ่มคิดว่าจริงๆเเล้วก็อาจจะจำเป็นก็ได้ เพราะถ้าเค้าพลาดขึ้นมา อย่างน้อยก็อาจจะช่วยได้บ้าง เราขอให้เค้าไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน เราบอกกับเค้าไปว่า เราเข้าใจถ้าสักวันเค้าจะมีคนรักเเละมีเพศสัมพัน เราไม่ได้ห่วงในเรื่องนั้น เเต่ที่เราห่วงคือความปลอดภัย ทั้งเรื่องการติดเชื้อ เเละการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ลองๆมาฟังบทสนทนาระหว่างเเม่ลูกดูนะคะ
"ไปฉีดวัคซีนดีไหมลูก"
"วัคซีนอะไรเเม่"
"ป้องกันการติดเชื่อทางเพศสัมพันหน่ะ เผื่อว่าวันข้างหน้าอยากจะมีเเฟน"
กรี๊ดเสียงดังลั่น "เเม่เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย"
"ก็เเค่เผื่อไว้ก่อน เราโตขึ้นทุกวัน ช้าเร็วเดี๋ยวก็ต้องมี"
"ไม่จำเป็นอ่ะเเม่ หนูไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้ถึงวันเเต่งงานเลยดีไหม"
"เเม่ไม่ได้ห้ามในเรื่องนั้น เเต่อยากให้รู้จักการป้องกันตัวเอง เผื่อเอาไว้"
"เผื่ออะไรอ่ะเเม่ ฉีดวัคซีนเเล้วจะไปนอนกับใครก็ได้เหรอ"
"ไม่ได้หมายความว่ายังง้านนน เเค่เผื่อเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้าไปมีเพศสัมพันกับเเฟนจะได้ปลอดภัยในเรื่องของโรคภัย"
"ไม่เอา ไม่ฉีด ยังไม่มีเเฟนหรอก มีเเล้วจะบอก"
"เเม่ไม่ได้ห้ามจริงๆนะลูก เเม่เข้าใจ เเค่กลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยก็เท่านั้นเอง"
"เอ๊ะเเม่นี่ยังไง บอกว่าไม่ฉีดก็ไม่ฉีดซิ ชอบเพื่อนต่างเพศหน่ะ หนูก็เคยชอบ เเต่ไม่ได้คิดไกลถึงขนาดนั้น หนูยังบริสุทธิ์ผุดผ่องร้อยเปอร์เซ็นเเม่ เเละถ้าหนูจะเสียให้ใครสักคน เค้าจะต้องเป็นคนที่หนูเเต่งงานด้วย" ดูเหมือนสายตาเค้าจะมุ่งมั่น เเต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่า จะรอดไปได้สักกี่น้ำน๊อออ...
ถึงเเม้ว่าได้ยินเเบบนี้เเล้วก็รู้สึกวางใจขึ้นมาอีกนิด เเต่ลึกๆเเล้วเราก็ยังอยากให้เค้าได้รับการฉีดวัคซีนอยู่ดี เพราะรู้ว่าคนเรามันพลาดกันได้ เราไม่ได้ห้ามลูกว่าห้ามทำ เเต่เราเเค่อยากจะสอนให้รู้จักการป้องกันก่อนทำ
ใครมีวิธีสอนลูกยังไง เเบ่งปันความรู้กันค่ะ หรือใครคิดว่าวัคซีนตัวนี้สำคัญมากเเค่ไหน หรือใครพาลูกไปฉีดมาเเล้วบ้าง เเลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะ
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันนั้นสำคัญมากเเค่ไหนสำหรับเด็กวัยรุ่น
ปีนี้ลูกสาวเราอายุ 17 เรียนอยู่ชั้นมอหก ซึ่งอีกไม่นาน เค้าก็จะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เค้ากำลังจะย้ายออกไปอยู่เองเพื่อเรียนต่อในระดับมหาลัย ซึ่งมาถึงจุดนี้ เราก็เริ่มที่จะทำใจได้เเล้วว่า สักวันเค้าก็จะมีความรัก เเละจะตามมาซึ่งเพศสัมพัน
เมื่อวานเราได้คุยกับลูกสาวอีกครั้งในเรื่องนี้ เริ่มคิดว่าจริงๆเเล้วก็อาจจะจำเป็นก็ได้ เพราะถ้าเค้าพลาดขึ้นมา อย่างน้อยก็อาจจะช่วยได้บ้าง เราขอให้เค้าไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน เราบอกกับเค้าไปว่า เราเข้าใจถ้าสักวันเค้าจะมีคนรักเเละมีเพศสัมพัน เราไม่ได้ห่วงในเรื่องนั้น เเต่ที่เราห่วงคือความปลอดภัย ทั้งเรื่องการติดเชื้อ เเละการตั้งครรภ์ในวัยเรียน
ลองๆมาฟังบทสนทนาระหว่างเเม่ลูกดูนะคะ
"ไปฉีดวัคซีนดีไหมลูก"
"วัคซีนอะไรเเม่"
"ป้องกันการติดเชื่อทางเพศสัมพันหน่ะ เผื่อว่าวันข้างหน้าอยากจะมีเเฟน"
กรี๊ดเสียงดังลั่น "เเม่เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย"
"ก็เเค่เผื่อไว้ก่อน เราโตขึ้นทุกวัน ช้าเร็วเดี๋ยวก็ต้องมี"
"ไม่จำเป็นอ่ะเเม่ หนูไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้ถึงวันเเต่งงานเลยดีไหม"
"เเม่ไม่ได้ห้ามในเรื่องนั้น เเต่อยากให้รู้จักการป้องกันตัวเอง เผื่อเอาไว้"
"เผื่ออะไรอ่ะเเม่ ฉีดวัคซีนเเล้วจะไปนอนกับใครก็ได้เหรอ"
"ไม่ได้หมายความว่ายังง้านนน เเค่เผื่อเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้าไปมีเพศสัมพันกับเเฟนจะได้ปลอดภัยในเรื่องของโรคภัย"
"ไม่เอา ไม่ฉีด ยังไม่มีเเฟนหรอก มีเเล้วจะบอก"
"เเม่ไม่ได้ห้ามจริงๆนะลูก เเม่เข้าใจ เเค่กลัวว่ามันจะไม่ปลอดภัยก็เท่านั้นเอง"
"เอ๊ะเเม่นี่ยังไง บอกว่าไม่ฉีดก็ไม่ฉีดซิ ชอบเพื่อนต่างเพศหน่ะ หนูก็เคยชอบ เเต่ไม่ได้คิดไกลถึงขนาดนั้น หนูยังบริสุทธิ์ผุดผ่องร้อยเปอร์เซ็นเเม่ เเละถ้าหนูจะเสียให้ใครสักคน เค้าจะต้องเป็นคนที่หนูเเต่งงานด้วย" ดูเหมือนสายตาเค้าจะมุ่งมั่น เเต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่า จะรอดไปได้สักกี่น้ำน๊อออ...
ถึงเเม้ว่าได้ยินเเบบนี้เเล้วก็รู้สึกวางใจขึ้นมาอีกนิด เเต่ลึกๆเเล้วเราก็ยังอยากให้เค้าได้รับการฉีดวัคซีนอยู่ดี เพราะรู้ว่าคนเรามันพลาดกันได้ เราไม่ได้ห้ามลูกว่าห้ามทำ เเต่เราเเค่อยากจะสอนให้รู้จักการป้องกันก่อนทำ
ใครมีวิธีสอนลูกยังไง เเบ่งปันความรู้กันค่ะ หรือใครคิดว่าวัคซีนตัวนี้สำคัญมากเเค่ไหน หรือใครพาลูกไปฉีดมาเเล้วบ้าง เเลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะ